เลยกลางเดือนธันวาคม เขยิบเข้ามาใกล้วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เขาว่าวันที่ 21 ธันวาคม นี้ เป็นวันโลกแตก
ใครจะเชื่ออย่างไรก็เชื่อไป แต่ตำรวจไม่ควรจะเชื่อตาม
เพราะตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน
หากวันที่ทำนายทายทักว่าโลกจะแตก ทำให้ผู้คนแตกตื่นเหตุวุ่นวายสับสนจะเกิดขึ้น เป็นเหตุให้เหล่ามิจฉาชีพฉกฉวยโอกาสนั้นก่อเหตุอาชญากรรม ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่
หากย้อนรำลึกไป 50 - 60 ปี ข่าวลือความเชื่อที่เกิดขึ้นมีไม่เว้นแต่ละปี ตั้งแต่กรณี "ซีอุย" ฆ่าเด็ก
และกินอวัยวะภายในเด็ก นับแต่ตับไตไส้พุง กว่าจะจับซีอุยมาลงโทษได้ ต้องใช้เวลาไม่น้อย
หรือกรณีผู้ที่เกิดปี "มะ" ซึ่งมีทั้งหมด 4 มะ มากที่สุดในกระบวนปีเกิด ตั้งแต่ปีมะโรง มะเส็ง คือปีนี้
และปีหน้า มะเมีย มะแม ถัดไปอีกปี หากวันนี้ยังเป็นเช่นเมื่อก่อน ข่าวลือเรื่อง "ปีมะ" น่าจะยังระบาดไม่รู้จบ
กระนั้น ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปเกินกว่าที่ใครจะคิดทัน เว้นแต่ผู้ที่ติดตามเทคโนโลยีมาตลอดและยังใช้งานเป็นประจำ อาจใช้ความรู้ทางเทคโนโลยีประกอบอาชญากรรมได้หลายประการ นับแต่การฉ้อโกงจากการใช้บัตรเครดิตของลูกค้า ที่แม้แต่ห้างแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ซึ่งชื่อว่าเป็นคนที่ซื่อสัตย์ในระดับสูง ยังมีข่าวพนักงานนำบัตรของลูกค้าที่ซื้อสินค้าไป "รูด" ถึงสองครั้ง กระทั่งลูกค้าเห็นผิดสังเกตขอตรวจสอบไปยังบริษัทเจ้าของบัตร
จึงได้รับแจ้งว่าพนักงานในห้างนั้นทำเช่นนั้นจริง ในที่สุดห้างนั้นก็ยอมรับผิดและคืนเงินให้ลูกค้า
พฤติกรรมเช่นนี้ใครอย่าคิดว่าจะไม่เกิดขึ้นในห้างร้านจำหน่ายสินค้าของเรา
ยิ่งระยะนี้เป็นเทศกาลใกล้วันปีใหม่ ผู้คนต่างไปหาซื้อสินค้าเพื่อเป็นของขวัญของฝากให้กับลูกค้าและผู้ที่เคารพนับถือ
ของขวัญบางชิ้นมีราคาแพงหลักหมื่น ทั้งทุกวันนี้แทบว่าไม่มีใครพกเงินสดติดตัวเพื่อชำระราคาสินค้า
ส่วนใหญ่ใช้บริการ "รูดปื้ด" กันทั้งนั้น
เบื้องต้น ขอท่านเจ้าของบัตรโปรดระวัง พยายามอย่่าให้พนักงานนำบัตรไปรูเในที่ลับตา หรือตรวจรูดจำนวนเงินกับธนาคารเจ้าของบัตรทุกครั้ง โดยเฉพาะครั้งที่มียอดเงินจำนวนสูง หากผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที