สุดยอด นักฟุตบอล ชุดดรีมทีม

World Team of the Decade
 
   ช่วงนี้กระแสการจัดทีมแห่งปี หรือทีมแห่งทศวรรษค่อนข้างมาแรง และ เดอะ ซัน แท็ปลอยด์ ชื่อดังของอังกฤษก็ไม่ยอมพลาดเช่นกัน อย่างไรก็ตามการจัดทีมยอดเยี่ยมไม่ว่าจะในรอบกี่ปีขึ้นมาสักชุดมักจะก่อให้ เกิดข้อถกเถียงขึ้นในหมู่คอลูกหนังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีนักเตะชื่อดัง และขวัญใจของใครหลายคนหลุดโผไป
   เนื่องจากทีมที่ เดอะ ซัน จัดขึ้นชุดนี้จัดอยู่ในประเภทดรีมทีมหรือทีมในฝัน ซึ่งคงจะไม่มีทางได้ลงเซิ้งแข้งกับทีมใดในโลกแห่งความจริงอย่างแน่นอน ดังนั้น World Team of the Decade ของเรา ซึ่งถูกจัดขึ้นในระบบ 4-3-3 ของ บาร์เซโลน่า นั้นจึงอุดมไปด้วยนักเตะเชิงรุก และไม่มีที่ว่างให้กับนักเตะเชิงรับอย่าง โคล้ด มาเกเลเล่ หรือ รอย คีน
   ขณะเดียวกันก็ยังไม่มีนักเตะสายพันธุ์ผู้ดีรายไหนติดโผมาด้วย ส่งผลให้กัปตันทีมสิงโตคำรามอย่าง จอห์น เทอร์รี่ รวมทั้งสุดหล่ออย่าง เดวิด เบ็คแฮม เป็นได้แค่ตัวสำรองอดทนเท่านั้น
 
  ผู้รักษาประตู - จานลุยจิ บุฟฟ่อน (ปาร์ม่า, ยูเวนตุส และอิตาลี)
 
   ตอนที่ ยูเว่ ตัดสินใจทุ่มเงินกว่า 30 ล้านปอนด์ซื้อ บุฟฟ่อน มาจาก ปาร์ม่า เมื่อปี 2001 ไม่มีใครหน้าไหนคิดว่า นายทวารค่าตัวแพงที่สุดในโลกคนนี้จะทำผลงานได้คุ้มค่าตัว อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปกว่า 8 ปี บุฟฟ่อน ยังคงได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในสุดยอดนายทวารแห่งโลกลูกหนัง การคว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก 2006 ร่วมกับทีมชาติอิตาลี คือไฮไลท์ในชีวิตการค้าถุงมือของมือกาวหน้าหยกในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา ส่วนกับสโมสร จิจี้ ไม่สู้จะประสบความสำเร็จเท่าไรนัก กระนั้นหมอนี้ก็ยังอุตส่าห์คว้าตำแหน่ง นายทวารยอดเยี่ยมของ เซเรีย อา มาครองได้ถึง 6 ครั้ง และครองตำแหน่งนายทวารยอดเยี่ยมของโลกได้ถึง 4 สมัย
   ผู้เข้าประกวดรายอื่น - โอลิเวอร์ คาห์น, อิเกร์ กาซิยาส และเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
 
  แบ็กขวา - มาร์กอส คาฟู (โรม่า, เอซี มิลาน และบราซิล)
 
   ในฐานะนักเตะที่ลงเล่นให้กับชาติที่ประสบความสำเร็จทางลูกหนังมากที่สุดในโลก มากนัดที่สุดไม่มีทางเลยที่ คาฟู จะหลุดโผไปได้ ลีลาการเล่นที่เร้าใจของ คาฟู เมื่อยามลงรับใช้ โรม่า มิลาน หรือ บราซิล คือนิยามของคำว่า ฟูลแบ็กในฟุตบอลยุคใหม่ อดีตกัปตันทีมชาติบราซิล เล่นเกมรับได้อย่างแข็งแกร่ง แถมยังเติมเกมรุกได้อย่างน่ากลัว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฟูลแบ็กหลายคนยึดเขาเป็นต้นแบบ ในปี 2002 คาฟู พาบราซิลผงาดครองแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 5 และเป็นส่วนหนึ่งของ มิลาน ชุดแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2007 อีกด้วย
   ผู้เข้าประกวดรายอื่น - ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, แกรี่ เนวิลล์, มิเชล ซัลกาโด้
 
  แบ็กซ้าย - เปาโล มัลดินี่ (เอซี มิลาน และอิตาลี)
 
