เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ร.ต.ต.บรรจง ชลธี ร้อยเวร สภ.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ รับแจ้งมีกลิ่นคล้ายซากศพโชยออกมาจากบ้านเลขที่ 36 ม.10 บ้านแสนสำราญ ต.บึงกาฬ จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ พบซากศพของนายไทปิยะ หรือตู่ ชาวไร่ อายุ 33 ปี เจ้าของบ้าน สภาพศพสวมเสื้อแขนยาวลายสกอต กางเกงยีนส์ขายาว สภาพศพหัวขาดนอนตายหงายท้องอยู่ภายในห้องช่วงระหว่างทางเดินไปห้องน้ำ ส่วนศีรษะมีเชือกไนลอนสีเขียวผูกติดอยู่กับขื่อบ้าน ผมล่วงเนื้อใบหน้าเปื่อยเน่าจนเห็นกระดูก มีหนอนไต่ยั้วเยี้ยทั่วร่างกายและมีน้ำเหลืองไหลเต็มพื้นห้อง กลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ
ต่อมาแพทย์ได้ชันสูตรศพคาดว่า เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 วัน เนื่องจากตัวหนอนได้กลายเป็นแมลงไปแล้ว ทั้งนี้ ในที่พบศพมีเครื่องเสียงเสียบปลั๊กไฟอยู่ มีกระติกน้ำแข็ง ถังน้ำและขวดเบียร์ที่ยังไม่ได้เปิดเหลืออยู่ 1 ขวด และในกระเป๋าเสื้อด้านซ้ายมีจดหมายลาตาย 4 แผ่นกระดาษ A4 โดยได้บรรยายเรื่องการประพฤติตัว การติดยาเสพติดและขอโทษ พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ พลพุทธา ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ ที่ให้โอกาสกลับเนื้อกลับตัว แต่ตัวเองทำไม่ได้จึงขอลาตาย
จากการสอบสวนญาติทราบว่า ผู้ตายได้อาศัยอยู่บ้านหลังนี้เพียงลำพัง โดยมีบ้านญาติอีกหลังหนึ่งที่อยู่ในรั้วติดกัน มีประวัติเคยติดยาเสพติด แต่ได้เลิกไปแล้วหันมาดื่มเหล้าแทน จึงเกิดประสาทหลอนคิดว่าตำรวจจะตามล่าไปฆ่าทิ้ง และเมื่อคืนกลางดึกวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุปืนเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ของบริษัททีโอทีมีความสูง 150 เมตร เพื่อฆ่าตัวตาย กระทั่ง พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ พลพุทธา ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ ต้องมาเกลี้ยกล่อม รับปากจะไม่มีตำรวจคนไหนทำร้ายจึงยอมลงจากเสา เจ้าหน้าที่คาดว่าภายหลังกลับไปที่บ้าน ผู้ตายคงเกิดอาการประสาทหลอนอีก