เตือน'นักเที่ยว' ระวังโจรปล้น รถเช่าขูดเลือด ยาเสพติดเพียบ
มาไทย ให้ระวังเกาะภูเก็ตสุดอันตราย อาจถูก ผู้ประกอบการแท็กซี่ เจ็ตสกีหลอกลวง ทูตออสซี่ย้ำระวังกลุ่มให้เช่าจยย. เพราะหากเกิดอุบัติเหตุ มักถูกรีดเงินจำนวนมาก แนะระมัดระวังเดินทาง ในที่พลุกพล่านและที่เปลี่ยว รวมทั้งเทศกาล ฟูลมูนปาร์ตี้ เพราะอาจถูกมิจฉาชีพทำร้ายได้ ย้ำอย่าให้พาสปอร์ตแก่บริษัทรถเช่า เพราะหากมีเรื่องมักถูกยึดไว้ แฉมีตำรวจร่วมขบวนการรีดเงินต่างชาติด้วย เผยปีนี้มีนักท่องเที่ยวจิงโจ้ตายในไทยกว่า 69 ราย 50 รายในนั้นตายในภูเก็ต
เมื่อ 24 ธ.ค. หนังสือพิมพ์ซิดนีย์มอร์นิงเฮอรัลด์ของออสเตรเลีย รายงานว่า ประเทศออสเตร เลียประกาศเตือนพลเมืองที่มาท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต ประเทศไทยให้ระมัดระวังแก๊งกรรโชกทรัพย์ ซึ่งบางกลุ่มสมคบกับตำรวจท้องถิ่น โดยระบุว่าแต่ละเดือนมีชาวออสเตรเลียมาเที่ยวภูเก็ตถึง 25,000 คน โดยเฉพาะช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งกลุ่มที่หลอกลวงนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่คือแท็กซี่และผู้ประกอบการเจ็ตสกีทั้งในภูเก็ตและเมืองตากอากาศชายทะเลพัทยา
โดยนายเจมส์ ไวส์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย และนายมาร์ก เคนต์ เอกอัครราชทูตอังกฤษ เข้าร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย รณรงค์แก้ไขปัญหาการต้มตุ๋นหลอกลวงนักท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต
นายไวส์กล่าวว่า นักท่องเที่ยวต้องระมัดระวังเมื่อเช่าเจ็ตสกีหรือรถจักรยานยนต์ เพราะหากเกิดสูญหาย ปกติตำรวจจะจับคนต่างชาติไว้จนกว่าจะจ่ายเงินชดเชย ซึ่งหลายครั้งผู้ประกอบการเรียกเงินค่าเสียหายหลายพันดอลลาร์ นอกจากนี้ขอแนะนำให้ทำประกันภัยก่อนเดินทาง เพราะค่ารักษาพยาบาลในเมืองไทยแพงมาก
หนังสือพิมพ์ระบุด้วยว่า ประกันภัยบางครั้งก็ยังไม่พอ โดยยกกรณีของนายซีน เคนซี่ ชาวนิวซีแลนด์ อายุ 27 ปี ที่บาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เมื่อเดือนมิ.ย. แม้จะจ่ายเงินประกันภัยก่อนเดินทาง แต่กลับไม่ครอบคลุมค่ารักษาจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ โดยมีการอุทธรณ์ขอให้บริษัทจ่ายรักษาราว 600,000 บาท เพราะเจ็บหนัก ตับแตก ปอดทะลุ ซี่โครงหัก ต้องผ่าตัดไหล่และกระดูกกราม
ด้านนายเคนต์กล่าวว่า นักท่องเที่ยวต้องระวังเมื่อเดินตลาดที่ผู้คนพลุกพล่าน แหล่งท่องเที่ยว ท่ารถบัสหรือสถานีรถไฟและงานเทศกาล ให้ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงสถานที่เปลี่ยว ตรอกซอกซอย ทางลัดและถนนที่ไม่มีไฟทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลางคืน
นายแลร์รี่ คันนิงแฮม กงสุลพิเศษออสเตรเลียในภูเก็ต กล่าวว่า คดีหลอกลวงและอาชญากรรมเกิดเยอะขึ้น จนชาวต่างชาติไม่อยากไปเที่ยวเกาะ โดยเป้าหมายของแก๊งคนร้ายคือนักท่องเที่ยววัยรุ่น อย่างกรณีหนุ่มออสเตรเลียเกิดอุบัติเหตุเล็กๆ เมื่อขับรถจักรยานยนต์เช่า แต่กลับถูกบังคับให้จ่ายค่าชดเชยหลายพันดอลลาร์
นอกจากนี้ ทูตทั้งสามยังเตือนนักท่องเที่ยวต่างชาติว่าอย่าให้พาสปอร์ตกับบริษัทรถเช่า เพราะถ้าเกิดเรื่องขึ้น ยากมากหรือเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้พาสปอร์ตคืนจนกว่าจะจ่ายเงินชดเชย
