16 คนเจ็บเหยื่อปืนเม.ย.-พ.ค.53 แจ้งความจับ "มาร์ค-เทือก" แล้ว ให้การมัดข้อหาพยายามฆ่า

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายคารม พลพรกลาง ทนายความแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 จำนวน 16 คน เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีต ผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในข้อหาพยายามฆ่า จากนั้นนายธาริต เพ็งดิษฐ์ นำผู้เสียหายทั้งหมดไปแยกสอบปากคำ

 


 

 

สำหรับผู้บาดเจ็บชุดแรก 16 คน ประกอบด้วย 1.นายบดินทร์ วัชรโรบล 2.นายอิทธิกร ตันหยง ถูกยิงที่ถนนดินสอ 3.นายสันติพงษ์ อินทร์จันทร์ ถูกยิงที่แยกคอกวัว 4.นายปรีชา สุกใส ถูกยิงที่แยกศาลาแดง 5.นายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ ถูกยิงที่ถนนราชปรารภ 6.นายณรงค์ศักดิ์ สิงห์แม ถูกยิงที่วัดปทุมวนาราม 7.นายเสกสิทธิ์ ช้างทอง ถูกยิง 2 ครั้งที่หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา และที่บริเวณถนนพระราม 4 8.นายกฤตพจน์ บัวดี ถูกยิงที่สวนลุมพินี 9.นายณัฐพล ทองคุณ ถูกยิงที่สวนลุมพินี 10.นายไพโรจน์ ไชยพรม ถูกยิงที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ 11.นายวิโรจน์ โกสถา ถูกยิงที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ 12.นายคมกฤต นันทน์โชติ ถูกยิงที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ 13.นายไสว ทองอ้ม 14.นายสมเจตน์ จุ๋ยจิตร ถูกยิงที่ถนนดินสอ 15.นายวสุ สุริยะแก่นทราย ถูกยิงที่ถนนดินสอ และ 16.นายวิลพ อินทร์แปลง ถูกยิงที่ถนนดินสอ

 


 

 

ถูกยิงตาบอดเล่านาทีเลือด

 


 

นายเสกสิทธิ์ ช้างทอง เหยื่อกระสุนปืน ถูกยิงตาบอด 2 ข้าง กล่าวภายหลังให้ปากคำนาน 2 ชั่วโมงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 ขณะนั้นมีอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ย่านโพธิ์สามต้น เขตบางกอกใหญ่ โดยในช่วงเช้าขับขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งแฟนทำงานย่านวงเวียนใหญ่ ก่อนกลับมาเข้าวินที่โพธิ์สามต้น ต่อมามีลูกค้าจ้างให้ไปส่งย่านหัวลำโพง พอส่งลูกค้าเสร็จก็เห็นคนเสื้อแดงชุมนุมกันอยู่หน้าพรรคเพื่อไทย ถนนพระราม 4 จึงเข้าไปดูและพบว่าสถานการณ์เริ่มตึงเครียด มีกำลังทหารยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม และไม่นานทหารใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ชุมนุมบนถนนพระราม 4 และหน้าพรรคเพื่อไทยทันที ทำให้กระสุนปืนของทหารเข้าบริเวณใต้ตาซ้าย และล้มลงกับพื้น ก่อนจะมีคนมาช่วยนำส่งร.พ.กลาง

 


 

 

นายเสกสิทธิ์กล่าวต่อว่า หลังเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บที่ร.พ.กลางแล้ว แพทย์ให้กลับบ้านได้ในวันที่ 31 พ.ค. โดยช่วงแรกที่ถูกยิงทางแพทย์บอกกับญาติว่าให้ทำใจ เพราะอาจจะไม่รอด และก็ไม่สามารถผ่าตัดเอาหัวกระสุนออกจากตาซ้ายได้ เพราะกระสุนฝังอยู่ในจุดสำคัญ บริเวณดั้งจมูกและทับเส้นประสาทอยู่ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ผ่าหัวกระสุนออกได้ และตาทั้ง 2 ข้างบอดสนิท หลังจากตาบอดแล้วก็ไม่สามารถประกอบอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างอีก ต้องเปลี่ยนชีวิตมาขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้กำไรไม่มาก และบางครั้งก็ถูกขโมย สาเหตุที่ต้องยังคงทำงานนั้นเพราะต้องหารายได้ช่วยภรรยาเลี้ยงลูก 2 คน

 


 

 

จี้ดำเนินคดี มาร์ค-เทือก

 


 

เหยื่อปืนกล่าวต่อว่า การเข้าพบพนักงานสอบสวนวันนี้เพื่อต้องการให้เรียกนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพมารับทราบข้อกล่าวหาคดีพยายามฆ่าเพิ่มเติมเพราะบุคคลทั้ง 2 เป็นผู้ออกคำสั่งให้ทหารใช้ความรุนแรงกับประชาชนในปี 2553 จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก และจากเหตุการณ์ดังกล่าวนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพไม่เคยขอโทษประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ และญาติผู้เสียชีวิตเลย แม้คดีการเสียชีวิตของประชาชนปี 2553 จะสิ้นสุดลง และผู้ต้องหาในคดีถูกประหารชีวิต แต่ก็ไม่คุ้มกับการตายของประชาชนทั้ง 99 ศพ และก็ไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น แต่ต้องการแค่คำขอโทษจากปากของบุคคลทั้ง 2 นี้เท่านั้น

 


 

 

