หลังมีกระแสทั้งปั่นทั้งโหมให้ผู้คนระทึกขวัญวันโลกวินาศ 21 เดือน 12 ปี 2012 หรือตรงกับวันนี้ ก็มีองค์กรทางวิทยาศาสตร์ เช่น นาซ่า สำนักงานอากาศ และเหล่าองค์กรรณรงค์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาเตือนสติว่า
ทางที่ดีควรจะกลัวเรื่องโลกร้อนดีกว่า เพราะนั่นจะเป็นชนวนให้สิ้นโลกจริงๆ ได้
จากข้อมูลของ องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือ WMO ช่วง 10 เดือนแรกของปี 2012 เป็นปีที่อากาศร้อนที่สุดอันดับ 9 นับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลกลางศตวรรษที่ 19
นอกจากนี้ ปี 2012 ยังเป็นปีสถิติ ที่มีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ในชั้นบรรยากาศสูงที่สุด
ภัยพิบัติทางธรรมชาติในปีนี้แสดงฤทธิ์ ให้เห็นแล้วว่า ความแปรปรวนรุนแรงของสภาพอากาศเกิดถี่ขึ้นจนจะกลายเป็นปกติ
พายุร้ายแรงที่สุดของปีนี้ ในแดนตะวันตกคือ เฮอริเคนแซนดี้ คร่าชีวิตผู้คนในทะเลแคริบเบียนและชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ ช่วงปลายเดือนต.ค.
จากนั้นไม่นาน ฝั่งโลกตะวันออก ฟิลิป ปินส์เผชิญ พายุไต้ฝุ่นโบพา กระหน่ำโครมใหญ่ คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 900 ราย
บริษัทสวิส รี ด้านประกันภัยพิบัติ สรุปรายงานภัยธรรมชาติในปีนี้ว่า คร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 11,000 ราย
มูลค่าความเสียหายอย่างน้อย 140,000 ล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้เป็นเงินประกัน สูงกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐ
เฉพาะภัยแล้งสร้างความเสียหายต่อพืชผลไร่นาของสหรัฐกว่าครึ่งประเทศ เช่นเดียวกับจีน ที่มณฑลยูนนานและเสฉวน
แม้ว่าโดยรวมความเสียหายนี้ยังน้อยกว่าเมื่อปี 2011 ที่เกิดแผ่นดินไหวและน้ำท่วมใหญ่ กินเงินประกันภัยไปกว่า 120,000 ล้านดอลลาร์
กรณีของสหรัฐและฟิลิปปินส์ที่เผชิญพายุอยู่บ่อยๆ นั้นอาจไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ช่วงเวลาเกิดภัยนอกฤดูกาลนั้นส่งสัญญาณว่า ธรรม ชาติกำลังเล่นงานบ่อยขึ้นและหนักขึ้น
ถ้าโลกายังไม่วินาศวันนี้ ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มี