จับตร.ทางหลวง-ตชด.-พนง.แบ๊งก์-แก๊งอุ้มนักธุรกิจชาวลาวปล้นเงิน3.5ล.-เบื้องต้นปฏิเสธยกทีม

จากกรณี 3 คนร้ายแต่งกายครึ่งท่อนคล้ายตำรวจ ดักปล้นเงิน 3.5 ล้านบาท จากนายชัยวัฒน์พนธ์ ศรีสมทรัพย์ อายุ 50 ปี ชาวไทย และท้าวสมศักดิ์ วันวิไล อายุ 37 ปี และท้าวศรไชย สีหาราช อายุ 36 ปี สองพี่น้องชาวลาว หลังเบิกเงินจากธนาคารกสิกรไทย สาขานครพนม แล้วกำลังจะขับรถกลับข้ามไปฝั่งลาว เหตุเกิดหน้าสำนักงาน อบจ.นครพนม เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 ธ.ค.ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


 

 

คืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.ภ.จว.นครพนม เผยว่า หลังจากสอบเค้น จ.ส.ต.เอกชัย สิงห์ทองใหญ่ วัย 35 ปี ตำรวจทางหลวงซึ่งเป็นผู้โบกรถให้ผู้เสียหายจอด ก่อนทีมคนร้ายจะขับรถฮอนด้า ซีวิค สีน้ำเงิน ทะเบียนปลอม ณข 2532 กทม. ปาดหน้าเข้าปล้น ในที่สุดจ.ส.ต.เอกชัย ยอมรับสารภาพและซัดทอดว่าในทีมวางแผนอุ้มปล้นมีอีก 4 คนคือ ด.ต.ชดาวุฒิ นนท์คำวงศ์ อายุ 39 ปี, ด.ต.จำนงค์ รักษา อายุ 36 ปี ทั้งหมดตำแหน่ง ผบ.หมู่ สทล.5 กก. 4 สกลนคร ตำรวจทางหลวงประจำตู้ยาม ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม และ ด.ต.ณรงค์ บุญสินชัย อายุ 39 ปี ตชด.235 ธาตุพนม และนายทองเลิศ มาศหลุบเหลา อายุ 41 ปีพนักงานบริการลูกค้า ธนาคารกสิกรไทย สาขานครพนม

 


 

 

ผบก.ภ.จว.นครพนม กล่าวต่อไปว่าจ.ส.ต.เอกชัย ยังให้การซัดทอดด้วยว่า ด.ต.ชดาวุฒิ เป็นหัวหน้าทีมในการวางแผนปล้น หลังได้เงินจำนวน 3.5 ล้านไปแล้ว จึงแยกย้ายกันหลบหนี หลังจากสอบเค้นเสร็จเจ้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครพนม ชุดสืบสวน ภ.4 และชุดสืบสวน ภ.จว.นครพนม กว่า 30 นาย จึงกระจายกำลังเข้าจับกุมด.ต.ชดาวุฒิ ด.ต.จำนงค์ ได้ที่ป้อมยามตำรวจทางหลวง ต.หนองญาติ หมู่ 6 ถนนสายนครพนม-สกลนคร ห่างจากจุดปล่อยตัวท้าวศรไชยประมาณ 500 เมตร ขณะนั่งดูทีวีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และตามไปจับกุมด.ต.ณรงค์ ได้ที่ ตชด.235 อ.ธาตุพนม

 


 

 

พล.ต.ต.ชูรัตน์ กล่าวต่อไปว่า ช่วงเวลา 21.00 น.วันเกิดเหตุ นางสุภาพร มาศหลุบเหลา อายุ 38 ปี ภรรยาได้นำตัวนายทองเลิศ สามีเข้ามอบตัวที่โรงพักพร้อมของกลางเงินสดธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 3.5 ล้านบาทครบตามจำนวน อาวุธปืน 11 ม.ม.จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนในแม็กกาซีน 5 นัด พร้อมซองใส่ปืนคาดเอวซึ่งนายทองเลิศระบุว่าเป็นของด.ต.ชดาวุฒิ ที่โทรศัพท์ให้ไปรับที่ป้อมยาม ต.หนองญาติ พร้อมทะเบียนปลอม 5 แผ่นซุกซ่อนในกระเป๋าสะพายสีดำ นอกจากนี้ยังตามไปยึดรถฮอนด้า ซีวิค สีน้ำเงิน ทะเบียนจริง วพ 4289 กทม.ของจ.ส.ต.เอกชัยได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ

 


 

 

ต่อมาเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. ท้าวคำพร บุญยะลาด เจ้าของโรงเลื่อยไม้สายภูหลวง เมืองบัวระพา แขวงคำม่วน และผู้เสียหายทั้ง 3 ราย พร้อมญาติได้มอบกระเช้าดอกไม้ขอบคุณพล.ต.ต.ชูรัตน์ พร้อมทั้งมอบเงินสด 100,000 บาทเป็นสินน้ำใจในการจับกุมแก๊งคนร้ายได้และได้เงินคืนครบตามจำนวน

 


 

 

พล.ต.ต.ชูรัตน์ กล่าวว่า ผู้ต้องทั้ง 5 ราย เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานชัดเจน โดยแจ้งข้อกล่าวร่วมกันปล้นทรัพย์ ซึ่งจะนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้งว่า ยังมีเพื่อนร่วมขบวนการนอกเหนือจากนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตามคดีนี้จึงฝากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับพ่อค้าประชาชนที่มาเบิกเงินตามธนาคารต่างๆ และเบิกซ้ำติดต่อกันหลายครั้ง อาจเป็นช่องว่างให้คนร้ายก่อเหตุได้

 


 

 

ร.ต.ท.ณัฐดนัย ทองดง พงส.เจ้าของคดี กล่าวว่า ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 5 รายให้การปฏิเสธ ซึ่งจะได้นำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนขออำนาจศาลฝากขังในวันพรุ่งนี้ คาดว่าผู้บังคับบัญชาน่าจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีสำคัญที่ผู้ต้องหา 5 รายเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ

 


 

 

ขณะที่นายสุพัฒน์ จึงตระกูล ผู้ช่วย ผอ.ฝ่ายผู้จัดการเขตการบริการและการขาย 45 ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เบื้องต้นทางสำนักงานใหญ่มีคำสั่งไล่นายทองเลิศ ออกจากการเป็นพนักงานแล้ว ซึ่งทางสำนักงานใหญ่จะร่วมมืออย่างเต็มที่และไม่ปกป้องคนทำผิดเด็ดขาด แม้จะเป็นพฤติกรรมส่วนตัวแต่สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้แก่องค์กร โดยทางสำนักงานใหญ่ที่ กทม.จะแถลงข่าวรายละเอียดอีกครั้ง

 


 

 

ด้านพ.ต.ต.อนุสรณ์ หน่อคำบุตร สว.สทล.5 กก.4 สกลนคร กล่าวว่า ล่าสุดทางต้นสังกัด บก.ทล.มีคำสั่งให้ จ.ส.ต.เอกชัย ด.ต.จำนงค์ และด.ต.ชดาวุฒิ ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากทำผิดวินัยขั้นร้ายแรง ส่วนมูลเห็นจูงใจในการปล้นน่าจะเกิดจากความโลภและอยากได้เงิน หลังทราบว่าด.ต.ชดาวุฒิ เป็นเพื่อนกับด.ต.ณรงค์ ผบ.หมู่ ตชด.235 อ.ธาตุพนม ขณะที่นายทองเลิศ เป็นเพื่อนกับ ด.ต.ชดาวุฒิ ซึ่งเคยล้อมวงดื่มสุราด้วยกัน ขณะเดียวกันมีรายงานด้วยว่า ทาง กก.ตชด.23 สกลนคร ต้นสังกัดของ ด.ต.ณรงค์ ได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการเช่นเดียวกัน
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...