เผย อดัม แลนซา มือปืน ยิงนักเรียน 27 ศพ ป่วยแอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม

 

 


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก mugshots.com, shafaqna.com, andrewazzopardi.org

            เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า มือสังหาร 27 ศพ ณ โรงเรียนประถมแซนดี้ ฮุก รัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐฯ มีความผิดปกติป่วยด้วยอาการแอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม (Asperger's Syndrome) ทำให้ประสบปัญหาในการเข้าสังคม ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้แจง ไม่น่าจะเกี่ยวกัน ไม่อาจกล่าวได้เลยว่า การผิดปกติด้วยอาการแอสเพอร์เกอร์เป็นสาเหตุของการใช้ความรุนแรงครั้งนี้

            อดัม แลนซา มือสังหารวัย 20 ปี ก่อเหตุสังหารมารดาด้วยอาวุธปืนที่บ้านหลังโตมูลค่า 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 48 ล้านบาท) ที่อาศัยอยู่ด้วยกัน ก่อนจะขับรถพร้อมปืนอีกสามกระบอก ไปก่อเหตุกราดยิงใส่ครูและนักเรียนที่โรงเรียนประถมแซนดี้ ฮุก ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าของตัวเอง จนมีผู้เสียชีวิตอีก 26 ราย และใช้ปืนที่กราดยิงคนอื่นปลิดชีพตัวเองตามในวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่างพยายามหาสาเหตุจูงใจที่ทำให้ อดัม ก่อเหตุสลดครั้งนี้ขึ้น และเบื้องต้นก็ได้พบว่าเขามีความผิดปกติด้วยอาการ "แอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม" ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของโรคออทิสติก เพียงแต่ผู้ป่วยในกลุ่มแอสเพอร์เกอร์นั้นมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ดีทุกอย่าง แต่บกพร่องในทักษะด้านการสื่อสาร และการเข้าสังคม 

            อดีตเพื่อนร่วมชั้นหลายคนให้การว่า ไม่แปลกใจนักที่ อดัม ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ เพราะเขาเป็นคนที่ไม่มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับโรงเรียน หรือเมืองที่ตัวเองอยู่ด้วยซ้ำ 

            ทั้งนี้ อดัม เรียนจบจากโรงเรียนประถมแซนดี้ ฮุก เมื่อปี 2007 และได้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมนิวทาวน์ ที่ซึ่งเขาไม่มีเพื่อนสนิทเลยแม้แต่คนเดียว และแทบไม่มีเพื่อนร่วมรุ่นจดจำอะไรเกี่ยวกับเขาได้มากนัก นอกเสียจากความแปลกของเขาที่มักใส่ชุดสีดำ หรือไม่ก็เสื้อเชิ้ตที่ตัวใหญ่โคร่ง ปากกาหนึ่งด้ามเหน็บในกระเป๋าเสื้อ และหิ้วกระเป๋าเอกสารสีดำ แทนที่จะเป็นเป้สะพายหลังเหมือนคนอื่น ๆ โดยเพื่อนร่วมรุ่น กล่าวว่า อดัมหัวดีมาก เขาเก่ง แต่เป็นคนที่แปลกแยก นอกจากนี้เขายังไม่ร่วมถ่ายภาพสำหรับหนังสือรุ่น ตำแหน่งที่ควรเป็นภาพของเขาจึงถูกแทนที่ด้วยคำว่า "อายกล้อง" เท่านั้น



            นายริชาร์ด โนเวีย อาจารย์ที่ปรึกษาประจำชมรมเทคโนโลยี ที่อดัมเป็นสมาชิกอยู่บอกว่า เขาเป็นเด็กที่ผิดปกติจากเด็กคนอื่น อดัมอาจจะทำไฟไหม้ตัวเองได้ โดยที่ไม่รู้สึกร้อนหรือเจ็บเลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้ยังบอกว่า เด็กคนนี้รู้สึกกลัวและประหม่า แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางคนที่ไว้ใจได้ และยังปฏิเสธที่จะพูดคุยหรือมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ 

            ขณะที่เพื่อนบ้านรายหนึ่ง บอกว่า อดัมเป็นเด็กที่เก่ง และนั่นทำให้เขาคิดว่าความเก่งของอดัมทำให้เขาไม่พูดคุยกับใคร 

            ทางด้านชีวิตครอบครัว พ่อและแม่ของอดัมหย่าขาดจากกันในปี 2008 และพ่อได้ย้ายออกไป ทิ้งบ้านหรูหลังโตไว้ให้อดัมอยู่กับแม่ และยังส่งเสียเงินให้อีกปีละ 230,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 6,900,000 บาท) ซึ่งอดีตเพื่อนร่วมชั้นของอดัมบอกว่า เขาดูเปลี่ยนไปอย่างสังเกตเห็นได้ตั้งแต่พ่อแม่แยกทางกัน จากที่ไม่สุงสิงกับใครและแปลกแยกอยู่แล้ว ก็ยิ่งแย่กว่าเดิม    

            "เขาดูแปลกมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่การหย่าของพ่อกับแม่มันก็ส่งผลถึงตัวเขาด้วย เขาดูเหมือนจะกลายเป็นระเบิดเวลาที่รอวันระเบิดก็เท่านั้นเอง" 

            สำหรับอาวุธปืนที่อดัมใช้ก่อเหตุ ก็ล้วนแต่เป็นปืนที่นางแนนซี่ แม่ของอดัม สะสมเอาไว้ และเธอก็มักไปซ้อมยิงปืนอยู่บ่อย ๆ โดยที่พาลูกชายทั้งสองไปด้วย 

