สรรพลี้หวน วรรฌคดีที่โลกลืม 18+++

 

สรรพลี้หวน... วรรณคดีที่โลกลืม 18++

 

"สรรพลี้หวน" เป็นวรรณกรรมท้องถิ่นทางภาคใต้ (จังหวัดนครศรีธรรมราช) ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าใครเป็นผู้ประพันธ์ สันนิษฐานกันว่าคงจะเป็นปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ลักษณะการประพันธ์ เป็นแบบ นิทานคำกลอน หรือ กลอนสุภาพหรือ กลอนแปดตามขนบนิยม เนื้อหาเป็นคำผวนเกี่ยวกับเรื่องเพศและอวัยวะเพศ มีเนื้อหาชวนให้ขบขันมากกว่าก่อให้เกิดอารมณ์ทางเพศ มีความยาว 197 บท เนื้อหายังไม่จบสมบูรณ์

           สรรพลี้หวนสำนวนเก่าพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2516 โดยขุนพรหมโลก (นามแฝง) ซึ่งผู้พิมพ์ให้ความเห็นไว้ว่า ผู้แต่งอาจเป็นชาวนครศรีธรรมราช แต่งขึ้นประมาณ พ.ศ. 2425 - 2439 ต่อมามีผู้แต่งเลียนแบบขึ้นอีกหลายสำนวน ในหอพระสมุดเองมีหนังสือเรื่องหนึ่งชื่อ "ศัพท์ลี้หวน" ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกัน

           โบยบินเห็นว่าในเมื่อห้องกลอนของเรามีห้อง "กลอนทะลึ่ง กลอนทะลึ่งๆ" จึงมีบ้างที่บางทีเพื่อนนักกลอนอาจจะเขียนกลอนที่เป็นกลอนสองแง่สองง่าม  อย่างกลอน"ดำ...เต็มกอ" ของโบยบิน หรือ "สีทองกับสีแทน" ของท่านธารอักษรา  โดยมีจุดประสงค์ที่ให้ผู้อ่านขบขัน  มิได้มีเจตนาที่จะหยาบโลน และให้ทุกท่านโปรดได้อ่านในแง่ของศิลปะวรรณศิลป์  ซึ่งได้บ่งบอกถึงอารมณ์ขันของผู้แต่ง และผู้ที่แต่งกลอนประเภทนี้จะต้องเป็นผู้ที่มีไหวพริบปฏิภาณ  มีอารมณ์ศิลปิน หากท่านใดจะมีความคิดเห็นประการใดจะตำหนิหรือติชมความคิดเห็น โบยบินก็ขอน้อมรับฟังไว้ด้วยความยินดี
           และต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบทกลอนเรื่อง "สรรพลี้หวน" ที่โบยบินอยากจะให้ท่านนักกลอนได้ศึกษา หากท่านใดประสงค์ที่จะอ่านทั้งหมด ขอให้เข้าไปหาอ่านได้ใน "กูเกิ้ล"

.....................................................................................

นครังยังมีเท่าผี่แหน   กว้างยาวแสนหนึ่งคืบสืบยศถา 
เมืองห้างกวีรีหับระยับตา    พันหญ้าคาปูรากเป็นฉากบัง 
สูงพอดีหยีหิบพอหยิบติด    ทองอังกฤษสลับสีด้วยหนีหัง 
กำแพงมีรีหายไว้ขอดัง    เจ้าจอมวังพระราโชท้าวโคตวย 
มีเมียรักพักตร์ฉวีดีทุกแหง     นั่งแถลงชมเชยเคยฉีหวย 
เจ้าคีแหมรูปโอเมียโคตวย    ท้าวหวังรวยกอดินอยู่กินกัน 
มีลูกชายไว้ใยชื่อใด่หยอ    เด็กไม่ลอเกิดไว้ให้คีหัน 
นอนเป็นทุกข์ดุกลอยิ่งคอดัน    ให้ลูกนั้นหาคู่เป็นหูรี 
ต้องไปขอลูกสาวท้าวโบตัก     มันตั้งหลักอยู่ไกลชื่อไห่หยี 
เป็นลูกเชื้อเนื้อนิลนางหิ้นปลี    เมืองห้างชีปกครองทั้งสองคน ฯ

 

๏ หยิบกระดาษดินสอมาจอดับ เขียนแล้วพับอ่านดีครบสี่หน ให้เสนีมีหือถือนิพนธ์ เด็กหนึ่งคนก้มพักตร์มาดักรอ จึงตรัสใช้เสนีให้คลีหาน สูรีบผ่านบ่ายพักตร์เถอะดักหยอ ผมเป็นโรคเหน็ดเหนื่อยหัวเดือยปอ รักษาพอมาคลายกินหายควี แต่นายใช้จำกัดดัดไม่ขอ ถึงเด็กลอก็ต้องไปถึงไหหยี รับสาโรโคตวยพวยทันที จากบุรีเร็วพลันดันไม่รอ เข้าป่าแกแลทั่วกลัวผีเห็น เดินเย็นๆตัดตรงเข้าดงหลอ พบสระศรีบัวชุกดุกขึ้นออ เด็ดสองลอดมกลิ่นหอมหมินดี ชะนีหงส์ลงดินลงกินน้ำ เดินมุ่งตามเห็นรอยหอยกับหมี พบเบื้องอ่างถางใหญ่ไหของคี ใครมาตีแตกสะเก็ดเหมือนเด็ดยอ เที่ยวจรดลยนเค็ดไม่เสร็จเรื่อง ใกล้ถึงเมืองหิวจี้ไม่มีหอ อดข้าวน้ำสามวันดันทั้งวอ บอบเสียพอตัวกูเรื่องหูรี พบดอกตอกอดำจำต้องเด็ด ยีให้เหม็ดเกลี้ยงวาวเหมือนหาวสี บรรลุถึงเขตทางเมืองห้างชี เจ้าธานีหัวด่างเป็นสางคลอ กำแพงก่อต่อด้านทหารเฝ้า เสียงคนฉาวเข้าไปถึงไดหลอ พวกเสนาเซ็กเซ็กเด็กมารอ มายืนออถามดูแล้วหูดี เราจากไกลไฉแข็งเก่งนักหนา ถือสาราจะเข้าไปให้ไหหยี ท้าวโบตักจอมวังยังพอดี เจ้าหิ้นปลีคีหันหรือฉันใด   แฮะๆๆ อ่านเพื่อความสำราญใจนะคะ 

  

เนื้อหาโดย: ZaLaPaO
Credit: โพสต์จังดอดคอม
3 ธ.ค. 55 เวลา 21:47 4,742 4 90
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...