การผ่าตัดเพิ่มขนาดขององคชาต

 

 

 

 

 

การผ่าตัดเพิ่มขนาดขององคชาต

 

 

การผ่าตัดเพื่อขยายขนาดขององคชาตในทางการแพทย์ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ว่า เป็นการผ่าตัดที่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาทางร่างกายให้แก่คุณผู้ชาย แพทย์บางท่านต่อต้านการผ่าตัดชนิดนี้เสียด้วยซ้ำ ในขณะที่แพทย์บางกลุ่มคิดว่าการผ่าตัดชนิดนี้ก็เปรียบเสมือนการผ่าตัดเสริมหน้าอกในผู้หญิงทั้ง ๆ ที่มีขนาดเต้านมปกติอยู่แล้ว หรือถึงจะเล็กกว่าคนอื่นก็ไม่ได้มีอันตรายแต่อย่างใด

 

พอมีลูกมันก็โตขึ้นเองให้นมลูกได้สบายมาก อ้าว แล้วอย่างนั้นทำไมผู้หญิงที่ไปผ่าเสริมเต้านมถึงเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปเล่า บทความตอนนี้ผมได้ประมวลความคิดให้คุณผู้อ่านเข้าใจว่า การผ่าตัดเพื่อให้องคชาตใหญ่ขึ้นนี่นะมันทำได้จริงหรือเปล่า แล้วมันมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ใครบ้างที่สมควรจะทำผ่าตัดชนิดนี้ ขนาดขององคชาตที่ปกติควรจะเป็นเท่าไร
 
 
ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่าขนาดของเจ้าองคชาตนี่มาตรฐานชายไทยมันเท่าไรกันแน่ ที่แน่ ๆ จากประสบการณ์ของผมที่ทำงานรักษาผ่าตัดโรคทางด้านนี้มาพอสมควร จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าในฝรั่งผิวขาวกับคนดำนี้ ขนาดค่อนข้างจะใหญ่กว่าคนไทยหรือคนเชียเอามาก ๆ เพราะฉะนั้นการกำหนดขนาดมาตรฐานของคนแต่ละเชื้อชาติก็คงต้องแตกต่างกันไปปัญหาที่พบอีกอย่างคือ การรายงานขนาดขององคชาตยังไม่มีวิธีมาตรฐานในการวัด ว่าจะวัดจากโคนให้เหมือนกันได้อย่างไร จะวัดตอนอ่อนตัว หรือแข็งตัวเต็มที่ แล้วแค่ไหนถึงจะเรียกว่าแข็งตัวเต็มที่ ขณะอ่อนตัวเองก็ตามเถอะเวลาอากาศหนาว ๆ สังเกตว่าเจ้าองคชาตของเรามันจะหดสั้นมาก ๆ เลย เห็นมั้ยครับ
 
ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย นี่ขนาดแค่การวัดขนาดเท่านั้นนะครับ?ในฝรั่ง ดร.ลี รายงานไว้ใน Johns Hopkins Medical Journal ปี ค.ศ.1980 ว่าขนาดขององคชาตตอนอ่อนตัวยาวเฉลี่ย 8 ซม. เส้นรอบวงเฉลี่ย 10 ซม. ถ้าจับยืดออกจะยาวเป็น 11 ซม. แต่ถ้าวัดตอนแข็งตัวเต็มที่จะมีความยาวและเส้นรอบวงพอ ๆ กันที่ 12.5 ซม.ในคนไทยเคยมีการศึกษาเหมือนกัน โดยจ้างให้คุณหมอนวดทำการวัดให้ตอนแข็งตัวเต็มที่ปรากฏว่าความยาวเฉลี่ยของชายไทยอยู่ที่ 5.3 นิ้วหรือเท่ากับ 13.25 ซม. เอชักยังไงแล้วสิครับ ทำไมคนไทยยาวกว่าของฝรั่งเล่า เห็นไหมว่ามาตรฐานการวัดยังไม่มี ทำให้วิธีการวัดแตกต่างกัน อีกอย่างคือ อาจจะไม่ได้อบรมพนักงานที่ช่วยวัดก่อนว่าให้ใช้วิธีมาตรฐานอย่างไรขนาดเท่าไรจะถือว่าองคชาตเล็ก
 
