เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 29 พ.ย. เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงพม่าบุกเผาเต็นท์ที่พักของชาวบ้านและพระภิกษุหลายร้อยคนซึ่งประท้วงไล่ที่ขยายเหมืองทองแดงในเมืองโมนยวา เป็นเหตุให้พระ 30 รูปถูกไฟคลอกบาดเจ็บ ชาวบ้านต้องหนีตายอลหม่าน และพระบางรูปถูกตำรวจจับกุมตัวไปดำเนินคดี
ผู้ประท้วงกลุ่มดังกล่าวต่อต้านไล่ที่ขยายเหมืองทองแดงในเมืองโมนยวาของบริษัทหวันเป่าจากประเทศจีน ซึ่งร่วมหุ้นกับบริษัทเมียนมาร์ อีโคโนมี่ โฮลดิ้ง ของกองทัพพม่า โดยเป็นกรณีที่ยืดเยื้อมานานตั้งแต่เดือนมิ.ย. และมีทีท่าว่าจะกระทบต่อคะแนนนิยมรัฐบาลพลเรือนของประธานาธิบดีเต็งเส่ง เนื่องจากสั่งสลายการชุมนุมถือเป็นความขัดแย้งกับแนวทางปฏิรูปประชาธิปไตยที่ผู้นำพม่าเคยสัญญาหลังรับตำแหน่งเมื่อปี 2554
ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมดังกล่าว ตำรวจยังระดมฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อสลายการชุมนุมของชาวบ้านอีกระลอก พระรูปหนึ่งซึ่งร่วมประท้วงกล่าวว่า การกระทำของทางการถือว่าไร้มนุษยธรรม พร้อมเรียกร้องให้บริษัททำเหมืองระงับกิจการจนกว่าจะแถลงการวิจัยผลกระทบของเหมืองต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ขณะที่ตำรวจขึ้นป้ายประกาศให้ผู้ประท้วงยอมรับตามข้อกฎหมายซึ่งเป็นปัจจัยดึงดูดและปกป้องนักลงทุนต่างชาติ แหล่งรายได้สำคัญของประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทหวันเป่า และเมียนมาร์ อีโคโนมี่ โฮลดิ้ง ได้บังคับยึดเอาที่ดินของชาวบ้านราว 20,232 ไร่โดยไม่มีการหารือ หรือจ่ายเงินชดเชยการเวนคืนที่ดิน ส่งผลให้ชาวบ้านและพระสงฆ์รวมตัวประท้วงบนที่ดินซึ่งมีข้อพิพาท โดยพระสงฆ์ในพม่าเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวทางประชาธิปไตยมาหลายครั้ง โดยเฉพาะในปี 2550 ที่ถูกรัฐบาลทหารพม่าปราบปรามครั้งใหญ่