มนุษย์น้ำแข็ง
มันเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่นักวิทยาศาสตร์ยังหาคำตอบให้ไม่ได้ เมื่อชายวัยกลางคนสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมสุดแสนหฤโหดขนาดสามารถ คร่าชีวิตคนทั่วไปได้ง่ายๆ โดยที่เขาไม่แสดงอาการสะทกสะท้านใดๆออกมาแม้แต่น้อย
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ขณะที่วิม ฮอฟ (Wim Hof) ชาวดัตช์ วัย 28 ปี เดินเล่นอยู่ในสวนสาธารณะ เขามองไปที่บึงซึ่งกลายเป็นน้ำแข็งจากความหนาวเย็นของอากาศกลางฤดูหนาว เขาคิดในใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าเขาเองลงตัวเองไปแช่ในน้ำ
วิม ฮอฟ (Wim Hof)
วิมไม่สามารถหยุดคิดถึงสิ่งนั้นได้ ตาเขายังคงจ้องมองอยู่ที่บึง มีทางเดียวเท่านั้นที่จะรู้ได้ว่ามันจะเป็นอย่างไร วิมถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแต่เพียงชุดชั้นในและวิ่งลงไปแช่ในบึงทันที
30 วินาทีผ่านไป วิมไม่รู้สึกเหน็บหนาวกับความเย็นของน้ำเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นเขากลับรู้สึกสดชื่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน วินาทีนั้นเองที่วิมรู้ว่าร่างกายของเขาแตกต่างจากคนอื่นโดยสิ้นเชิง และนับตั้งแต่นั้นมา วิมกลับไปนอนแช่ในบึงทุกวันตลอดฤดูหนาว จนได้รับสมญานามว่า "มนุษย์น้ำแข็ง" (Iceman)
ลุยขั้วโลกเหนือ
แต่นั่นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น วิมเกิดสงสัยว่าร่างกายเขาสามารถทนรับสภาพความหนาวเย็นได้มากแค่ไหน เดือนมกราคม 1999 วิมเดินทางไปยังขั้วโลกเหนือเพื่อเดินมาราธอนทดสอบโดยนุ่งกางเกงขาสั้นเพียง ตัวเดียวเท่านั้น เขาไม่แม้แต่สวมรองเท้าด้วยซ้ำไป
สามปีต่อมา วิมก้าวไปอีกขั้น เขาสวมกางเกงว่ายน้ำเพียงตัวเดียวกระโดดลงน้ำในขั้วโลกเหนือ กระโดดลงดำใต้น้ำแข็งหนาเป็นระยะทาง 80 เมตร หรือเกือบสองเท่าตัวของความยาวสระว่ายน้ำที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โดยใช้เวลาอยู่ใต้ก้อนน้ำแข็ง 6 นาที 20 วินาที
ไม่ปรากฏร่องรอยของการถูกน้ำแข็งกัด (Frostbite) หรือแม้แต่อาการร่างกายสูญเสียความอบอุ่น (Hypothermia) แม้แต่น้อย ความประหลาดผิดมนุษย์คนอื่นๆทำให้วิม ฮอฟ เป็นที่สนใจของนักวิทยาศาสตร์
ปี 2004 วิมสร้างความฮือฮาให้กับชาวโลกด้วยการแสดงโดยเอาตัวลงไปแช่ในถังน้ำแข็งเป็น เวลานานถึง 1 ชั่วโมง 8 นาที ไม่แสดงอาการหนาวสั่นเลยแม้แต่น้อย
เดือนมกราคม 2007 วิมเดินทางไปยังโพล่าร์เซอร์เคิล (Polar Circle) ประเทศฟินแลนด์ เพื่อทำการเดินมาราธอนเป็นระยะทาง 21 กม. ภายใต้อากาศอุณหภูมิลบ 35 องศา และเช่นเคยเขาสวมกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียวเท่านั้น
ปีนเอเวอเรสต์
เดือนเมษายน 2007 วิมตัดสินใจท้ามัจจุราชด้วยการปีนขึ้นเอเวอเรสต์ (Everest) ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก โดยสวมกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว
เช่นเดียวกับนักปีนเขามืออาชีพคนอื่นๆ ก่อนจะพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์วิมจะต้องซ้อมปีนเขาสูงที่มีสภาพอากาศใกล้เคียง กับเทือกเขาหิมาลัย และสถานที่ที่วิมใช้ฝึกซ้อมคือภูเขามองต์บลังซ์ (Mont Blanc)
นอกจากนี้แล้ววิมยังมีวิธีการฝึกปีนเขาแบบฟรีสไตล์ที่ต่างจากนักปีนเขาทั่วๆ ไปด้วยการห้อยตัวเองอยู่ระหว่างบอลลูน 2 ลูกที่ลอยอยู่สูงจากพื้นดินที่ระดับ 1,500 เมตร โดยใช้เพียงนิ้วกลางเกี่ยวเชือกโยงระหว่างลูกบอลลูนเอาไว้ เท่านั้นยังไม่พอ หลังจากวิมกลับเข้ามาในกระเช้า เขาก็ปีนขึ้นไปนั่งชมวิวบนยอดลูกบอลลูน
เวอร์เนอร์ ดี จอง (Werner de Jong) นักปีนเขาอาชีพผู้มีประสบการณ์นำทีมนักไต่เขาขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์มาแล้ว หลายครั้ง ได้รับการติดต่อให้เป็นให้เป็นหัวหน้าทีมนำทาง โดยมีนักปีนเขาคนอื่นๆร่วมทีมและชนพื้นเมืองชาวเชอร์ป้า (Sherpa) 4 คนคอยช่วยเหลือ
เวอร์เนอร์กล่าวว่าเขารู้สึกยินดีที่วิมขอเข้าร่วมทีมพิชิตยอดเขาสูงที่สุด ในโลก แต่วิมคงเพี้ยนแน่ๆที่จะปีนเขาโดยสวมกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว