1.เรื่องวุ่นๆของ กกท.

แบดมินตันทีมหญิงทีมชาติไทย สร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศ ในศึก"อูเบอร์ คัพ 2012" ที่เมืองหวู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 20-27 พ.ค. 55

การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. "ปฏิเสธ" ไม่จ่ายเงินอัดฉีดให้นักกีฬาแบดมินตันทีมหญิงที่ลงแข่งขันรายการนี้ เพราะไม่ใช่รายการ "ชิงแชมป์โลก"

เหตุผลง่ายๆที่ กกท.ตอบมาคือ ไม่มีคำว่า "เวิลด์" ซึ่งแปลว่า "โลก" อยู่ในชื่อรายการที่แข่งขัน ไม่เข้าหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบื้องต้นของการกีฬาแห่งประเทศไทย

นักกีฬาทั่วไป ที่ลงแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งโลก การกีฬาแห่งชาติจะสนับสนุนเงินรางวัลดังนี้

ข้อที่ 1.5 มหกรรมกีฬาหรือรายการระดับนานาชาติ ชิงชนะเลิศแห่งโลก (ก) 3 ทวีป / ไม่น้อยกว่า 32 ประเทศ เหรียญทองได้เงินรางวัล 1,000,000 บาท เหรียญเงิน 500,000 บาท เหรียญ

ทองแดง 200,000 บาท

(ข) 3 ทวีป ไม่น้อยกว่า 16 ประเทศ เหรียญทองได้เงินรางวัล 500,000 บาท เหรียญเงิน 250,000 บาท เหรียญทองแดง 100,000 บาท

เลยทำให้งานนี้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ก่อนที่ทาง กกท.จะอนุมัติงบอัดฉีดให้นักกีฬา งานนี้ กกท.โดนด่าเละ

----------------------------------

2.อำนาจ ภมรประเสริฐ กับกรณีถอดเสื้อทีมชาติไทยทิ้ง

พฤติกรรมในจังหวะที่โดนเปลี่ยนตัวออกไปที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง ของนักเตะที่ชื่อว่า อำนาจ ภมรประเสริฐ ที่ถอดเสื้อทีมชาติไทย ลงพื้นสนาม ก่อนเดินออกมาจากสนาม

จากวีรกรรมครั้งนี้ทำให้แฟนบอลไม่พอใจเป็นอย่างมากเกิดกระแสเรียกร้องให้นักเตะรายนี้ออกมาขอโทษในที่สุด

ผิดเป็นครู ครั้งหน้าจะทำอะไรคิดให้ดีก่อนนะเจ้าหนู

----------------------------------------------

3.แต้วแฉโดนหักเงิน 2 ล้าน จ่ายค่าปรับโอลิมปิก

สะดุ้งกันทั้งบาง "น้องแต้ว" ฮีโร่เหรียญเงินโอลิมปิก ออกมาแฉโดนหักเงิน 2 ล้าน เพื่อไปจ่ายค่าปรับให้กับสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ เพื่อไม่ให้ถูกตัดสิทธิ์ในการแข่งขันโอลิมปิก

"น้องแต้ว" พิมศิริ ศิริแก้ว พร้อมด้วย พล.อ.อ. จิรศักดิ์ ภูวนาทนุรักษ์ อุปนายกสมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทย ยื่นข้อเรียกร้องต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เพื่อแก้ไขปัญหา

ที่ส่งผลต่อนักกีฬายกน้ำหนักไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรในการแข่งขันโอลิมปิก 2012

โดย"น้องแต้ว"ได้ยื่นหนังสือโดยเนื้อหาสรุปได้ 3 ข้อ ดังนี้

1.เรื่องเงินรางวัลที่นักกีฬาจะได้รับเงินรางวัลเพียงเหรียญเดียวจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ โดยไม่เป็นไปตามกติกาของสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ จึงอยากให้มีการแก้ไขกฎระเบียบ

2.เรื่องศูนย์ฝึกซ้อมและที่พักนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติ ซึ่งได้สร้างไว้ที่ จ.เชียงใหม่ และเปิดใช้มา 2 ปีเศษแล้ว แต่การกีฬาแห่งประเทศไทยและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังไม่เคยจ่ายเงิน

สนับสนุนค่าก่อสร้าง ทำให้นักกีฬาและบุคลากรที่เกี่ยวข้องรู้สึกว่าผู้ใหญ่ในวงการกีฬาไม่เห็นความสำคัญกีฬาประเภทนี้อย่างจริงจัง

3.เรื่องเงินค่าปรับที่ต้องจ่ายให้สมาพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ เพื่อไม่ให้ถูกตัดสิทธิ์ในการไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ แม้นายกฯ ได้สั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และกกท. ให้ความช่วย