   เราคงไม่ต้องพูดอะไรมากมายสำหรับ เปาโล มัลดินี่ ตำนานลูกหนังตัวจริงรายนี้ เพิ่งจะแขวนสตั๊ดไปในปี 2009 หลังค้าแข้งมายาวนานถึง 25 ปี การคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัยในปี 2003 และ 2007 กับ มิลาน คือไฮไลท์ในชีวิตนักเตะของ มัลดินี่ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ ทีมชาติอิตาลี ชุดแชมป์โลก 2006 แต่ น้ามัล ก็ยังขึ้นชื่อว่า เป็นหนึ่งในสุดยอดกองหลังตลอดกาล มัลดินี่ ลงเล่นเกมสุดท้ายตอนอายุ 41 และ มิลาน ก็ให้เกียรติตำนานของพวกเขาด้วยการรีไทร์เสื้อหมายเลข 3 ไปเรียบร้อย
   ผู้เข้าประกวดรายอื่น - โรแบร์โต้ คาร์ลอส และแอชลี่ย์ โคล
 
  เซนเตอร์ฮาล์ฟ - ฟาบิโอ คันนาวาโร่ (อินเตอร์ มิลาน, ยูเวนตุส, เรอัล มาดริด และอิตาลี)
 
   กัปตันทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์โลก 2006 คือตัวเลือกประเภทนอนมาสำหรับตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ หลังพา อัซซูรี่ คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ที่เยอรมัน คันนาวาโร่ ก็กลายเป็นกองหลังคนแรกที่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของฟีฟ่าไปครอง แถมยังเป็นนักเตะอายุมากที่สุดเท่าที่เคยได้รางวัลนี้ด้วยวัย 33 ปี อีกด้วย ส่วนในระดับสโมสร คันนา ก็ประสบความสำเร็จพอตัวด้วยการคว้าแชมป์ ลา ลีกา กับ เรอัล มาดริด 2 สมัย
   ผู้เข้าประกวดรายอื่น - อเลสซานโดร เนสต้า, จอห์น เทอร์รี่, ริโอ เฟอร์ดินานด์ และลูซิโอ
 
  เซนเตอร์ฮาล์ฟ - การ์เลส ปูโยล (บาร์เซโลน่า และสเปน)
 
   แม้จะไม่ใช่กองหลังที่เก่งฉกาจที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา แต่ด้วยความสำเร็จทั้งในระดับสโมสร และทีมชาติ ทำให้ ปูโยล มีชื่ออยู่ในทีมชุดนี้ด้วย เด็กสร้างของบาร์เซโลน่า ก้าวขึ้นเป็นกัปตันทีมเจ้าบุญทุ่มในปี 2003 และความภักดีที่มีให้กับ อาซูลกราน่า ก็ถือเป็นตัวอย่างอันดีแก่นักเตะรุ่นหลัง ปูโยล  คว้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองกับ บาร์ซ่า ได้ 2 สมัยคือในปี 2006 และ2009 รวมทั้งยังเป็นสมาชิกทีมชาติสเปนชุดแชมป์ ยูโร 2008 อีกด้วย
   ผู้เข้าประกวดรายอื่น - อเลสซานโดร เนสต้า, จอห์น เทอร์รี่, ริโอ เฟอร์ดินานด์ และลูซิโอ
 
  กองกลาง - หลุยส์ ฟิโก้ (เรอัล มาดริด, อินเตอร์ มิลาน และโปรตุเกส)
 
   ฟิโก้ เริมต้นทศวรรษด้วยการนั่งแท่นเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก หลังย้ายจาก บาร์เซโลน่า ไปอยู่กับอริร่วมชาติ อย่าง เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 37 ล้านปอนด์ เขาคือผู้ทรยศในสายตาแฟนบอล บาร์ซ่า และยิ่งเป็นที่ชังน้ำหน้าของเหล่า กูเล่ มากขึ้นไปอีก เมื่อช่วยคว้าถ้วยรางวัลให้ เรอัล ใบแล้วใบเล่า ฟิโก้ ได้แชมป์ ลา ลีกา ตลอด 2 ซีซั่นแรกใน เบร์นาเบว และเป็นหนึ่งในขุนพลชุดขาวชุดแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2002 การลงเล่นให้ เรอัล มาดริด ช่วยให้เขาคว้า บัลลง ดอร์ และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ ฟีฟ่า มาครองได้สำเร็จในปี 2001 นอกจากนี้ อดีตดาวเตะเชิงสูง ยังสวมปลอกแขนกัปตันพา โปรตุเกส ทะลุเข้าชิงดำ ยูโร 2004 ได้อีกด้วย
   ผู้เข้าประกวดรายอื่น - โคล้ด มาเกเลเล่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, รอย คีน, เดวิด เบ็คแฮม และชาบี เอร์นานเดซ
 