นางแนนซี่ แม่ของอดัม

            จากปากคำของเพื่อนบ้าน ให้การว่า นางแนนซี่เป็นคนจิตใจดี เอาใส่ใจคนรอบตัวอยู่เสมอ เธอเปรียบเป็นผู้นำของชุมชนด้วยซ้ำ และเธอก็เป็นแม่ที่ดี เธอรู้ว่าลูกชายคนเล็กมีปัญหาด้านการเข้าสังคม และเธอคงพร้อมจะหาทางบำบัดรักษาทันทีหากลูกชายจะต้องการ 

            ทั้งนี้ อดัมมีพี่ชายที่แก่กว่า 4 ปี ชื่อว่า ไรอัน แลนซา ซึ่งถูกเจ้าหน้าตำรวจคุมตัวไปสอบสวนในเบื้องต้น เนื่องจากเข้าใจว่าเขาเป็นคนก่อเหตุ แต่ก็ได้รับการปล่อยตัวแล้วเมื่อพิสูจน์ตัวได้ว่าตนเองบริสุทธิ์ ไรอันกล่าวว่า เขารู้ว่าน้องชายเป็นเด็กเนิร์ด แต่ก็ไม่ได้ติดต่อกันมาตั้งแต่ 2010 แล้ว เนื่องจากเข้าย้ายออกจากบ้านเพื่อไปเรียนมหาวิทยาลัย 

            อย่างไรก็ดี แม้จะมีการชี้ปมว่ามือสังหารวัย 20 ปีรายนี้ มีความผิดปกติด้วยอาการ แอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม จนทำให้หลายคนเชื่อว่ามันเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาออกมาก่อเหตุกราดยิงอันโศกสลดดังกล่าว แต่ทางด้านผู้เชี่ยวชาญเรื่องออทิสติกได้ออกมาแย้งว่า เป็นการไม่ยุติธรรมที่จะสรุปว่า เป็นเพราะอาการแอสเพอร์เกอร์จึงทำให้อดัมออกมาไล่ยิงกราดฆ่าผู้คน ตามรายงานจากแหล่งข่าวต่างประเทศ

            ขณะที่ทางด้านนางแนนซี่ อัลสปาห์ก-แจ็กสัน ผู้อำนวยการการจัดโปรแกรมเพื่อบำบัดผู้ป่วยออทิสติกในลอสแองเจลิส กล่าวว่า ไม่ยุติธรรมเลยที่จะบอกว่าเด็กที่มีอาการแอสเพอร์เกอร์นั้นอันตราย กลายเป็นฆาตกรสังหารหมู่ได้ แต่หากเป็นเด็กแอสเพอร์เกอร์ที่มีปัญหากับครอบครัว รู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีงาน ไม่ได้เรียน และไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง นั่นต่างหากคือส่วนผสมที่นำมาสู่หายนะ ซึ่งสอดคล้องไปในทางเดียวกับความเห็นจาก อลิซาเบธ ลอกสัน ศาสตราจารย์ผู้ช่วยด้านการแพทย์ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่บอกว่า ไม่มีความเกี่ยวเนื่องที่ชัดเจนระหว่างการพฤติกรรมใช้ความรุนแรงกับอาการแอสเพอร์เกอร์ 



โอบามามุ่งมั่นเดินหน้ายุติโศกนาฏกรรมอย่างจริงจัง


          ส่วนทางด้านนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ดูจะสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้มาก และมีทีท่าว่าจะเดินหน้าแก้ปัญหาความรุนแรงนี้อย่างจริงจัง 

          โดยเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้เดินทางไปร่วมพิธีไว้อาลัยเหยื่อโศกนาฏกรรมสังหารหมู่ ที่เมืองนิวทาวน์ รัฐคอนเนคติกัต และได้เปิดเผยในพิธีไว้อาลัยว่า "เราจะพูดได้อย่างเต็มปากไหมว่า เราทำทุกอย่างมากพอที่จะปกป้องเด็ก ๆ ของเราจากภัยอันตราย ถ้าเราซื่อสัตย์กับตัวเอง คำตอบมันคือ ไม่หรอก เรายังไม่ทำทุกอย่างมากพอ และเราจะต้องเปลี่ยนแปลง สำหรับผมแล้ว ผมรู้ดีว่าไม่มีคำพูดใดจะอธิบายความเศร้าเสียใจของทุกคนได้ แต่ผมขอให้ทุกคนรู้ว่า คุณไม่ได้เศร้า ไม่ได้เสียใจโดยลำพัง ผู้คนทั่วทั้งอเมริกาต่างร้องไห้ไปกับคุณด้วย นิวทาวน์.. คุณไม่ได้โศกเศร้าเพียงลำพัง"

          "พวกเขาสูญเสียชีวิตในโรงเรียน และเหตุการณ์นี้อาจจะเกิดขึ้นอีกไม่ว่าเป็นโรงเรียนไหน ไม่ว่าจะเป็นเมืองที่มีแต่คนดี ๆ ก็ตาม เราปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกไม่ได้แล้ว โศกนาฏกรรมเหล่านี้จะต้องสิ้นสุดลงเสียที และเราจะต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว"

          ทั้งนี้ ตลอดการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของนายบารัค โอบามา โศกนาฏกรรมครั้งนี้ถือว่าเป็นโศกนาฏกรรมจากการกราดยิงครั้งที่ 4 แล้ว และหลังจากเกิดเหตุสลดครั้งนี้ นายบารัค โอบามา ดูเหมือนจะมีท่าทีมุ่งมั่นในการพยายามที่จะปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืนของสหรัฐฯ ซึ่งอาจนำไปสู่การฟื้นฟูกฎหมายการห้ามครอบครองอาวุธปืนหลายชนิดเลยทีเดียว
Credit: http://hilight.kapook.com/view/79713
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...