นายเสกสิทธิ์กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าที่จะตาบอด 2 ข้างก็เคยถูกยิงบริเวณต้นขาซ้ายมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 บริเวณโรงเรียนสตรีวิทยา ขณะที่ยืนเผชิญหน้ากับกลุ่มทหารที่กระชับวงล้อมเข้ามาหากลุ่มผู้ชุมนุม ขณะเผชิญหน้ากันอยู่นั้นก็มีชายฉกรรจ์คนหนึ่งใส่ชุดดำ สวมไอ้โม่ง และเสื้อเกราะ แหวกกลุ่มทหารมาจากด้านหลัง จากนั้นก็ใช้ปืนลูกซองยาวยิงเข้าใส่ทันที กระสุนถูกเข้าบริเวณต้นขาซ้ายได้รับบาดเจ็บ ส่วนชายที่ก่อเหตุก็มุดตัวหนีออกไปทางด้านหลังของทหารทันที แต่โชคดีกระสุนนัดนั้นแค่เฉียดผิวหนัง จนกระทั่งมาเกิดเหตุในวันที่ 19 พ.ค. หน้าพรรคเพื่อไทย

 


 

 

เหยื่อวัดปทุมฯร่วมแฉมัด

 


 

ส่วนนายณรงค์ศักดิ์ สิงห์แม ผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์ยิงวัดปทุมฯ กล่าวว่า เคยรับราชการทหารอยู่ที่ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และลาออกจากราชการมาประกอบอาชีพค้าขาย ช่วงที่เริ่มมีการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 มี.ค.2553 ก็เดินทางมาร่วมตั้งแต่แรก แต่จะเดินทางกลับบ้านที่ จ.ชลบุรี อยู่บ้าง เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 19 พ.ค.2553 อยู่บริเวณวัดปทุมฯ มีหน้าที่จัดเตรียมเสบียงอาหารและน้ำดื่มให้ผู้ร่วมชุมนุม ระหว่างที่นั่งพักตรงฟุตปาธภายในวัดได้ยินเสียงปืนดังขึ้น และถูกยิงเข้าที่ขาซ้าย หน้าท้อง และหน้าอก รวม 4 นัด บาดเจ็บสาหัส บาดแผลที่หน้าอกนั้นหากไม่ถูกเหรียญที่คล้องคอพาดกับกระเป๋าสะพายไว้อาจจะเสียชีวิตไปแล้วก็ได้

 


 

 

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวต่อว่าหลังถูกยิงจึงใช้ผ้าที่พกไว้รัดบาดแผลเพื่อห้ามเลือด และหมอบลงพร้อมกับคลานเข้าไปหลบที่บริเวณท้ายรถสิบล้อที่จอดอยู่ในบริเวณวัด ต่อมามีคนช่วยเหลือพาเข้าไปหลบที่สวนป่าของวัด ระหว่างนั้นยังเห็นว่ามีผู้ถูกยิงอีกหลายราย รวมทั้งสื่อมวลชนชาวต่างชาติ ที่ทราบภายหลังว่าเป็นผู้สื่อข่าวชาวเบลเยียม และช่วงที่มีคนช่วยเหลือก็ไม่เห็นเหตุการณ์ด้านนอกอีก กระทั่งประมาณเที่ยงคืนจึงมีเจ้าหน้าที่พยาบาลมาช่วยนำตัวส่งไปรักษาที่ร.พ.รามาธิบดี และที่มาแจ้งความกับดีเอสไอเพื่อต้องการให้ดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ข้อหาพยายามฆ่า เนื่องจากเป็นการกระทำที่โหดร้ายต่อประชาชน ก่อเหตุได้แม้กระทั่งภายในวัด ซึ่งประกาศเป็นเขตอภัยทาน

 


 

 

คนขับรถตู้แจ้งพยายามฆ่า

 


 

ขณะที่นายสมร คนขับรถตู้ กล่าวว่า ต้องการให้ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ในข้อหาพยายามฆ่าโดยเจตนา ในวันเกิดเหตุเวลา 22.30 น. วันที่ 14 พ.ค.2553 ขับรถตู้ออกจากบ้านพักย่านวัชรพล ไปรับนักท่องเที่ยวที่สนามบินสุวรรณภูมิ และพาไปส่งที่โรงแรมเชอราตัน ย่านสุขุมวิท ไปถึงโรงแรมเที่ยงคืนกว่า เนื่องจากถนนหลายสายถูกปิด หลังจากส่งแขกเข้าโรงแรมแล้วก็ขับรถกลับบ้านทันที ช่วงนั้นสถานการณ์การชุมนุมยังไม่รุนแรงมากนัก แต่เห็นกลุ่มทหารยืนประจำการตามจุดต่างๆ และก็ไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น จนกระทั่งขับรถตู้มาถึงถนนราชปรารภ บริเวณใต้สถานีรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ เห็นทหารกลุ่มใหญ่ยืนถือปืนอยู่ 2 ข้างทาง ก็คิดว่าไม่น่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะหากมีเหตุเขาคงปิดถนนไม่ให้เข้า

 


 

 

คนขับรถตู้เหยื่อปืนกล่าวต่อว่า พอรถวิ่งผ่านมาถึงกลุ่มทหารก็ได้ยินเสียงปืนกลรัวยิงมาจากด้านหลังรถก่อน และตามมาด้วยด้านข้างรถทั้ง 2 ฝั่ง กระจกทุกบานแตกละเอียด ยางแตกทั้ง 4 ล้อ กระสุนถูกตามร่างกายหลายนัดจนเลือดนองพื้น ขณะนั้นหาทางเอาชีวิตรอด โดยทิ้งพวงมาลัยรถ และปีนข้ามไปหลบอยู่ใต้คอนโซนบริเวณเบาะที่นั่งผู้โดยสารกลางรถ กระสุนจำนวนมากว่อนผ่านเข้ามาในรถเฉียดหัวไปมา นานกว่า 10 นาทีเสียงปืนจึงเงียบลง และก็ได้รับบาดเจ็บ มาทราบภายหลังว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้นายพัน คำกอง และด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ เสียชีวิตด้วย
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...