ผลวิเคราะห์ชี้ "ฟาโรห์ราเมเสสที่ 3" สิ้นพระชนม์เพราะถูกเชือดพระศอ

หลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์ชิ้นใหม่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า กษัตริย์ราเมเซสที่ 3 แห่งอียิปต์ สิ้นพระชนม์จากการถูกเชือดพระศอ (คอ) อันเกิดจากการสมรู้ร่วมคิด

 

 

 

 

ผลการใช้เครื่องซีทีสแกน เพื่อวิเคราะห์พระศพของกษัตริย์อียิปต์ เผยให้เห็นรอยเชือดบริเวณลำคอ ที่ลึกพอที่จะทำให้เสียชีวิต

 

ความลับดังกล่าวถูกปิดบังมานานภายใต้ผ้าพันพระศพ ที่ไม่สามารถแกะออกได้ ด้วยเหตุผลเพื่อการอนุรักษ์ ผลการเปิดเผยชิ้นนี้ ทำให้ข้อถกเถียงระหว่างนักประวัติศาสตร์ ที่ว่าพระองค์สิ้นพระองค์ด้วยเหตุผลใดสิ้นสุดลงในที่สุด

 

เอกสารโบราณ ซึ่งรวมถึง Judicial Papyrus of Turin ชี้ว่า ในช่วงปี ค.ศ. 1155 ก่อนคริสตกาล เหล่าข้าราชบริพารในพระราชวังพยายามลอบปลงพระชนม์พระองค์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการก่อปฏิวัติ แต่ยังคงไม่ชัดเจนนักว่า การลอบปลงพระชนม์ครั้งนั้น ประสบความสำเร็จหรือไม่ ขณะที่บางรายกล่าวว่าสำเร็จ แต่ข้อมูลบางชิ้นในขณะนั้นบอกเป็นนัยว่าฟาโรห์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์ที่ 20 ทรงปลอดภัย แม้จะเป็นช่วงเวลาหนึ่งก็ตาม


เอกสาร Judicial Papyrus of Turin ระบุว่า เคยมีความพยายามในการลอบปลงพระชนม์ 4 ครั้ง และกล่าวถึงบทลงโทษต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งรวมถึงหนึ่งในสองพระชายา คือ Tiye และโอรสของนางคือ เจ้าชาย Pentawere ซึ่งมีความเป็นไปได้ในการขึ้นสืบทอดอำนาจมากที่สุด

 

เอกสารชี้ว่า เจ้าชาย Pentawere ที่เป็นโอรสองค์เดียวของพระองค์ที่คิดต่อต้านพระองค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนสมคบคิดดังกล่าว ต่อมาถูกจับได้ ก่อนที่จะปลิดชีวิตตนเอง

 

 

 

 

ผลการศึกษาโดยสถาบันมนุษย์น้ำแข็งและมัมมี่ในอิตาลี ร่วมกับพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติในกรุงไคโร ซึ่งศึกษามัมมี่ที่ขุดพบในสุสานหุบเขากษัตริย์ ซึ่งรวมถึง กษัตริย์ราเมเซสที่ 3 เจ้าชาย Pentawere และร่างอื่นๆ ที่ไม่สามารถระบุได้ พบว่าบริเวณด้านล่างของกล่องเสียงของมัมมีกษัตริย์ มีรอยคล้ายถูกเชือดกว้างราว 7 ซม. ซึ่งแพทย์เชื่อว่าอาจจะเกิดจากอาวุธมีดที่มีความคมและทำให้ถึงแก่ชีวิตในทันที

 

ดร.อัลเบิร์ตซิงค์ นักพยาธิวิทยาโบราณ จากสถาบันมนุษย์น้ำแข็งและมัมมี่ เปิดเผยว่า แม้ว่าจะยังไม่แน่ชัดว่ารอยเชือดดังกล่าวทำให้พระองค์สิ้นพระชนม์หรือไม่ แต่มีความเป็นไปได้สูงมากกว่าสาเหตุอื่น อย่างไรก็ดี บาดแผลดังกล่าวอาจเกิดจากนักแต่งพระศพในสมัยนั้น เนื่องจากมีการพบเครื่องหมายดวงตาฮอรัสถูกฝังอยู่ในบาดแผล ซึ่งอจถูกฝังในระหว่างกระบวนการทำมัมมี่

 

ผลการตรวจดีเอ็นเอยังชี้ว่า ศพที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้นั้น เป็นชายหนุ่มอายุราว 18 ปี ซึ่งมีความเชื่อมโยงทางสายเลือดกับกษัตริย์ราเมเซสที่ 3 และอาจเป็นไปได้ว่าอาจเป็นเจ้าชาย Pentawere

19 ธ.ค. 55 เวลา 16:30 2,539 2 40
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...