คู่แรกเป็นศึกซุปเปอร์ไฟต์ รุ่น 67 กก. คู่แรก อิ๊กคิวซัง ก.รุ่งธนเกียรติ พบกับ อังเจโล่ เบเนียโร่ จากสเปน โดยชกไปไม่ถึงนาที อิ๊กคิวซังประเคนทั้งหมัดและศอกใส่คู่ชกจากสเปนจนร่วงลงไปนับ 8 ตั้งแต่ยกแรก ก่อนอิ๊กคิวซังจะออกมาสับศอกขวาเข้าเต็มหน้าของเบเนียโร่ร่วงลงไปนับ 10 ทำให้นักชกไทยเอาชนะน็อคไปได้ตั้งแต่ยกแรก

 

คู่ที่ 2 รุ่น 70 กก. สุดสาคร ส.กลิ่นมี พบ กุสตาโว่ เมนเดส จากบราซิล โดยสุดสาครส่งคู่ชกลงไปนับ 8 ได้ในยกที่ 3 ก่อนครบยกเอาชนะคะแนนไปได้

 

คู่ที่ 3 คู่ชิงชนะเลิศ ไทยไฟต์ เฮฟวี่เวท ซุปเปอร์ โฟร์ ดิมิทริโอ เบซัด จากยูเครน แพ้คะแนน พาทริก ควอเตร่อน จากฝรั่งเศส

 

ส่วนศึกไทยไฟต์ รอบชิงชนะเลิศ คู่แรก รุ่น 67 กก. สิงห์มณี แก้วสัมฤทธิ์ พบ อังเดร คูเลบิน จากเบลารุส

 

ยกแรกต่างฝ่ายต่างยังไม่เพลี่ยงพล้ำ เข้ายกที่ 2 ทั้งคู่เปิดหน้าชกใส่กันสนุก ยกที่ 3 ยกสุดท้าย สิงห์มณี เร่งเครื่องประเคนหมัดเข่าศอกใส่คู่แข่ง แต่คูเลบินยังป้องกันได้ดี ก่อนที่สิงห์มณีจะเอาชนะคะแนนไปได้คว้าแชมป์รุ่น 67 กก.พร้อมเงินรางวัล 2 ล้านบาท และรถอีซูซู ดีแมกซ์อีก 1 คัน

 

คู่ที่ 2 เป็นคู่เอก รุ่น 70 กก. บัวขาว ป.ประมุข พบ วิตาลี่ เฮอร์คู จากเบลารุส เปิดฉากมายกแรก บัวขาวเดินหน้าเข้าใส่คู่ชิงทันทีเข้าปล้ำจนเฮอร์คูลื่นล้มลงพื้นไปถึง 3 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถน็อกได้

 

ยก 2 นักชกเบลารุสเดินมากขึ้น แต่เจอบัวขาวตอบโต้ด้วยการแทงเข่าสลับเตะตัดล่าง ยก 3 บัวขาวเดินหน้าเข้าใส่ แต่คู่ชกยังป้องกันได้ดี โดยอาศัยการกอด ครบ 3 ยก บัวขาวเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้แบบประทับใจ ป้องกันแชมป์ไว้ได้อีกสมัย รับเงินรางวัล 2 ล้านบาท พร้อมรถอีซูซู ดีแมกซ์ อีก 1 คัน

 

นอกจากนี้ฝ่ายจัดแข่งขันยังได้มอบเงินสนันสนุนครอบครัวของทหารใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ 1 ล้านบาทด้วย