ช่วงเทศกาลวันหยุดส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2556 กำลังใกล้เข้ามาอีกครั้งหนึ่ง หลายๆ คนคงมีแผนที่จะใช้วันหยุดยาวนี้กับครอบครัวหรือคนที่รัก ไม่ว่าจะกลับไปเยี่ยมเครือญาติที่ภูมิลำเนาของตนเองหรือท่องเที่ยวพักผ่อนชื่นชมธรรมชาติที่ต่างจังหวัด ซึ่งในทุกๆ ปีอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลหยุดยาวเช่นนี้มีจำนวนไม่น้อย
       จากสถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553 จนถึง กันยายน 2554 มีอุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้นทั้งหมด 74,040 ครั้ง มีมูลค่าเสียหายมากกว่า ห้าร้อยล้านบาทและมีผู้เสียชีวิตมากถึง 8,275 ราย ซึ่งสาเหตุหลักมาจากอุปกรณ์ชำรุด (25%) และการขับรถเร็ว (15%) ในขณะที่ร้อยละ 14 ของอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นเกิดจากการ ‘ดื่มแล้วขับ’ สูงเป็นอันดับสามจากสาเหตุทั้งหมด
       หลายคนมีความเข้าใจที่ผิดว่าดื่มแอลกอฮอล์แล้วรู้สึกกระฉับกระเฉงตื่นตัว แท้จริงแล้วแอลกอฮอล์มีฤทธิ์กดประสาทและกดการทำงานของเซลล์กล้ามเนื้อ ทั้งยังส่งผลต่อ GABA ซึ่งเป็นสารสื่อประสาททำให้รู้สึกผ่อนคลาย และมีปฏิกิริยาตอบสนองช้าลงโดยที่อาจไม่รู้ตัว โดยโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุของผู้ที่มีแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ (mg%) จะเพิ่มมากกว่าปกติถึง 2 เท่า และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่เพิ่มขึ้น ในประเทศไทย ได้มีกำหนดมาตรฐานในการตรวจจับผู้ขับขี่ที่เมาสุรา โดยถือเอาระดับแอลกอฮอล์ในเลือดที่เกิน 50 mg% เป็นผู้ขับขี่ที่เมาสุราและมีความผิดตามที่กฎหมายกำหนดไว้
       เพื่อความปลอดภัย ผู้ดื่มจึงไม่ควรขับรถหลังดื่มเด็ดขาด เพราะยิ่งมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดมากเท่าใด โอกาสของการเกิดอุบัติเหตุก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นจึงควรนำ Standard Drink หรือปริมาณการดื่มมาตรฐาน มาใช้ในการวางแผนการดื่ม เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีหลายชนิดและมีดีกรีแอลกอฮอล์ที่แตกต่างกัน และยังเสิร์ฟในภาชนะที่หลากหลาย ทำให้ยากที่จะทราบปริมาณแอลกอฮอล์ที่เข้าสู่ร่างกาย ‘ปริมาณการดื่มมาตรฐาน หรือ Standard Drink’ จะช่วยให้รู้ว่าตนเองดื่มไปมากน้อยเพียงใดและสามารถวางแผนการดื่มได้อย่างถูกต้อง โดยปริมาณของ 1 ดื่มมาตรฐานจะเท่ากับแอลกอฮอล์ประมาณ 10 กรัม ซึ่งจะใช้เวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 1 ชั่วโมงในการย่อยสลายและขับออกจากร่างกาย ดังนั้นก่อนที่จะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดใดก็ตาม ควรรู้เสียก่อนว่าเครื่องดื่มชนิดนั้นมีปริมาณแอลกอฮอล์เท่าไร จะได้ทราบว่าเราจะสามารถดื่มได้กี่แก้วจึงจะเหมาะสม แต่ทางที่ดีที่สุดคือ หากเลือกที่จะดื่มแล้วไม่ควรขับ และให้เพื่อนขับรถให้ หรือใช้บริการรถสาธารณะ เพื่อเทศกาลปีใหม่ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน