เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ชาวเกาหลีใต้แห่ใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่เพื่อมาแทนประธานาธิบดี ลี เมียงบัก อย่างคึกคัก แม้ต้องฝ่าอุณหภูมิหนาวเย็นจัดถึงขั้น -10 องศาเซลเซียส ไปต่อแถวเข้าคูหาลงคะแนน จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า มีผู้ออกมาใช้สิทธิสูงถึงร้อยละ 75 มากกว่าเมื่อการเลือกตั้ง 5 ปีก่อนที่มีสถิติร้อยละ 63 ส่วนผลเอ็กซิตโพลระบุว่า นางปาร์ก กึนเฮ ลูกสาวเผด็จการ ปัก จุงฮี จากพรรคฝ่ายขวา เฉือนชนะ นายมูน แจอิน ทนายด้านสิทธิมนุษยชน จากพรรคเสรีนิยม ด้วยคะแนนร้อยละ 52.5 ต่อ 47.1 ด้านสื่อโทรทัศน์ของเกาหลีใต้หลายช่อง อาทิ เคบีเอส เอสบีเอส และเอ็มบีซี ต่างฟันธงตรงกันว่า นางกึนเฮมีชัยชนะอย่างแน่นอนแล้ว ได้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ อย่างไรก็ตาม สมาชิกทั้งสองฝ่ายยังไม่กล้าออกมาแถลงท่าที เพราะเกรงว่าอาจพลิกผันได้ แม้จะมีเสียงเฮในที่ทำการพรรคของนางปาร์กเมื่อโทรทัศน์รายงานข่าว
นางปาร์ก วัย 60 ปี เป็นตัวแทนพรรคแซนูรี หรือนิว ฟรอนเทียร์ ปาร์ตี้ พรรคเดียวกับประธานาธิบดีลี ได้กระแสลุ้นเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ แต่การเป็นลูกสาวของปัก จุงฮี เผด็จการที่ครองอำนาจเกาหลีใต้นาน 18 ปีทำให้เป็นอุปสรรคใหญ่ เพราะช่วงเวลาดังกล่าวเต็มไปด้วยการกดขี่ปิดกั้นเสรีภาพ ใช้อำนาจคุกคามทำร้ายฝ่ายตรงข้าม นางปาร์กต้องกล่าวขอโทษประชาชนแทนพ่อที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนในช่วงปกครองประเทศ แม้จะสร้างเศรษฐกิจเกาหลีใต้ให้แข็งแกร่งจนหลุดพ้นความยากจน ส่วนนายมูน เป็นลูกชายผู้อพยพจากเกาหลีเหนือ เคยเป็นหัวหน้าคณะทำงานของอดีตประธานาธิบดีโนห์ มูเฮียน ผู้ล่วงลับ ในช่วงเผด็จการปัก จุงฮีครองอำนาจ นายมูนเคยถูกจำคุกมาแล้วฐานร่วมประท้วงเผด็จการ
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 40 ล้านคน เปิดหีบลงคะแนนเวลา 06.00 น. และปิดหีบในเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยประเด็นที่ชาวเกาหลีใต้สนใจที่สุดในการเลือกผู้นำครั้งนี้คือ เศรษฐกิจทั้งเรื่องสวัสดิการสังคมและการจ้างงาน เป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจยิ่งกว่าเรื่องท่าทีคุกคามจากเกาหลีเหนือ ที่เพิ่งทดลองจรวดพิสัยไกลสำเร็จ