จากกรณีนายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศจัดตั้งพรรคการเมืองชื่อพรรค “ทวงคืนผืนป่าประเทศไทย” โดยจะชูนโยบายในเรื่องการปกป้องทรัพยากรป่าไม้เป็นหลักนั้น ล่าสุดเมื่อวันนี้( 1ธ.ค.) นายดำรงค์ เปิดเผยว่า หลังจากการประกาศจัดตั้งพรรคทวงคืนผืนป่าประเทศไทยออกไปแล้ว ได้รับการกระแสตอบรับดีมาก มีประชาชนติดต่อประสานมาจะขอเป็นสมาชิกพรรคจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นเพราะความคับข้องใจกับจากความไม่ชัดเจนของนโยบายในเรื่องป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติของรัฐบาลและพรรคการเมืองอื่นๆ ในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งมีบางคนเสนอให้ไปรวมตัวกับพรรคของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย เพื่อทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้น ซึ่งตนก็ขอความขอบคุณทุกความคิดเห็น แต่พรรคของตนกับนายชูวิทย์นั้นทำงานคนละด้าน หลังจากมีความชัดเจนในการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งในวันที่ 12 ธ.ค.แล้ว ก็อาจจะมีการทาบทามอดีตข้าราชการ นักวิชาการ ที่มีประสบการณ์การทำงานด้านทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม และมีอุดมการณ์เดียวกับเรามาร่วมด้วยก็ได้
นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวว่า ตนมองในแง่บวกว่าการตั้งพรรคการเมืองเป็นทางหนึ่งที่จะสื่อสารหรือแสดงแนวคิดในเรื่องการทวงคืนผืนป่า และการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติออกมาให้สังคมรับรู้ แม้จะได้หรือไม่ได้ ส.ส.ในสภาก็ตาม ซึ่งเป็นเรื่องดีและไม่ใช่เรื่องเสียหาย ทั้งนี้การออกมาตั้งพรรคการเมืองของนายดำรงค์ซึ่งมีภาพลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทยในช่วงที่ผ่านมา อาจทำให้มองเห็นความไม่เป็นเอกภาพของพรรคเพื่อไทยในเรื่องนโยบายด้านป่าไม้ ทรัพยากรและการอนุรักษ์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยอาจไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และหากพรรคของนายดำรงค์เกิดขึ้นได้จริงและมีนโยบายจริงจังในเรื่องป่าไม้ ก็จะถือเป็น “พรรคกรีน”พรรคแรกของเมืองไทยเหมือนในต่างประเทศที่มีพรรคการเมืองที่ทำในด้านสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ถือเป็นทางเลือกที่ดีของประชาชนอีกทางหนึ่ง
นางวัฒนา วชิโรดม เลขาธิการเครือข่ายการจัดการวิกฤติป่าและน้ำ กล่าวว่า การตั้งพรรคของนายดำรงค์ เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เพราะที่ผ่านมาไม่มีพรรคการเมืองใดสนใจ นโยบายเกี่ยวกับป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติและการทวงคืนผืนป่าอย่างจริงจัง มีแต่นโยบายเอาที่ดินของรัฐและผืนป่าทั้งอุทยานฯ และป่าสงวนแห่งชาติไปแจกชาวบ้านที่ตนเองคิดว่ายากจน แต่จริงๆ ไม่ใช่ เพราะสุดท้ายก็ไปตกอยู่ในมือของนายทุนหมด แม้กระทั่งรัฐบาลปัจจุบันก็ไม่ได้เอาจริงเอาจัง มีแต่การให้ชะลอการจับกุมผู้บุกรุกป่า จนปัจจุบันผืนป่าของไทยเหลืออยู่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นเท่านั้น
ด้านนายวินัย ทรัพย์รุ่งเรือง นายกสมาคมศิษย์เก่าคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า การตั้งพรรคของนายดำรง เป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้รับการยอมรับจากสังคมและประชาชนมากน้อยแค่ไหน เพราะคนไทยชอบเอาของฟรีจากหลวงมาก และคนที่ชอบเอาของหลวงทั้งป่าทั้งที่ดินก็ล้วนแต่เป็นผู้มีอิทธิพล อย่างไรก็ตามเท่าที่รู้จักนายดำรงค์ ยอมรับว่าเป็นคนทำงานตรงไปตรงมาและจริงจัง ส่วนจะสมัครเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ก็สนใจ แต่ต้องขอดูความชัดเจนก่อน ว่านโยบายที่จะร่างขึ้นมีความตรงไปตรงมามากน้อยแค่ไหน