อันนี้ยิ่งตอบยากเข้าไปใหญ่ เพราะใครเล่าจะเป็นคนกำหนดมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก แต่ทางการแพทย์ถือว่าถ้าองคชาตยาวเพียงพอที่จะยืนปัสสาวะได้โดยไม่หกรดกางเกง สามารถสอดใส่เข้าช่องคลอดได้ขณะมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้เวลาไปยืนปัสสาวะในส้วมสาธารณะแล้วขนาดพอดูได้ไม่เป็นที่อับอายสายตาชาวบ้าน อย่างนี้ถือว่าขนาดของท่านยาวเพียงพอ ฟังดูแล้วก็ยังกำกวมนะครับสมมุติว่าคุณผู้ชายราวหนึ่งยาว 5 นิ้ว แต่รู้สึกอับอายว่าของตัวเองเล็กไป สั้นไป อย่างนี้ก็ต้องถือว่ามีปัญหาใช่หรือไม่
 
ตำราบางเล่มถือว่าถ้าขณะแข็งตัวเต็มที่องคชาตมีความยาว 4 ซม. ขึ้นไปถือว่าสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติแล้ว ส่วนชายที่สั้นกว่านี้จึงจะถือว่าผิดปกติ ก็อีกนั่นแหละชาวที่ยาว 3 นิ้วครึ่ง แต่ว่าพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เป็นปกติแล้วเราจะถือว่าเป็นภาวะองคชาตสั้นหรือเปล่าเล่ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเกณฑ์ในการวินิจฉัยว่าองคชาตเล็ก หรือสั้นนั้นมันยากจริง ๆ คงจะต้องเอาความรู้สึกของแต่ละคนเป็นหลักใครสมควรที่จะได้รับการผ่าตัดเพิ่มขนาดขององคชาต
 
ในเมื่อมาตรฐานการวินิจฉัยทำได้ยาก แล้วทีนี้ใครจะเป็นคนตัดสินใจว่ารายนี้ควรจะได้รับการผ่าตัดแก้ไข รายนี้ยาวเพียงพอแล้ว โดยทั่วไปกลุ่มคนที่มีองคชาตเล็กผิดปกติมาแต่กำเนิดจะมีขนาดเล็กมาก ๆ (micropenis) เช่น องคชาตเล็กจากการขาดฮอร์โมนเพศชายมาแต่กำเนิด ซึ่งมีโรคต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะพวกที่มีความผิดปกติของโครโมโซม รวมทั้งในกลุ่มที่ไม่ทราบสาเหตุ และในคนไข้ที่ขาดเอ็นไซม์ 5-alpha reductase ที่ใช้ในการเปลี่ยนฮอร์โมนเพศชาย หรือเทสโทสเตอโรน เป็นไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (5-alpha reductase deficiency syndrome) ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะไปกระตุ้นองคชาของเด็กให้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นแบบของผู้ใหญ่ และกระตุ้นให้ต่อมลูกหมากเจริญเติบโต ในเด็กที่ขาดฮอร์โมนชนิดนี้ ก็จะมีองคชาตเล็กมาก ๆ บางรายถูกแจ้งเกิดเป็นเด็กผู้หญิง เพราะคิดว่าองคชาตเป็นคลิตอริส และคิดว่าถุงอัณฑะเป็นแคมนอกของเด็ก
 
นอกจากคนกลุ่มที่องคชาตเล็กแล้ว คนที่มีองคชาตโค้งงอยืดออกไม่ได้ (Peyronie?s disease) และคนที่ได้รับอุบัติเหตุที่องคชาตก็อาจจะเป็นอีกกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากการผ่าตัดชนิดนี้ เพื่อให้กกลับมามีองคชาตที่มีขนาดใกล้
 
Credit: http://www.tlcthai.com/men/sex-tips/1986
29 พ.ย. 55 เวลา 16:50 8,351 1 50
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...