เหลือ แต่ก็ไม่ได้มีการช่วยเหลือตามที่เป็นข่าว เนื่องจากได้มีการหักเงินรางวัลของนักกีฬา 2 ล้านกว่าบาทไปจ่ายแทน

เกิดมาก็พึ่งเคยเห็นหักเงินนักกีฬา เอาไปเป็นค่าปรับให้สมาคม

----------------------------------------------

4.มหกรรมโยนขี้ สนามบางกอก ฟุตซอล อารีน่า

มหากาพย์สนามฟุตซอลหนองจอกที่ทำให้อับอายขายขี้หน้าไปทั่วประเทศ ที่ฟีฟ่าไม่ให้สนามแห่งนี้ใช้ในการแข่งขันฟุตซอลโลก 2012 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ เพราะไม่ผ่านมาตราฐานทางด้านความ

ปลอดภัย ทำให้สังคมตั้งคำถามขึ้นว่า ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ?

1,239 ล้านบาท คืองบสร้างสนามฟุตซอลแห่งนี้ โดยเริ่มต้นที่ รัฐบาลยุค อภิสิทธิ์ มอบให้กระทรวงกีฬาและการท่องเที่ยวรับผิดชอบ ก่อนที่จะไม่มีอะไรคืบหน้า โยกมาเป็น ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร

เป็นผู้รับโครงการต่อ จนถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่อนุมัติงบประมาณ 1 ล้านบาทในปี 55 และจะเพิ่มเป็น 1,238 ล้านบาทในปี 56

การทำงานของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ไม่ประสานงานกันเลย ดูแล้วเหมือนมีกลิ่นของการเมืองเข้ามาปะปนกันทำให้เละอย่างนี้

-----------------------------------------------------

5.จอดำ ผลประโยชน์ทางธุรกิจ ผลักภาระให้ประชาชน

จอดำเป็นปรากฎการณ์ที่ทำให้ประชาชนผู้ชื่นชอบชมกีฬาผ่านทางทีวี พูดถึงมากที่สุด โดยเริ่มตั้งแต่การถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 ที่ทางแกรมมี่ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด และบล็อคสัญญาณทำ

ให้ลูกค้าทรูและลูกค้าจานต่างๆไม่สามารถรับชมการแข่งขันได้ จนทำให้เรื่องบานปลายเกิดการฟ้องร้องขึ้นแต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป

และในเวลาต่อมาก้ยังมีข่าวจอดำเป็นระยะไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันโอลิมปิก 2012 หรือแม้กระทั่งฟุตซอลโลก 2012 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ก็ยังมีปัญหาในกรณีนี้อยู่

ปรากฎการณ์จอดำนี้ทำให้เห็นว่าการแข่งขันธุรกิจในด้านกีฬามีการแข่งขันที่สูงขึ้นและมีทางเลือกให้ประชาชนตัดสินใจได้มากขึ้น

แต่ก็เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายไปอีกด้วย

------------------------------------------------

6.แบนตลอดชีวิต แข้งระยองโหดไล่กระทืบผู้ตัดสิน

คณะอนุกรรมการพิจารณาวินัยฯ ฟุตบอลดิวิชั่น 2 สั่งแบน ประสาร พันธ์สำลี แข้ง ระยอง ยูไนเต็ด ตลอดชีวิตพร้อมปรับอีก 60,000 บาทหลังก่อเหตุเจตนาวิ่งเข้าไปทำร้ายผู้ตัดสิน ในเกม

ฟุตบอลดิวิชั่น 2 นัดสุดท้าย ที่เปิดบ้านพบ อาร์แบค บีอีซี เทโร ศาสน เมื่อวันที่ 22 ก.ย 55 ที่ผ่านมา

การพิจารณามีมติให้สั่งห้าม ประสาร พันธ์สำลี นักเตะของ ระยอง ยูไนเต็ด ห้ามยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมที่สมาคมฟุตบอลฯ จัดการแข่งขันหรือมีส่วนร่วมจัดการแข่งขันตลอดชีวิต และปรับเงินรวม

60,000 บาทถ้วน โดยให้เหตุผลว่าเป็นการทำลายภาพลักษณ์การแข่งขันฟุตบอลอาชีพ ซึ่งมีโทษสูงสุดของระเบียบข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลฯ

หมดอนาคตไปสำหรับแข้งโหดรายนี้

--------------------------------------

7.แก้ว พงษ์ประยูร ชนะใจคนดูแต่ไม่ชนะใจกรรมการ

ข้อกังขาในการชิงเหรียญทองโอลิมปิก 2012 ในรุ่นไลท์ฟลายเวท 49 กิโลกรัม แก้ว พงษ์ประยูร ความหวังเหรียญทองหนึ่งเดียวของทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิก 2012 กับซู ซิ หมิง คู่ชกจากจีน

