สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีเหนือประกาศว่าได้ยิงจรวดอึนฮา-3 บรรทุกดาวเทียมขนาดเล็กขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศและวงโคจรแล้ว โดยข้ามน่านฟ้าของญี่ปุ่น ทั้งที่เพิ่งแจ้งว่าจะเลื่อนการยิงจรวดออกไปเนื่องจากมีปัญหาทางเทคนิค ทำให้รัฐบาลสหรัฐ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ประณามเกาหลีเหนือทันที เนื่องจากสหรัฐและชาติพันธมิตรมองว่าเกาหลีเหนือใช้การทดลองยิงจรวดเพื่อส่ง ดาวเทียมนี้เป็นการอำพรางการทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกล ซึ่งหากจริงจะเป็นการละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติที่ห้ามเกาหลี เหนือทดลองอาวุธด้วย
ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเชื่อว่าเกาหลี เหนือมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองแล้ว แต่ยังไม่มีเทคโนโลยีจรวดสำหรับบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ไปยังเป้าหมาย และก่อนหน้านี้เคยยิงจรวดล้มเหลวมาตลอด โดยเฉพาะในเดือนเม.ย.ปีนี้ที่จรวดระเบิดก่อนขึ้นชั้นบรรยากาศ จนมาแก้ตัวได้ในที่สุด โดยมีเศษจรวดตกลงในทะเลใกล้ชายฝั่งฟิลิปปินส์ ส่วนญี่ปุ่นรู้ความเคลื่อนไหวขณะจรวดเหินข้ามน่านฟ้าแต่ไม่ได้ยิงสกัด
เกาหลีเหนือประกาศข่าวดังกล่าวทางเครื่องกระจายเสียงทั่วกรุงเปียงยาง ประชาชนจึงออกมา โห่ร้องยินดีตามถนน บางคนกล่าวว่าการทดลองจรวดแสดงให้โลกเห็นว่าประเทศตนมีศักยภาพทางเทคโนโลยี แต่มีการคาดการณ์ว่านอกจากเหตุผลด้านอาวุธหรือเทคโนโลยี รัฐบาลเกาหลีเหนือภายใต้การนำของประธานาธิบดีคิม จองอึน ต้องการปลุกใจชาวเกาหลีเหนือเนื่องจากปี 2555 เป็นปีสำคัญของเกาหลีเหนือ อาทิ ครบรอบ 100 ปีชาตกาล นายคิม อิลซุง ผู้นำเกาหลีเหนือคนแรกและเป็นปู่ของนายจองอึน ครบรอบ 1 ปีการเสียชีวิตของนายคิม จองอิล อดีตผู้นำเกาหลีเหนือและเป็นบิดานายจองอึน และครบรอบ 1 ปีการขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศของนายจองอึนเองด้วย นอกจากนี้ นาย จองอิลเคยประกาศไว้ในปี 2551 ว่าเกาหลีเหนือจะบรรลุความก้าวหน้าทางวิทยาการภายในปี 2555
เกาหลีเหนือมักถูกลงโทษจากสหรัฐและเกาหลีใต้หลังการทดลองจรวดหรือระเบิดนิวเคลียร์ แต่เชื่อว่าเกาหลีเหนือต้องการส่งสัญญาณต่อรองให้สหรัฐลดบทบาททางทหารในคาบ สมุทรเกาหลี เพื่อแลกกับการล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์