ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า เวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 29 พ.ย. พ.ต.ต.สมพร จรเอียด พนักงานสอบสวน เวรสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม  รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองนครปฐมว่า มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำบนถนนเลียบทางรถไฟฝั่งร้านค้าของเก่าวัดพระงามฯมีผู้บาดเจ็บ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐมไปรับผู้บาดเจ็บ

 

ระหว่างเดินทาง พ.ต.ต.สมพร รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ที่รุดไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บว่า ที่เกิดเหตุมีทรัพย์สินมีค่าหลายรายการของผู้บาดเจ็บตกอยู่ และพบว่าผู้บาดเจ็บมีบาดแผลถูกอาวุธปืน หลังพนักงานสอบสวนฯ รุดไปถึงพบว่า ผู้บาดเจ็บเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 25-30 ปี พยายามปฏิเสธความช่วยเหลือ และพยายามจะขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิกสีเหลืองหมายเลขทะเบียน รลม. 806 กทม.ที่ล้มอยู่หลบหนีอย่างมีพิรุธ เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบอาวุธปืนพกสั้นแบบออโตเมติกขนาด 9 มม.ยี่ห้อนอริงโก้จีนแดง หมายเลขทะเบียน นฐ 3/11910 ซ่อนอยู่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ พร้อมเครื่องกระสุนขนาด 9 มม.ในแมกกาซีน 4 นัด และกระสุนขนาดเดียวกันบรรจุกล้องอีกจำนวน 31 นัด กล้องถ่ายภาพแบบดิจิตัล 1 ตัว  มีดคัตเตอร์ 1 เล่ม อุปกรณ์ชาร์จกล้อง 1 ชุด กุญแจรถเบนซ์แบบรีโมท 1 ชุด และยังพบกระเป๋าถือแบบชายสีดำภายในในกระเป๋าสตางค์แบบชายเก็บอยู่ ภายในมีบัตรเครดิตของธนาคารต่างๆหลายใบ พร้อมบัญชีธนาคาร นาฬิกาข้อมือชาย 1 เรือน โทรศัพท์ไอโฟน 1 เครื่อง กุญแจรถยนต์รถจักรยานยนต์รวม 8 ดอกสตางค์เหรียญ เงินสด 1,500 บาท และบัตรประจำตัวประชาชนของนายไพศาล วิรุณจันทร์ทรา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/4 ม.1 ต.ศีรษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม รวมอยู่ในกระเป๋าสตางค์ที่พบ

 

ขณะพนักงานสอบสวนยังตรวจที่เกิดเหตุอยู่โดยที่ผู้บาดเจ็บเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่ง รพ.ศูนย์นครปฐมแล้วนั้น ก็ได้รับรายงานจากศูนย์วิทยุของ สภ.ฯอีกว่า มีผู้เสียหายคือนายไพศาล วิรุณจันทร์ทรา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/4 ม.1 ต.ศีรษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โทร.เข้ามาแจ้งว่า ถูกคนร้ายชิงทรัพย์กระเป๋าถือหนังแบบชายภายมีกระเป๋าสตางค์และภายในมีทรัพย์สินหลายรายการไปจากหน้าบ้านเลขที่ 74 ถ.ราชวิถี ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม โดยคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 1 คนอายุประมาณ 25-30 ปีขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิกสีเหลืองบุกเข้ามาหยิบเอากระเป๋าทรัพย์สินไปจากในรถยนต์เก๋ง BMW.สีขาวทะเบียนป้ายแดง บ.0404 กทม.ขณะที่ขับมากับภรรยาแล้วจอดอยู่ที่หน้าบ้านเพื่อเอาของเข้าบ้าน โดยคนร้ายได้ขับรถมาจอดแล้วบุกเข้าไปเปิดประตูด้านคนนั่งด้านซ้ายหยิบเอากระเป๋าไป ขณะคนร้ายหยิบกระเป๋าออกไปจากในรถ เจ้าของทรัพย์ได้ตะโกนให้คนร้ายวางทรัพย์ แต่คนร้ายไม่ยอมวางกระเป๋าแถมยังชักอาวุธปืนจากเอวที่คนร้ายพกอยู่ เจ้าทรัพย์จึงหยิบอาวุธปืนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมายิงใส่คนร้ายไป 1 นัดซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่คนร้ายขึ้นคร่อมรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ขับหนีมุ่งหน้าไปทางแยกกั๋งบ๊วยโดยไม่ทราบว่า กระสุนปืนที่ยิงไปนั้นถูกคนร้ายหรือไม่ 

 

หลังรับแจ้งและพบบัตรประชาชนของนายไพศาล อยู่ปะปนกับทรัพย์สินอื่นๆที่พบตกอยู่กับรถของผู้บาดเจ็บ ประกอบกับหลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำชายที่บาดเจ็บทราบชื่อต่อมา คือ นายพหลศักดิ์ แก้วสีเขียว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 ม.5 ต.ศีรษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่ง รพ.ศูนย์นครปฐม พบว่ามีบาดแผลถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่โคนขาขวา กระสุนเจาะเข้าเส้นเลือดใหญ่ฝังใน 1 นัด 

 

สอบถามนายพหลศักดิ์ พยายามบ่ายเบี่ยงให้ยอมให้รายละเอียดว่าถูกใครยิงมา จึงเชื่อว่านายพหลศักดิ์ เป็นคนร้ายที่บุกเข้าไปชิงทรัพย์กระเป๋าถือแบบชายภายในมีกระเป๋าสตางค์และทรัพย์สินของนายไพศาลอยู่ และเมื่อพนักงานสอบสวนให้นายไพศาลกับภรรยาไปดูผู้บาดเจ็บที่ รพ.ก็ยืนยันว่า เป็นคนร้ายที่ชิงทรัพย์ตนเองมาจากในรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่บ้านบ้านพัก เจ้าหน้าที่จึงอายัดตัวแจ้งข้อกล่าวหานายพหลศักดิ์ แก้วสีเขียว ว่า “ชิงราวทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธปืน และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไปฯ มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนเข้าไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควรจำเป็นเร่งด่วนฯ”

 

สำหรับนายไพศาล วิรุณจันทร์ทรา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/4 ม.1 ต.ศีรษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นน้องชายของนายสรวิศ (อบต.เสริม) วิรุณจันทร์ทรา ของสมาชิก อบต.หมู่ที่ 1 ต.ศีรษะทอง อ.นครชัยศรี เป็นเสี่ยเจ้าของโรงหล่อพระพุทธรูป ยงค์เจริญการช่าง และนายไพศาล ยังเป็นนักกีฬายิงปืนสมัครเล่น ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ยิงคนร้ายเป็นปืนพกสั้นแบบออโตเมติกยี่ห้อสมิท แอนด์เวสสัน รุ่นบอดี้การ์ด ขนาด .380 นิ้วลำกล้อง 2 นิ้วของตนเอง