หลังการเคลื่อนไหวทางการเมืองแทบว่าจะจบสิ้นลงไปชั่วขณะ แต่ความสงบของบ้านเมืองก็ไม่ได้หมายความว่าจะสงบตามไปด้วย



จากนี้ไปกระทั่งสิ้นปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังต้องทำงานอย่างหนักต่อไป



ทั้งยังต้องเป็นการทำงานเชิงรุก เตรียมความพร้อมรับมือให้เต็มที่



คือ รับมือกับมิจฉาชีพ ทั้งคนไทยด้วยกันเอง กับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้านที่นิยมเข้ามาเพื่อก่ออาชญากรรม เป็นมิจฉาชีพประเภทตัดช่องย่องเบา กรีดกระเป๋า ลักโทรศัพท์



การ ชุมนุมผู้คนเรือนแสนเรือนล้านในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ณ ลานพระราชวังดุสิตและถนนราชดำเนินนอก แม้พสกนิกรจะมาร่วมกันถวายพระพรและชื่นชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว ก็ไม่ได้หมายความว่า บรรดามิจฉาชีพทั้งคนไทยและชาวต่างชาติจะหยุดยั้งพฤติกรรมในการก่ออาชญากรรม เพราะขณะที่ผู้คนแออัดยัดเยียดเบียดกันอย่างนั้นทำให้ผู้คนไม่ค่อยระมัด ระวังตัวเองเท่า ที่ควร



โดยเฉพาะทุกวันนี้ ไม่ว่าใครก็ย่อมมีโทรศัพท์กันคนละเครื่องสองเครื่อง ทั้งเครื่องโทรศัพท์ของบางคนเป็นโทรศัพท์ที่มีราคาแพงประเภทไอโฟนซึ่งเป็น ที่ต้องการของเหล่านักแซ้ง



เมื่องานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และในรถไฟฟ้าใต้ดิน เจ้าหน้าที่ต้องคอยประกาศให้ ผู้เข้าไปในงานและโดยสารรถไฟฟ้าว่าให้ระวังโทรศัพท์มือถือ เพราะมีนักล้วงกระเป๋าในงานจำนวนมากและทำงานเป็นกลุ่ม โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่พร้อมจะล้วงเอาโทรศัพท์มือถือที่พบเห็นผู้นำขึ้นมา ใช้ และไม่ระมัดระวังการเก็บไม้ในที่ปลอดภัย



เหตุผลที่ไม่ล้วงกระเป๋าเงินเหมือนเมื่อก่อน เพราะโทรศัพท์มือถือมีราคาชัดเจนแน่นอนกว่าครับ