การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน หรือเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 รอบรองชนะเลิศ นัดที่สองที่สนามศุภชลาศัย ระหว่างทีมชาติไทยกับมาเลเซีย ซึ่งเกมนัดแรกทั้งสองทีมเสมอกันมา 1-1 หากเกมนี้จบลงด้วยการเสมอกัน 0-0 ไทยจะผ่านเข้าชิงชนะเลิศกับสิงคโปร์ทันทีเนื่องจากได้เปรียบกฎประตูทีมเยือน โดยบรรยากาศรอบสนามเต็มเป็นไปอย่างคึกคักแฟนบอลร่วม 20,000 คนทั้งที่มีตั๋วเข้าชมและบางส่วนที่มาเพื่อร่วมเชียร์ผ่านจอมอนิเตอร์ยักษ์
โดยนัดนี้ทีมชาติไทยไม่มี "วินนี่" วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือใหญ่เนื่องจากโดนแบน แต่ตัวผู้เล่นชุดใหญ่ยังอยู่กันครบทั้ง กวิน ธรรมสัจจานันท์, ปิยพล บรรเทา, จักรพันธ์ พรใส, ภานุพงษ์ วงศ์ษา, ชลทิตย์ จันทคาม, อนุชา กิจพงษ์ศรี, ธีราทร บุญมาทัน, อดุล หละโสะ, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ดัสกร ทองเหลา, ธีรศิลป์ แดงดา ขณะที่ คริสนาซามี ราชาโคปาล กุนซือมาเลเซีย ส่ง นอร์ชาห์รุล บิน ตาลาฮ่า ผู้โหม่งประตูไทยในเกมแรกลงสนามเป็นกองหน้าตัวเป้า
เริ่มเกมครึ่งแรกไทยแม้ว่าจะครองความได้เปรียบจากการยิงประตูนอกบ้านแต่ยังเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าใส่ไม่ใช่มาเลเซียได้ตั้งตัวและแค่ 14 นาทีของการแข่งขันทำให้มาเลเซียต้องเบรกเกมไทยด้วยการตัดฟาวล์และโดนใบเหลืองไปถึงสองรายซ้อนทั้ง โมฮาหมัด ฟาดห์ลี และ มาฮาลี่ บิน จาซูลี่ หลังผ่าน 20 นาทีไทยเริ่มครองบอลบุกได้มากกว่าอย่างชัดเจน กระทั่งนาที 23 พิชิตพงษ์ ตัดฟาวล์เกมบุกของคู่แข่งและโดนใบเหลืองคนแรกของไทย
นาที 30 ไทยน่าได้ประตูขึ้นนำอย่างยิ่งจากการตัดแล้วโต้กลับเร็ว ดัสกร จ่ายตัดแผงหลังคู่แข่งให้ ธีรศิลป์ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงในกรอบแต่บอลพุ่งถากเสาสองออกหลังอย่างน่าเสียดาย นาที 43 เสือเหลือง ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 เมื่อ โมฮาหมัด ฟาดห์ลี ที่โดนใบเหลืองไปก่อนหน้านี้แล้วเกิดปากเสียงกับ ดัสกร ทองเหลา ผู้ตัดสิน ลี มิน ฮู ควักใบเหลืองให้ทั้งสองและเป็นใบแดงไล่ ฟาดห์ลี่ ออกจากสนาม อย่างไรก็ดีเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูได้จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0
ครึ่งหลังไทยชิงปรับหมากก่อนด้วยการส่ง อภิภู สุนทรพนาเวศ กองกลางจากโอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี ลงไปเล่นแทน พิชิตพงษ์ ที่โดนใบเหลืองไปแล้วในครึ่งแรก ขณะที่ มาเลเซีย ยังยึดผู้เล่นชุดเดิมจากครึ่งแรก
กระทั่งนาที 53 มาเลเซีย ปรับทัพครั้งแรกด้วยการถอด คูนันลาน ซูบรามาเนียม ออกแล้วส่ง โมฮาหมัด ไคริล บิน ซัมบรี่ ลงเล่นแทน นาที 56 ธีราทร ได้ลองปั่นฟรีคิกจากนอกกรอบแต่ผู้รักาษาประตูมาเลเซียพุ่งปัดทิ้งได้ทัน
แต่แล้วนาที 61 จากความผิดพลาดของกองหลังมาเลเซียที่จับบอลไม่ดีปล่อยให้ ธีรศิลป์ ฉกบอลหลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษให้ไทยขึ้นนำจนได้ 2-1 เท่านั้นไม่พอนาที 65 จากจังหวะฟรีคิก จักพันธ์ พรใส ยิงไกลผู้รักษาประตูมาเลเซียปัดบอลไม่พ้นเขตอันตราย ธีราทร วิ่งเข้าแปเน้นๆ ตุงตาข่ายไทยหนีไปไกล 2-0 ถัดมาอีกอึดใจเดียว มาเลเซีย ปรับทัพอีกครั้งด้วยการถอด อามาร์ บิน โรฮิดาน ออกแล้วส่ง ไฟซัล บิน มูฮาหมัด ซึ่งเป็นกองหลังลงไปเล่นแทน ขณะที่ไทยส่ง สมปอง สอเหลบ ลงไปเล่นแทน จักรพัน พรใส ในนาที 70 และนาที 72 มาเลเซีย ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายด้วยการส่ง โมฮาหมัด ซาฟี่ ซาลี่ กองหน้าตัวเก่งลงสนามไปแทน บาดดรอล บิน บัคเธียร์
นาที 78 ไทยเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายด้วยการส่ง อาทิตย์ สุนทรพิธ ลงสนามไปเล่นแทน ธีราทร บุญมาทัน นาที 81 มาเลเซีย ได้โอกาสลุ้นประตูจากลูกโหม่งระยะเผาขนที่เสาสองของ นอร์ชาห์รูล บิน ตาลาฮ่า แต่ว่า กวิน ยังยืนตำแหน่งดีทิ้งตัวปัดออกหลังได้ทัน ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้จบเกมไทยเปิดบ้านชนะมาเลเซีย 2-0 รวมผลสองนัดไทยชนะ 3-1 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จ โดยจะพบกับสิงคโปร์ที่ได้แชมป์รายการนี้ 3 สมัยเท่ากับไทย และเกมนัดแรกไทยจะออกไปเยือนสิงคโปร์ก่อนวันที่ 19 ธ.ค. และจะกลับมาเล่นนัดที่สองที่ไทยวันที่ 22 ธ.ค.