เสี่ยร้านเพชรเชียง ใหม่ ยิงดับ หนุ่มการไฟฟ้าสี่ยร้านเพชรเชียงใหม่ ยิงดับ หนุ่มการไฟฟ้า ฉุนค้างค่าไฟแค่ 7 ร้อยกว่าบาท แล้วจะโดนตัดไฟ เลยลากปืน 11 ม.ม. ยิงทะลุอก กระสุนตัดขั้วหัวใจตายอนาถหน้าร้านเพชร ก่อนนั่งใจเย็นถือปืนรอมอบตัวอยู่ในร้าน สารภาพเครียดหลายเรื่อง ทั้งขายของไม่ได้ โดนขโมยของ แล้วยังจะมาถูกตัดไฟอีก เลยฟิวส์ขาดลงมือก่อเหตุ ตำรวจควบคุมตัวดำเนินคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา และครอบครองอาวุธปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตไม่ได้

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 พ.ย. ร.ต.ต.ประยุพ วงค์รัตนมัจฉา ร้อยเวร สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ รับแจ้งมีเหตุยิงกันเสียชีวิตเหตุเกิดห้างดวงตาเพชรอัญมณีและเครื่องประดับ เลขที่ 84/50 ถ.โชตนา หมู่บ้านโชตนานิเวศน์ ต.ช้างเผือก จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภาค 5 พ.ต.อ.วีระวุฒิ เนียมน้อย รอง ผบก. ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.กิตติสินธุ์ คงทวีพันธ์ ผกก.สภ.ช้างเผือก พ.ต.ท.สมชาย รุ่งสีทอง รอง ผกก.ป. เจ้าหน้าที่วิทยาการและแพทย์ร.พ.มหาราชเชียงใหม่

ที่เกิดเหตุพบศพนายเสน่ห์ คุณา อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.3 ต.สันพระเนตร อ.สันทราย พนักงาน บ.เอสพีเอ็น อิเล็คทริค จก. ซึ่งรับสัมปทานจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในการเร่งรัดหนี้สิน นอนเสียชีวิตจมกองเลือด สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อลายสก๊อตสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนส์สีดำ มีกระเป๋าสีน้ำตาลคาดเอวอยู่ พบไขควงสีแดง และหมวกกันน็อกของผู้ตายตกอยู่ข้างตัว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. บริเวณหน้าอกด้านซ้ายตัดขั้วหัวใจ

ส่วนมือปืนทราบชื่อนายสมบุญ กุลศิวะพร อายุ 41 ปี เจ้าของห้างดวงตาเพชรอัญมณีฯ นั่งถือปืนขนาด 11 ม.ม. รอมอบตัวอยู่ในร้าน พร้อมให้การว่า ช่วงนี้มีอาการเครียดเนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี จึงไม่ค่อยมีลูกค้ามาซื้อสินค้า ประกอบกับเพิ่งถูกคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ และล่าสุดมีกลุ่มวัยรุ่นโยนประทัดใส่รถ ทำให้เกิดความเครียดสะสม กระทั่งพนักงานเก็บเงินค่าไฟฟ้า จะมาถอดมาตรวัดไฟฟ้าไป ทั้งที่เพิ่งค้างชำระค่าไฟฟ้าเพียงไม่กี่วันเท่านั้น จึงเกิดโมโหจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ ใช้อาวุธปืนยิงนายเสน่ห์จนเสียชีวิต

สอบสวนนายสุรพงษ์ ธูปนามขำ อายุ 25 ปี เพื่อนร่วมงานผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมาจดมาตรวัดไฟฟ้าภายในหมู่บ้านดังกล่าวตามหน้าที่ เมื่อถึงที่ห้างดวงตาเพชรอัญมณีฯ ซึ่งค้างชะระค่าไฟฟ้าเป็นเงินเพียง 795.44 บาท และเลยเวลาที่กำหนดแล้วจึงต้องปลดสายไฟฟ้าออกจากมาตรวัด แต่ต้องตกใจเพราะนายสมบุญถือปืนเดินออกมาจากร้าน พร้อมตะโกนว่า ?มาตัดเร็วไป ไม่ให้เวลาบ้าง? ทำให้หวาดกลัวรีบวิ่งหนีไปหาที่กำบังตัว จากนั้นโทรศัพท์ไปแจ้งบริษัททราบ ต่อมาบริษัทส่งผู้ตายมาปลดมาตรวัด กระทั่งถูกนายสมบุญยิงจนเสียชีวิตดังกล่าว

พล.ต.ต.ชำนาญเปิดเผยว่า จากการตรวจค้นภายในบ้านนอกจากอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. แล้วยังพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์อีก 1 กระบอก และกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง โดยนายสมบุญเคยมีประวัติใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า เพื่อระบายความ เครียดมาแล้วครั้งหนึ่ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าคนตายโดยเจตนา มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกทะเบียนให้ครอบครองไว้ได้ มีอาวุธปืนเถื่อน และเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก ดำเนินคดีต่อไป