ไฟไหม้โตโยต้า คาดเสียหาย 50 ล้าน ไม่กระทบส่งมอบอะไหล่รถ

 

 











เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

            ไฟไหม้คลังเก็บน้ำมันโตโยต้า จ.ฉะเชิงเทรา ทางบริษัทเร่งสืบหาสาเหตุ คาดไฟฟ้าลัดวงจร สูญกว่า 50 ล้านบาท ย้ำ ไม่กระทบส่งมอบอะไหล่รถ ขณะที่ ผกก.แสงภูดาษ ห่วงน้ำปนเปื้อนสารเคมีเล็ดลอดลงคลองสาธารณะ 

            เมื่อช่วงค่ำวันที่ 23 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ภายในศูนย์อะไหล่โตโยต้าภาคพื้นเอเชียแปซิกฟิก ของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (โรงงานบ้านโพธิ์) ตั้งอยู่พื้นที่ หมู่ 19 ต.ลาดขวาง อ.บ้านโพธิ์ จึงรุดไปตรวจสอบ

            โดยที่เกิดเหตุเป็นคลังเก็บสินค้าประเภทน้ำมันเครื่องและน้ำมันไฮโดรลิก จำนวนกว่า 50,000 ลิตร ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังโรงงานประกอบรถยนต์ มีควันไฟพวยพุ่งสูงตลอดเวลา และทางโรงงานได้ประกาศให้เร่งอพยพพนักงานออกมาจากอาคารดังกล่าว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมเข้าสกัดเพลิง ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดเป็นระยะ ๆ ประกอบกับมีกระแสลมแรง เป็นอุปสรรคต่อการควบคุมเพลิงเป็นอย่างยิ่ง จึงต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงค่อยควบคุมสถานการณ์ได้

            อย่างไรก็ตาม โชคดีที่สถานที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ที่แยกส่วนออกจากสายการผลิตรถยนต์ของโตโยต้า ซึ่งจนถึงขณะนี้ไม่กระทบกับส่วนอื่นภายในพื้นที่ เนื่องจากคลังเก็บน้ำมันเครื่องดังกล่าวถูกแยกส่วนไว้ค่อนข้างไกลจากอาคารอื่น ส่วนการดับเพลิงนั้น เจ้าหน้าที่ตัดสินใจไม่ใช้โฟมในการดับเพลิง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่มาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุพิจารณาแล้วว่าสถานการณ์ยังไม่เหมาะที่จะใช้โฟม เจ้าหน้าที่จึงคงใช้เพียงแต่น้ำระดมฉีดเข้าไปจนสามารถดับไฟได้ในที่สุด

            ส่วนพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายนั้น เบื้องต้นประเมินว่าคลังดังกล่าวมีพื้นที่ราว 200 ตารางเมตร ซึ่งส่วนของโครงสร้างหลังคาอาคารเกิดการทรุดตัวลงมาเนื่องจากความร้อน โดยจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต เนื่องจากเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ไม่มีพนักงานทำงานแต่อย่างใด  

            ทางด้าน พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 4 ที่เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ระบุว่า เพลิงที่ลุกไหม้คลังเก็บน้ำมันนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบด้านมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน เนื่องจากขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว ก็คงเหลือแต่ทางบริษัทโตโยต้าจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจพื้นที่ภายในเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดว่าอาจจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ก่อนลุกลามวอดทั้งอาคาร

            นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานไปยังหน่วยงานควบคุมมลพิษให้เข้ามาทำการตรวจสอบพื้นที่ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้ก่อให้เกิดมลพิษขึ้นในพื้นที่รอบข้าง รวมถึงมลพิษทางอากาศอย่างไรบ้าง
 


 ขณะที่ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยซึ่งเห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เห็นประกายไฟเกิดขึ้นบริเวณกล่องรางไม้ ซึ่งใช้บรรจุอะไหล่รถ จึงได้ประสานให้ฟรายแมนมาดับไฟเบื้องต้น แต่จุดที่เกิดประกายไฟอยู่สูงเกินรัศมีของถังดับเพลิง ทำให้ไฟลุกลามขึ้นไปอย่างรวดเร็วจนไหม้หมดภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง
          ด้าน พ.ต.อ.นิพนธ์ พาณิชเจริญ ผู้กำกับการ สภ.แสงภูดาษ กล่าวว่า จะต้องรอดูหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ก่อนสรุปว่าสาเหตุเกิดจากอะไร อย่างไรก็ตาม ที่ห่วงก็คือ การปนเปื้อนของน้ำที่ใช้ดับเพลิง เนื่องจากตัวอาคารที่ถูกไฟไหม้มีสารเคมีหลายชนิดกักเก็บอยู่ จึงต้องตรวจสอบว่า น้ำที่ใช้ดับไฟจำนวนมากมีสารเคมีปนเปื้อนหรือไม่ และได้เล็ดลอดออกไปยังคลองสาธารณะหรือไม่ 

          ขณะที่ นายไพโรจน์ หิรัญเรืองรอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเซียแปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (TMAP-EM) ชี้แจงถึงเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นว่า ส่วนที่ถูกไฟไหม้คือ คลังสำรองอะไหล่ย่อย ใช้เก็บสำรองน้ำมันเครื่องสำหรับรอส่งมอบให้กับผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ซึ่งมีปริมาณที่สำรองไว้เพียงแค่ 1 วันเท่านั้น เพราะบริษัทส่งแบบวันต่อวัน ขณะเดียวกัน นอกจากตัวอาคารดังกล่าวแล้ว ส่วนที่เสียหายก็ยังมีถาดรองสำหรับขนส่งอะไหล่ (Pallet) น้ำมันเครื่อง และรถยก (Fork Lift) จำนวน 10 คัน มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 50 ล้านบาท

          ในส่วนของน้ำที่ใช้ดับเพลิงที่อาจจะปนเปื้อนสารเคมีนั้น นายไพโรจน์ ชี้แจงว่า ทางบริษัทจะกักเก็บน้ำที่ใช้ดับเพลิงทั้งหมดไว้ในโรงงานเพื่อผ่านกระบวนการบำบัดน้ำเสียภายในก่อน โดยได้ปิดกั้นลำน้ำที่จะไหลลงสู่คลองลาดขวางไว้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจผลกระทบตามชุมชนโดยรอบด้วย ทั้งนี้ บริษัทพร้อมจะรับผิดชอบและดูแลอย่างดีที่สุด

          ขณะที่ นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบต่อการทำงาน โดยในวันนี้ พนักงานยังคงมาทำงานตามเดิม สามารถเดินเครื่องจักรได้ตามปกติ รวมถึงส่งมอบอะไหล่ต่าง ๆ ได้ตามปกติ


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
  

Credit: http://hilight.kapook.com/view/79902
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...