  กองกลาง - ซีเนดีน ซีดาน (ยูเวนตุส, เรอัล มาดริด และฝรั่งเศส)
 
   ซีดาน คือสุดยอดนักเตะในยุคของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีชื่อเขาอยู่ในทีมชุดนี้ เราจะเริ่มจากตรงไหนดีล่ะ เริ่มแรกคงต้องชี้ไปที่การพา ฝรั่งเศส คว้าแชมป์ ยูโร 2000 ซึ่งทำให้ จอมทัพหัวไข่ดาว คว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยมของ ฟีฟ่า เป็นสมัยที่ 2 จากนั้น เขาก็ย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวที่สูงเป็นสถิติโลกถึง 45 ล้านปอนด์ และคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ตั้งแต่ซีซั่นแรกใน เบร์นาเบว  ประตูจากการวอลเลย์สุดสวยใส่ตาข่ายของ เลเวอร์คูเซ่น ในเกมชิงดำที่ แฮมป์เดน พาร์ค กลายเป็นหนึ่งในประตูที่สวยที่สุดตลอดกาลของ ยูซีแอล นัดชิงฯ และยังทำให้ ซิซู คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ ฟีฟ่า ไปครองเป็นสถิติสูงสุดถึง 3 สมัยอีกด้วย แม้จะประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม แต่เรื่องหนึ่งที่ทำให้หลายคนจดจำ ซีดาน ได้ดีที่สุดก็คือการปล่อนเฮดบัตต์ใส่ มาร์โก มาเตรัซซี่ ในรอบชิงฯ ฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งทำให้เขาโดนไล่ออก ก่อนที่ ฝรั่งเศส จะปราชัยให้ อิตาลี ไปด้วยการดวลจุดโทษ 3-5 ในท้ายที่สุด
   ผู้เข้าประกวดรายอื่น - โคล้ด มาเกเลเล่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, รอย คีน, เดวิด เบ็คแฮม และชาบี เอร์นานเดซ
 
กองกลาง - โรนัลดินโญ่ (เกรมิโอ, เปแอสเช, บาร์เซโลน่า, เอซี มิลาน และบราซิล)
 
   นี่คือนักเตะคนเดียวที่คว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยมของ ฟีฟ่า ได้ถึง 2 สมัยในทศวรรษที่ 2000 เช่นเดียวกับ ซีเนดีน ซีดาน โรนัลดินโญ่ เกือบจะได้เริ่มต้นทศวรรษกับทีมเล็กๆอย่าง เซนต์ เมียร์เรน แต่การย้ายจาก เกรมิโอ มายังแดนขี้เมาด้วยสัญญายืมตัวกลับกลายเป็นหมันไปเสียก่อน จากนั้น ดินโญ่ ก็ย้ายไปพบกับสิ่งที่ดีกว่าที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และเป็นกำลังสำคัญในการพา บราซิล คว้าแชมป์โลก 2002 จนกลายเป็นเป้าหมายของ 2 ยักษ์ใหญ่อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และบาร์เซโลน่า ท้ายที่สุด เหยินน้อย ก็เลือกแสงแดดอุ่นๆในสเปน แทนที่จะเลือกไปเผชิญอากาศอันหนาวเหน็บใน แมนเชสเตอร์ ที่ คัมป์ นู เขาคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ ฟีฟ่า ได้ 2 สมัย และพา บาร์ซ่า คว้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2006 โรนัลดินโญ่ ถูกขายให้ เอซี มิลาน ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ ในอีก 2 ปีให้หลัง โดยถึงแม้จะยังเป็นนักเตะคนสำคัญของ ปีศาจแดงดำ แต่เขายังคงห่างไกลจากสมัยที่ค้าแข้งกับ บาร์ซ่า เยอะทีเดียว
   ผู้เข้าประกวดรายอื่น - โคล้ด มาเกเลเล่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, รอย คีน, เดวิด เบ็คแฮม และชาบี เอร์นานเดซ
 
 กองหน้า - ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า และอาร์เจนตินา)
 
   แม้จะเพิ่งประเดิมสนามให้ บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2004 และยังมีอายุแค่เพียง 22 ปี แต่ เมสซี่ ก็โผล่หน้าเข้ามาอยู่ในทีมชุดนี้ด้วยความสำเร็จอันล้นหลามกับสโมสร และความสำเร็จส่วนตัว แม้จะอยู่ในวันต้น 20 แต่ตู้เก็บรางวัลของ เมสซี่ ก็อัดแน่นไปด้วยเหรียญแชมป์ ลา ลีกา 3 สมัย, เหรียญแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย รวมทั้ง ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และคลับ เวิลด์ คัพ อีกอย่างละ 1 สมัย ซึ่งส่งให้เขากลายเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของ ฟีฟ่า ประจำปี 2009 อย่างไร้คู่แข่ง เมสซี่ คว้าแชมป์ทุกรายการเท่าที่จะสามารถคว้ามาได้กับ บาร์เซโลน่า ในปี 2009 ถึงแม้จะยังไม่โดดเด่นนักในเวทีระดับชาติ แต่เชื่อเหลือเกินว่า ดาวเตะพรสวรรค์รายนี้ จะคว้าเกียรติยศมาประดับบารมีได้อีกเพียบแน่นอน
   ผู้เข้าประกวดรายอื่น - ราอูล กอนซาเลซ, รุด ฟาน นิสเตลรอย, กาก้า และอังเดร เชฟเชนโก้
 
