เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก spitfact.blogspot.com

          หนูน้อยมะกันวัย 7 เดือน ถูกนำส่งโรงพยาบาล เนื่องจากใบหน้าบริเวณใต้กรามบวมปูดอักเสบผิดปกติ สุดท้ายพบสาเหตุเป็นขนนกสีดำฝังอยู่ในผิวหนัง! 

          เว็บไซต์เดลิเมลรายงานข่าวแปลกจากกรณีของ เด็กหญิงไมอา วิธทิงตัน วัยเพียง 7 เดือนที่พ่อแม่รีบพาเธอไปส่งศูนย์การแพทย์ฮัทชิสัน ในรัฐแคนซัส เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากสังเกตเห็นใบหน้าช่วงใต้ขากรรไกรของหนูน้อยบวมนูนออกมาเป็นลูก ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นเพราะอาการอักเสบของต่อมน้ำเหลือง และได้จ่ายยาแก้อักเสบให้ก่อนอนุญาตให้กลับบ้านได้

          แต่หลังจากกลับบ้านได้เพียงไม่กี่วัน คุณยายของหนูน้อยไมอาก็พาเธอกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เพราะนอกจากอาการบวมจะไม่ดีขึ้นแล้ว ยังสังเกตเห็นตุ่มนูนเล็ก ๆ คล้ายสิวอยู่บนเนินของผิวที่บวมขึ้นมาด้วย ซึ่งอาการบวมของหนูน้อยในขณะนั้นใหญ่เท่ากับลูกกอล์ฟเกือบสองลูกเลยทีเดียว ครั้งนี้แพทย์ได้ให้ยาต่อต้านเชื้อทางเส้นเลือด และได้ทำการเจาะตุ่มคล้ายสิวนั้น เพื่อรีดเอาหนองออกมา 

          ต่อมาในวันที่ 10 ธันวาคม ครอบครัวได้พาหนูน้อยไปพบแพทย์อีกครั้งเพื่อล้างแผลและเช็กดูอาการ  ปรากฏว่า ระหว่างการทำแผลสะเก็ดที่ตุ่มคล้ายสิวได้หลุดออก มีเสี้ยนแข็ง ๆ ทิ่มออกมาจากผิวหนัง กุมารแพทย์รายหนึ่งจึงใช้ที่คีบดึงเสี้ยนนั้นออกมา แล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่า สิ่งที่คิดว่าเป็นเสี้ยนนั้น แท้จริงคือขนนกสีดำยาว 2 นิ้ว ซึ่งเข้าไปฝังอยู่ในผิวหนังของหนูน้อยตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่มีใครทราบได้ 


          ทั้งนี้แพทย์คาดว่า ขนนกดังกล่าว น่าจะหลุดเข้าไปในตัวไมอาผ่านการกลืนหรือหายใจ และทิ่มเข้าไปที่เนื้อเยื่อกระพุ้งแก้มด้านใน จนฝังตัวหายไปในเนื้อ เมื่อร่างกายพยายามกำจัดสิ่งแปลกปลอม จึงได้ผลักดันมันให้ทิ่มออกมาทางผิวหนังดังกล่าว 

          คุณแม่ของไมอากล่าวว่า ที่บ้านของเธอเคยมีหมอนยัดขนเป็ดอยู่หนึ่งใบ แต่เธอก็ได้ทิ้งมันไปนานแล้ว และไม่แน่ใจว่านั่นคือสาเหตุที่ทำให้มีขนประหลาดฝังไปในกระพุ้งแก้มของลูกสาวเธอหรือไม่ ทั้งยังบอกว่าไมอาทำท่าทางเกาบริเวณคางด้านซ้ายของเธอมาร่วม 2 เดือนแล้ว แต่ขณะนั้นเธอคิดว่าลูกสาวอาจคันเหงือกเพราะฟันที่กำลังจะขึ้น หรือไม่เธอคันเพราะมีอาการติดเชื้อที่หูเท่านั้น 

          อย่างไรก็ดี ตอนนี้หนูน้อยไมอาที่แสนจะเข้มแข็งยังคงร่าเริงดี แต่บริเวณที่เคยบวมนูนนั้นยังคลำพบตุ่มซีสต์ในผิวหนัง ซึ่งหากมันยังไม่ยุบหรือแตกไปเอง แพทย์ก็จำเป็นต้องทำการผ่าตัดให้เธอในอนาคต 

Credit: http://hilight.kapook.com/view/79550