สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ‘อดัม แลนซา’ มือปืน 27 ศพ ซึ่งฆ่าแม่ของตัวเองจากนั้นไปที่โรงเรียนประถม แซนดี้ ฮุคซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าของตัวเองแล้วฆ่าเด็ก 20 คน ผู้ใหญ่ 6 คน ป่วยเป็นโรค ‘แอสเพอร์เจอร์’ ซึ่งผู้ป่วยเป็นโรคนี้มีสติปัญญาเหมือนเด็กปกติแต่จะมีปัญหาในการเข้าสังคมกับผู้อื่น
อดีตเพื่อนร่วมชั้นของอดัมบอกว่าเขาเคยเป็นเด็กที่สุภาพและเรียนเก่ง เขาอาศัยอยู่กับแนนซี่ แลนซ่าผู้เป็นแม่ในบ้านหลังใหญ่ราคาประมาณ 48 ล้านบาท ในนิวทาวน์ รัฐคอนเนตติคัต ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ
บ้านหลังละ 48 ล้านบาท ที่อดัมอาศัยอยู่กับแม่
อดีตเพื่อนร่วมชั้นหลายคนบอกว่า ไม่มีใครแปลกใจที่เขาก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้ พวกเขาบอกว่าอดัมไม่ได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับร.ร.มัธยมหรือเมืองนี้ นักเรียนคนอื่นๆ ต่างก็จำเขาได้เพราะเขาชอบแต่งกายด้วยชุดดำและถือกระเป๋าเอกสารสีดำมาโรงเรียน
นายเฟเดอร์แมน อดีตประธานนักเรียนของโรงเรียนมัธยมนิวทาวน์ ปี 2553 บอกว่าเขาก็เหมือนเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ที่เกือบจะจำอดัมไม่ได้ แต่ได้ยินจากเพื่อนร่วมรุ่นส่วนใหญ่ว่ามือปืนรายนี้ไม่เคยมีเพื่อน และเคยเห็นอดัมเวลาที่เขาเดินจากห้องเรียนหนึ่งเพื่อไปอีกห้องเท่านั้น โดยเขามักเดินคนเดียวและไม่เคยสนใจใคร และบอกว่าสิ่งที่จำได้เกี่ยวกับมือปืนรายนี้คือเขาชอบใส่เสื้อตัวใหญ่โคร่ง เหน็บปากกาไว้ในกระเป๋าเสื้อและถือกระเป๋าเอกสารสีดำในขณะที่นักเรียนคนอื่นๆ สะพายเป้หลัง
รายงานระบุว่าหลังจากย้ายมาอยู่ที่นิวทาวน์ อดัมได้เข้าเรียนที่ร.ร.ประถมแซนดี้ ฮุคซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ จากนั้นได้เข้าเรียนต่อที่ร.ร.มัธยมนิวทาวน์ โดยจบการศึกษาในปี 2553
ด้านนายริชาร์ด โนเวียร์ ที่ปรึกษาชมรมเทคโนโลยีที่อดัมเป็นสมาชิกกล่าวว่า อดัมมีความผิดปกติที่เห็นได้ชัด และอธิบายว่าเขาเป็นเด็กขี้กลัวและมีอาการประหม่าทั้งที่อยู่ท่ามกลางผู้คนที่ไว้ใจได้และปฏิเสธที่จะพูดกับใคร แต่ไม่คาดคิดว่าจะเขาก่อเหตุรุนแรงเช่นนี้ได้
อดัมกับเพื่อนๆ สมาชิกชมรมเทคโนโลยี
รายงานระบุว่าเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค ′แอสเพอร์เจอร์′ ซึ่งผู้ป่วยจะมีปัญหาในการติดต่อสื่อสารและทักษะการเข้าสังคม จนนำไปสู่การแปลกแยกและมีปัญหาทางอารมณ์
เพื่อนบ้านของอดัมรายหนึ่งบอกว่า เขารู้ว่าอดัมมีปัญหาด้านการเข้าสังคม ส่วนอดีตเพื่อนร่วมชั้นอีกคนบอกว่า ทุกคนคิดว่าเป็นเพราะเขาฉลาดและนั่นทำให้เขาไม่ชอบคุยกับคนอื่น และมักจะเกาะกลุ่มอยู่กับเพื่อนที่ฉลาดๆ ด้วยกันเท่านั้น ในขณะที่อดีตเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งบอกว่าเขาคิดว่าอดัมเป็นเด็กประหลาดตั้งแต่อายุ 5 ขวบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรดาเพื่อนๆ ของครอบครัวนี้บอกตรงกันว่า อดัมเริ่มมีปัญหาหนักขึ้นเมื่อพ่อแม่แยกทางกันเมื่อปี 2551 หลังแต่งงานมาเป็นเวลา 18 ปี และบอกว่าพ่อของเขาเป็นผู้บริหารระดับสูงน่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาทต่อปี และยังคงดูแลครอบครัวเป็นอย่างดี โดยยกบ้านหรูราคาแพงให้ลูกชายคนเล็กและอดีตภรรยาอาศัยต่อ และให้เงินส่งเสียเกือบ 10 ล้านบาทต่อปี
ขณะเดียวกันอดีตเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งของอดัมก็บอกว่าเขาเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากที่พ่อแม่หย่ากัน มักจะทำตัวแปลกแยกโดดเดี่ยว แต่ก็ฉลาดมาก และในหลายปีที่ผ่านมาเขาก็หายหน้าไปจากเพื่อนฝูง และถึงแม้ว่าเขาจะดูแปลกอยู่แล้ว แต่การหย่าร้างของพ่อแม่ก็มีกระทบต่อเขาอย่างมาก โดยเขามักจะทะเลาะกับแม่อยู่เสมอ และเขาเป็นเหมือน ‘ระเบิดเวลาที่รอการระเบิด’
รายงานเพิ่มเติมระบุว่าญาติของครอบครัวนี้บอกว่าแม่ของอดัมซึ่งเคยเป็นครูพิเศษที่โรงเรียนแซนดี้ ฮุค เป็นคนเข้มงวดและเอาแต่ใจตัวเอง และชอบสะสมปืน ซึ่งปืนทั้ง 3 กระบอกที่อดัมใช้ในการก่อเหตุก็มาจากปืนสะสมของเธอและเธอเองที่เป็นคนสอนอดัมให้ยิงปืน
ส่วนอดีตน้องสะใภ้ของแนนซี่แม่ของมือปืนกล่าวว่า แนนซี่เป็นแม่ที่ดีและใจดี ลูกๆ ของเธอด้วยได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี และบอกว่าแนนซี่เองก็รู้ถึงความปกติของอดัมและได้พยายามปรึกษาจิตแพทย์เพื่อช่วยเหลือลูกชายของเธอ
ด้านไรอัน แลนซา วัย 24 ปี พี่ชายของอดัมซึ่งทีแรกถูกเข้าใจว่าเป็นมือปืนที่ก่อเหตุสังหารหมู่ครั้งนี้ และถูกควบคุมตัวไปสอบสวน โดยถูกปล่อยตัวเมื่อวาน กล่าวว่าเขาไม่ได้ติดต่อกับน้องชายตั้งแต่ปี 2553 และบอกว่าน้องชายเป็นเด็กเนิร์ดและชอบเก็บตัว