  กองหน้า - เธียร์รี่ อองรี (อาร์เซน่อล, บาร์เซโลน่า และฝรั่งเศส)
 
   นี่คือตำแหน่งที่เลือกได้ยากที่สุด แต่ อองรี เอาชนะคู่แข่งได้ด้วยความสำเร็จอย่างล้มหลามตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ขณะที่ โรนัลโด้ ของ บราซิล และรุด ฟาน นิสเตลรอย ถูกอาการบาดเจ็บพรากตัวไปจากสนามเป็นระยะ อองรี กลับทำผลงานได้อย่างสุดยอดตลอดช่วง 10 ปี เขาเริ่มต้นด้วยการคว้าแชมป์ ยูโร 2000 กับ ฝรั่งเศส และพา อาร์เซน่อล คว้าดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 2001-02 อองรี เป็นส่วนหนึ่งของ "เดอะ กันเนอร์ส" ชุดไร้พ่าย ซึ่งคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาครองโดยไม่แพ้ใครเลยสักนัดในซีซั่น 2003-04 ตีตี้ ครองตำแหน่งรองนักเตะยอดเยี่ยมของ ฟีฟ่า 2 ครั้งในปี 2003 และ2004 รวมทั้งเป็นกลจักรสำคัญในการเข็น อาร์เซน่อล เข้าชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2006 ก่อนย้ายไปเล่นให้ บาร์เซโลน่า ในปี 2007 และคว้าแชมป์สโมสรยุโรปมาครองได้สมใจในปี 2009
   ผู้เข้าประกวดรายอื่น - ราอูล กอนซาเลซ, รุด ฟาน นิสเตลรอย, กาก้า และอังเดร เชฟเชนโก้
 
กองหน้า - คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (สปอร์ติ้ง ลิสบอน, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด และโปรตุเกส)
 

   โรนัลโด้ คือเจ้าของตำแหน่งนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกคนปัจจุบัน หลังย้ายมาอยู่กับ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ การโชว์ฟอร์มได้อย่างเข้าตาในเกมอุ่นเครื่องระหว่าง สปอร์ติ้ง กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องทุ่มเงิน 12.25 ล้านปอนด์ กระชาก โรนัลโด้ มายัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พร้อมมอบเสื้อแข่งหมายเลข 7 อันศักดิ์สิทธิ์ให้ครอบครอง หลังจากโดน เฟอร์กี้ ปลุกปั้นอยู่ 3 ปี เจ้าโด้ ก็แปรสภาพจากนักเตะที่ชอบโชว์ลีลาพร่ำเพื่อขึ้นมาเป็นสุดยอดนักเตะของโลกได้อย่างน่าทึ่ง หลังทะลุเข้าสู่รอบชิงดำ ยูโร 2004 กับ โปรตุเกส โรนัลโด้ ก็พา แมนฯ ยูไนเต็ด ครองแชมป์ พรีเมียร์ลีก 3 สมัยซ้อนในปี 2007, 2008 และ 2009 โดยเฉพาะในซีซั่น 2007-08 นั้น ปีกจอมสับ สร้างสถิติยิง 42 ประตูใน 49 เกม และพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ พรีเมียร์ลีก และแชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งส่งผลให้เขาคว้าทั้งบัลลง ดอร์ และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ ฟีฟ่า ไปครองได้ในเวลาต่อมา โรนัลโด้ ปิดฉากทศวรรษที่ 2000 ด้วยการขยับขึ้นรั้งตำแหน่งนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก และเข้าป้ายถัดจาก เลโอ เมสซี่ ในการชิงรางวัลแข้งยอดเยี่ยมฟีฟ่าปี 2009 ซึ่งนับว่า ไม่เลยเลยสำหรับนักเตะที่ยังมีวัยเพียง 24 ปี
   ผู้เข้าประกวดรายอื่น - ราอูล กอนซาเลซ, รุด ฟาน นิสเตลรอย, กาก้า และอังเดร เชฟเชนโก้ 

Credit: siamsport
9 ก.พ. 53 เวลา 10:59 10,477 6 100
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...