เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ร.ต.อ.เสรี ทวีทรัพย์ชวนัล รอง สว.กก.3 บก.ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.). พร้อมกำลังและเจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาสวัสดิการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าจับกุมนายวิทย์ศิวา ติมิตร อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 ม.2 บ้านหนองกุง ต.หนองใหญ่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ได้ที่รีสอร์ตบ้านยาย ห้องหมายเลข 11 จ.อุดรธานี ขณะอยู่กับเยาวชนหญิงอายุ 15 ปี จำนวน 2 คน ส่งให้ตำรวจสภ.หนองหาน จ.อุดรธานี ในข้อหาพรากผู้เยาว์เพื่อทำการอนาจาร
ร.ต.อ.เสรีเปิดเผยว่า ตำรวจปคม.ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านและบุคคลในพื้นที่ อ.ทุ่งฝน ถึงพฤติการณ์ของนายวิทย์ศิวา ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือว่า มีพฤติการณ์ทำตัวเป็นบุคคลกว้างขวาง ชอบซื้อเพศสัมพันธ์กับเด็กนักเรียนที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี และบางครั้งยังนำเด็กไปขายบริการด้วย โดยใช้วิธีติดต่อกับเด็กที่มาซื้อซิม หรือเติมเงินมือถือ พูดจาหว่านล้อมว่าจะให้เงินจำนวนมาก ยิ่งหากเป็นเด็กบริสุทธิ์จะได้สูงถึง 1 หมื่นบาท เมื่อได้หลับนอนกับเด็กแล้วยังให้เด็กๆ ติดต่อเพื่อนมาร่วมหลับนอนเป็นทอดๆ เบื้องต้นพบว่านายวิทย์ศิวา เคยซื้อบริการทางเพศกับเด็กไม่ต่ำกว่า 20 คน
ตำรวจปคม.จึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กระทั่งพบเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งเคยขายบริการทางเพศและติดต่อเพื่อนไปให้ จึงเชิญตัวมาสอบปากคำเด็กยอมรับและร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ทำทีเป็นติดต่อนายวิทย์ศิวา ว่าจะพาเพื่อนไปขายบริการนัดพบกันที่รีสอร์ตบ้านยาย เมื่อทั้งหมดเข้าไปในห้อง ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม เบื้องต้นนายวิทย์ศิวาให้การสารภาพ
ร.ต.อ.เสรีกล่าวอีกว่า สำหรับนายวิทย์ศิวา นอกจากซื้อบริการทางเพศกับเด็กแล้ว บางครั้งยังนำเด็กสาวไปขายบริการต่อให้กับคนรู้จัก หรือข้าราชการในพื้นที่อีกด้วย อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตำรวจจับกุมนายวิทย์ศิวา ปรากฏว่ามีผู้ปกครองเด็กหญิงอีก 4 รายที่ถูกหลอกให้ขายบริการทางเพศ เข้าแจ้งความเพิ่มเติมในข้อหาว่ากระทำชำเรา และพรากผู้เยาว์ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี เพื่อทำการอนาจาร
แก๊งกามเด็กอีกรายเกิดขึ้นที่จ.ขอนแก่น พ.ต.ท.สุพรรณ สุขพิไลกุล สวส.สภ.ย่อยเมืองเก่า จ.ขอนแก่น นำกำลังเข้าจับกุมนายสุริยนต์ หลวงจันทร์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 231 ม.3 ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง และนายบุญแถม มาตรา อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 ม.10 ต.หนองบัว อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ประกอบอาชีพขายปลาในจ.ขอนแก่น ดำเนินคดีพรากเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม พร้อมกันนี้เข้าจับกุมเยาวชนหญิงอายุ 16 ปี 2 คน และ 13 ปี 1 คน ในข้อหาเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาไปซึ่งเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อกระทำการประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม ร่วมกันพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา นางอักษร ฤทธิ์มหา เจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก ประจำบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ขอนแก่น นำตัวเด็กหญิงสองพี่น้องอายุ 11 ขวบ และ 9 ขวบ เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับเยาวชนหญิง 3 คน ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ล่อลวงไปขายบริการทางเพศกับนายสุริยนต์ และนายบุญแถม รวม 7 ครั้ง ตามรีสอร์ตต่างๆ ในพื้นที่ ระหว่างเดือนพ.ค.-ก.ค.ที่ผ่านมา จนเด็กมีอาการหวาดผวาและเจ็บปวดอวัยวะเพศ กระทั่งผู้ปกครองเค้นถามความจริงจึงยอมบอก ผู้ปกครองจึงส่งตัวไปรักษาที่ร.พ. พบว่าคนพี่มีอาการอวัยวะเพศฉีกขาด ส่วนคนน้องเนื้อตัวบวมช้ำจากการถูกกระทำทางเพศรุนแรง จึงส่งต่อมาให้บ้านพักเด็กและครอบครัวฯ ฟื้นฟูจิตใจ ก่อนพาตัวเข้าแจ้งความ
สอบสวนรายละเอียดทราบว่าเด็กหญิงคนพี่วัย 11 ขวบ ถูกเยาวชนที่ทำตัวเป็นแม่เล้าพาไปขายบริการให้นายสุริยนต์ รวม 4 ครั้ง ได้เงินครั้งละ 300-350 บาท ส่วนคนน้องไปขายบริการให้นายบุญแถม 3 ครั้ง แต่เนื่องจากเป็นเด็กไม่สามารถร่วมเพศได้ นายบุญแถมจึงให้ใช้ปากสำเร็จความใคร่ ก่อนให้เงินครั้งละ 2,000-5,000 บาท
ด้าน 2 ผู้ต้องหาเฒ่าหัวงูให้การสารภาพว่ามีรสนิยมชอบร่วมเพศกับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ขณะที่แม่เล้าเด็ก 3 คนสารภาพว่าก่อนหน้านี้เคยขายบริการทางเพศมาก่อน จนต่อมาก็ติดต่อรุ่นน้องในหมู่บ้านที่อายุไม่เกิน 13 ปีไปขายบริการ โดยจะได้ค่านายหน้าไม่มากนักครั้งละ 500-1,000 บาท นำเงินมาแบ่งกัน โดยเด็กส่วนใหญ่ยอมทำเพราะต้องการเงินไปซื้อโทรศัพท์มือถือ ซื้อของใช้ต่างๆ หรือจัดฟันตามที่วัยรุ่นในเมืองนิยมกัน