ตลอดการชกแก้ว ออกอาวุธได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่สุดท้ายกรรมการตัดสินให้ซู ซิ หมิง เป็นฝ่ายชนะ ทำให้แก้วต้องผิดหวังได้เหรียญเงินเป็นรางวัลปลอบใจเท่านั้น

ภายหลังสิ้นศึกโอลิมปิก 2012 มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับการรีแมตช์ระหว่างแก้ว พงษ์ประยูรกับซู ซิ หมิง แต่สุดท้ายก็เงียบหายไป

-----------------------------------------

8.บัวขาว ป.ประมุข บุญคุณ,ผลประโยชน์และสัญญาทาส

ในช่วงเดือนมีนาคมเกิดข่าวใหญ่ในวงการมวย เมื่อนักมวยไทยชื่อดังอย่าง บัวขาว ป.ประมุข ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ซึ่งภายหลัง บัวขาว ป.ประมุข ได้อ้างว่าโดนคำพูดเหยียบย่ำแทงใจนานกว่า

3 ปีจนทนไม่ไหวเก็บกระเป๋าหนีค่าย ยอมรับกดดันทั้งร่างกาย และจิตใจ ยืนยัน "เงิน-ผู้หญิง" ไม่ใช่ปัญหา พร้อมยืนยันไม่กลับไปค่าย ป.ประมุขอีก

จนในที่สุดทั้งบัวขาวและค่าย ป.ประมุข หันหน้ามาคุยกันพร้อมตกลงเรื่องสัญญาค่าตัวต่างๆ ที่ทางฝ่ายบัวขาวอ้างว่าไม่เป็นธรรม จนในที่สุดหาทางออกได้โดยแบ่งกันคนละ 50-50

โดยปัจจุบัน บัวขาว มีค่ายเป็นของตัวเองชื่อว่าค่าย บัญชาเมฆ แต่ในการขึ้นชกมวยไทยยังใช้ชื่อว่า บัวขาว ป.ประมุข อยู่เช่นเดิมตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับค่าย ป.ประมุข

-----------------------------------------

9.ธีทาธร บุญมาทัน กรณีชูผ้า "vv get out"

"เจ้าอุ้ม" ธีทาธร บุญมาทัน แบ๊กซ้ายของทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และทีมชาติไทย ที่ปีนี้โชว์ฟอร์กับทีมชาติและสโมสรได้อย่างดี ลบภาพแบดบอยที่มีติดตัวมาได้อย่างหมดสิ้น

แต่แล้วก็มีเรื่องจนได้เมื่อ ธีทาธร บุญมาทัน กรณีที่ ชูผ้าที่มีข้อความเขียนว่า "vv get out" ที่แฟนบอลได้ปาผ้าผืนนั้นลงมาให้

หลังจากภาพนี้ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้ถูกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยตั้งท่าจะเอาเรื่องกับเจ้าอุ้ม แต่สุดท้ายก็ได้มีการขอโทษจากตัวเจ้าอุ้มเอง

ส่วนทาง "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ก็ไม่ถือโทษเอาความ ทำให้เรื่องจบลงด้วยดี จากการชูป้ายผ้าของธีราทร อาจไม่ถูกใจผู้ใหญ่ แต่ก็ถูกใจแฟนบอลชาวไทย(บางคน)ไม่น้อยเลยทีเดียว

-----------------------------------------

10.ทองปลอม แสน ส.เพลินจิต

สมชาย เชิดฉาย หรือ แสน ส.เพลินจิต อดีตแชมป์โลกขวัญใจชาวไทยรุ่นฟลายเวทของสมาคมมวยโลก(WBA) ออกมาแฉให้แฟนหมัดมวยและวงการกีฬาได้ฮือฮา

ในช่วงเจอมรสุมชีวิต แสนชกมวยจนเลือดออกในสมอง หวังเอาทองที่เก็บไว้รักษาตัว แต่ต้องตกใจเมื่อตรวจสอบดูแล้วพบทองปลอมปะปนกับทองจริงกว่าครึ่งเลยทีเดียว

ทำให้มีการวิพากษวิจารณ์เป็นวงกว้างกับประเด็นทองปลอมที่ทำให้พวกสปอนเวอร์ตามเวทีมวยทั้งหลายสะดุ้งเป็นแถบๆ เท่านั้นยังไม่พอยังมีนักมวยอีกหลายคนก็ออกมาแฉเรื่องทองปลอมเพิ่ม

เติมมาอีก

ปัจจุบัน แสน ส.เพลินจิต เป็นผู้ติดตามให้กับ ส.ส. ท่านหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี และเป็นวิทยากรสอนเรื่องมวยให้กับโรงเรียนต่างๆ

ต่อไปเราคงจะเห็นบรรดาสปอนเซอร์ทั้งหลาย หอบเงินสดเป็นปึกๆมามอบแทนทองเป็นแน่แท้ ฮ่าๆ