เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. นายพิสัย อันทะชัย กำนัน ต.หนองอิเฒ่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายประดิษฐ์ ภูอ่อน รองนายกเทศมนตรี ต.หนองอิเฒ่า พร้อมผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านหนองอิเฒ่า ม.1 ม.2 และ ม.9 ร่วมกันนำตัวพระดุสิต ฐานะวุฒิโท หรือนายดุสิต ฐานรัตน์ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นพระที่ย้ายจาก อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด มาจำพรรษาในวัดสว่างโนนทัน บ้านหนองอิเฒ่า ไปทำพิธีลาสิกขา หลังจับได้ว่าพระดุสิตนำเด็กหญิงอายุ 14 ปี เข้าไปมั่วสุมในกุฏิตลอดทั้งคืนจนรุ่งเช้า
นายพิสัยกล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากนายใหม่ โพคะวัด อายุ 66 ปี ว่าหลานชื่อเด็กหญิงบี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ถูกพระดุสิตบังคับเข้าไปในกุฏิตั้งแต่กลางดึกจนถึงเช้าก็ยังไม่กลับบ้าน เมื่อเดินทางไปดูก็พบเด็กหญิงบีอยู่ในกุฏิของพระดุสิตจริง จากการสอบถามเด็กหญิงบีเบื้องต้นทราบว่าเดินทางจาก จ.ชลบุรี เพื่อมาหานายใหม่ ซึ่งเป็นปู่ ที่บ้านหนองอิเฒ่า โดยพระดุสิตอาสาออกค่ารถให้ กระทั่งมาถึงหมู่บ้านเวลาประมาณ 02.00 น. จึงให้รถตู้แวะไปเอาเงินค่ารถกับพระดุสิตในวัด หลังจ่ายเงินค่ารถเสร็จแล้วพระดุสิตกลับกระชากแขนเข้าไปในกุฏิ และข่มขืน 2 ครั้ง พร้อมข่มขู่ว่าห้ามบอกใคร
ด้านพระดุสิตกล่าวว่า เด็กหญิงบีมาพักในกุฏิของตนจริง เนื่องจากไม่สามารถติดต่อญาติได้ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ล่วงเกินหรือข่มขืนแต่อย่างใด เพราะตนและครอบครัวเด็กหญิงบีรู้จักกันมานานแล้ว เวลาบิณฑบาตมาก็ให้อาหารนายใหม่ตลอด เชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้ง เพราะญาติของเด็กหญิงบีอยากให้ตนสึก และไปอยู่กินกัน ทั้งนี้ ตนบวชเป็นพระมาแล้ว 15 พรรษา จนสอบได้นักธรรมเอก ที่ผ่านมาออกธุดงค์และย้ายไปจำพรรษาตามวัดต่างๆ กระทั่งมาจำพรรษาที่วัดสว่างโนนทันประมาณ 4 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายพระดุสิตยอมลาสิกขาตามมติของคณะสงฆ์และชาวบ้าน เนื่องจากทำให้เสื่อมเสียพระพุทธศาสนาและชาวบ้านหมดศรัทรา พร้อมกับนำตัวไปเจรจาร่วมกับผู้ปกครองของเด็ก ว่าจะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ และเตรียมเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป