ห่างออกไปครึ่งโลก ทางใต้ของกรุงแมกซิโกซิตี้มีเกาะกลางน้ำแห่งนึงชื่อว่า La Isla de las Munecas แปลเป็นไทยว่า เกาะแห่งตุ๊กตา
เรื่องของเรื่องคือห้าสิบกว่าปีก่อนมีเด็กผู้หญิงมา จมน้ำตายในคลองใกล้ๆ กับเกาะแห่งนี้ ซึ่งบังเอิญเป็นที่ของกระทาชายนาย เบอร์เรรา หลังจากเด็กผู้หญิงคนนั้นจมน้ำตายไม่นานเบอร์เรราก็ออกไปตกปลามากินเหมือน ปรกติ แต่วันนั้นเขากลับตกได้ตุ๊กตาขึ้นมาตัวหนึ่ง เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรก็โยนมันไว้ที่ตลิ่งแล้วตกปลาต่อ
แล้ววันต่อมาเขาก็ตกตุ๊กตาได้อีก…แล้ววันต่อมาก็อีกตัว…แล้วก็อีกตัว
เอ้า…ให้พักทำใจสองวิ…
ตั้งแต่นั้นมาเบอร์เรราก็เริ่มเก็บเอาตุ๊กตาถูกทิ้ง มาผูกไว้ตามต้นไม้ เพื่อให้เป็นเพื่อนเล่นกับเด็กผู้หญิงคนนั้น บ้างก็มีแต่หัวเสียบไว้กับกิ่งไม้บนเกาะ…แล้วหลังจากผ่านไป 50 ปีมันก็มีอยู่เป็นพันเป็นหมื่นตัว เพิ่มความสยดสยองให้เกาะที่มันก็น่ากลัวอยู่แล้วอีก 10 เท่า
ความสยองของแท้มันเริ่มจากตรงนี้ เมื่อนายเบอร์เรราม่องเท่งไปในปี 2001
เฮียแกจมน้ำตาย ที่เดียวกับที่เด็กผู้หญิงคนนั้นตายเป๊ะ
หลังจากนั้นชาวบ้านก็ไม่ยอมเหยียบย่างเข้าไปบนเกาะ เพราะว่ากันว่าตุ๊กตาพวกนั้นมีชีวิตขึ้นมา แม้แต่หลานชายของเบอร์เรราที่ได้เกาะเป็นมรดกต่อมาก็สาบานว่ามีครั้งหนึ่ง เมื่อเขาเดินอยู่บนเกาะ มีตุ๊กตาที่ห้อยก้มหน้าอยู่กับต้นไม้มันเงยหน้าขึ้นมามองเขา…
ให้เวลาทำใจอีกสองวิ..
เกาะตุ๊กตาก็ค่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้นมาเพราะความเขย่าขวัญสั่นประสาทของมัน ถึงขนาดมีบริษัททัวร์จัดทัวร์ไปชมเกาะแห่งนี้ แต่แม้แต่คนแจวเรือที่พานักท่องเที่ยวไปเขาก็ไม่ยอมก้าวเท้าขึ้นเกาะเด็ดขาด
มันน่ากลัวขนาดนั้นแหละ ชมบรรยากาศเอาแล้วกัน