ด้านนายลุตซี แมตซิก ผู้จัดการฝ่ายบริหารบริษัททัวร์ "เอเชียนเทรลส์" ในคาบสมุทรอินโดจีน กล่าวว่า เรื่องของแท็กซี่คิดเงินเกินก็น่าวิตก พวกแท็กซี่มาเฟียน่ารังเกียจที่สุดในภูเก็ต บางทีโขกนักท่องเที่ยว 500 บาท ทั้งที่ความจริงแค่ 20-50 บาท
ข่าวระบุว่า ชาวออสเตรเลียยังรับคำเตือนให้ระวังงานฟูลมูนปาร์ตี้ ซึ่งมีแก๊งอาชญากรและตำรวจทุจริตคอยจ้องหาเหยื่อ โดยนายไวส์ เอก อัครราชทูตออสเตรเลีย กล่าวว่า ที่ผ่านมามีชาวออสเตรเลียถูกจับ ถูกทำร้าย ถูกข่มขืน บาดเจ็บหรือกระทั่งเสียชีวิตจากคดีที่เกิดในงานฟูลมูนปาร์ตี้บ่อยครั้งเพราะว่าดื่มมากเกินไป หรือใช้ยาเสพติด
ทั้งนี้ เมื่อปี 2554 กระทรวงกิจการต่างประเทศและการค้าของออสเตรเลียระบุว่ามีคนออสเตรเลียเสียชีวิตในประเทศไทย 69 ราย และมีคนออสเตรเลียเสียชีวิตในภูเก็ตเฉลี่ยปีละ 50 ราย ทั้งจากเสียชีวิตตามธรรมชาติ อุบัติเหตุบนถนนและการใช้ยาเกินขนาด
วันเดียวกัน ที่จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์ รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วยพ.ต.อ.วันชัย ปะลาวัน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และคณะร่วมกันคุมตัวนายพีระพล หรือเจมส์ บุญช่วย อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/13 ม.2 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต และนายธนภัทฑ์ หรือจุก วัฒโน อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76/95 ม.2 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ผู้ต้องหา คดีปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณทางขึ้นจุดชมวิว กะตะ-ใสยวน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต
โดยสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุคนร้ายจำนวนหลายคนใช้อาวุธมีดจี้บังคับปล้น เอาทรัพย์สินและแทงทำร้ายนายอเล็กเซ สเวสช็อบ นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย อายุ 38 ปี บาดเจ็บ บริเวณทางขึ้นจุดชมวิวกะตะ-ใสยวน ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายอเล็กเซเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยพร้อมครอบครัว โดยพักที่ต.ราไวย์ ตั้งแต่วันที่ 14-24 ธ.ค. โดยคืนเกิดเหตุ นายอเล็กเซพร้อมเพื่อน 2 คน เช่าจักรยานยนต์ 2 คัน ขี่ท่องเที่ยวรอบเกาะ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุถูกผู้ต้องหาทั้ง 2 ขี่จักรยานยนต์ประกบแล้วถีบจนรถล้ม แล้วลงจากรถมากระชากสร้อยคอทองคำขาว แล้วต่อสู้กันจนได้รับบาดเจ็บ
จากการสืบสวนทราบว่าคนร้ายน่าจะเป็น กลุ่มนายพีระพล จึงตามไปควบคุมตัว ซึ่งนาย พีระพลรับสารภาพว่าร่วมกับอีก 7 คนลงมือ ก่อเหตุ จากนั้นจึงตามไปควบคุมตัวนายเอ็ม หรือนายจักรี รัชโพธิ์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/45 ม.4 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต และนาย ธนภัทฑ์ หรือจุก วัฒโน อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76/95 ม.2 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ทั้งหมดให้การรับสารภาพ ส่วนผู้ต้องหาอีก 5 คนที่ยังหลบหนีการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป