คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เห็นชอบในร่างประกาศฉบับใหม่ ภายใต้ พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เรื่อง การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางสาธารณะตาม พ.ร.บ.การจราจรทางบกนั้น
ประกาศฉบับดังกล่าวคาดว่าน่าจะสามารถบังคับใช้ได้ในช่วงปีใหม่นี้ ขึ้นอยู่กับกระบวนการของกฎหมายว่า คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ จะประชุมและส่งร่างประกาศให้นายกรัฐมนตรีลงนามในกฎหมายได้เมื่อใด
สำหรับการบังคับใช้กฎหมายนั้น จะตีความ คำว่า "ทางสาธารณะ" ตาม พ.ร.บ.การจราจรทางบก พ.ศ.2522 คือ ทางสาธารณะที่รถวิ่ง และรวมถึงส่วนต่อเนื่องคือฟุตบาธที่คนเดินด้วย ส่วนนอกเขตเทศบาล จะหมายถึงไหล่ทางที่ต่อเนื่องกับทางที่รถวิ่ง ผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุก 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ประกาศฉบับดังกล่าวเป็นการออกกฎหมายต่อเนื่อง จากประกาศเรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามบริโภคบนทาง ซึ่งห้ามการดื่มบนรถทุกประเภทที่ใช้ทางสาธารณะ
ประกาศทั้งสองฉบับมีวัตถุประสงค์ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย คือ เพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่พบว่าเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุจราจรจำนวนมากในแต่ละปี
ทำให้เกิดประเด็นถกเถียงว่า ทำได้หรือไม่ หลังจากออกประกาศฉบับดังกล่าว โดยเฉพาะประเทศไทยมีร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม ที่รุกล้ำทางสาธารณะจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ไม่ใช่สถานที่ที่สามารถทำการค้าขายได้ เพราะเป็นการรบกวนทั้งคนใช้ถนน และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถ
นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวหากตีความตามกฎหมายก็สามารถเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะจะยึดเอาแนวถนนและพื้นที่ต่อเนื่อง คือ ฟุตปาธ หรือ ไหล่ทาง ต่อจากนี้ จะไม่สามารถ "ขาย" เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ซึ่งการห้ามขายในลักษณะดังกล่าวหวังเพื่อลดความง่ายในการซื้อขายเครื่องดื่มสำหรับผู้ที่ขับขี่รถ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลจะพบว่า มีการขายลักษณะเร่ขายตามถนนซึ่งเสี่ยงต่อการซื้อดื่มขณะขับรถได้
เรื่องดังกล่าวต้องแยกออกจากเรื่องการดื่ม ปัจจุบันกฎหมายมีการกำหนดสถานที่ห้ามขายและดื่มไว้ เช่น วัด สถานศึกษา สถานที่ราชการ โรงพยาบาล สวนสาธารณะ บนรถที่อยู่บนทางสาธารณะ เป็นต้น ดังนั้น ทางสาธารณะ ยังเป็นส่วนที่กฎหมายบังคับใช้ไปไม่ถึง
สำหรับร้านขายอาหารและเครื่องดื่มที่อยู่ริมทางนั้น พบว่า ส่วนใหญ่เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี สามารถซื้อและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้จากร้านขายประเภทดังกล่าว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายเช่นกัน
การออกประกาศดังกล่าวจึงหวังลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ความรุนแรง และการเพิ่มนักดื่มหน้าใหม่ด้วย