อัยการไม่ฟ้องหมอสุพัฒน์ ฐานกักขังหน่วงเหนี่ยว 2 สามีภรรยา ชี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเสียชีวิต ยื่นฟ้องเพียงข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และรับของโจร
จากกรณีคดี พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อายุรแพทย์ รพ.ตำรวจ และน.ส.วิลสา จันทรบัญชร ภรรยา ผู้ต้องหาคดีความผิดฐานร่วมกันขืนใจผู้อื่นฯ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นฯ ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร และเป็นผู้ต้องสงสัยกรณีการหายตัวไปของนายสามารถ นุ่มจุ้ย และ น.ส.อรษา เกิดทรัพย์ สองสามีภรรยาชาว จ.เพชรบุรี
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ย. นายวรวิทย์ สัมพัฒนวรชัย อัยการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่าสำนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี ได้ยื่นฟ้อง พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ และน.ส.วิลสา ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ต่อศาลจังหวัดเพชรบุรีแล้ว ส่วนข้อหาคดีความผิดฐานร่วมกันขืนใจผู้อื่นฯ และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นฯ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเช่นเดียวกับความเห็นของพนักงานสอบสวน
นายวรวิทย์กล่าวว่า สาเหตุที่สั่งไม่ฟ้อง 2 ข้อหาดังกล่าวเนื่องจาก ข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขังฯ เป็นประเด็นความผิดต่อส่วนตัวกฎหมายระบุว่าผู้เสียหาย (นายสามารถ และน.ส.อรษา) ต้องมาดำเนินการร้องทุกข์เอง ถ้าร้องทุกข์ไม่ได้ต้องให้บุพการีหรือผู้สืบสันดานมาร้องทุกข์ แต่ทั้งนี้ต้องเป็นกรณีที่ผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถจัดการได้ หรือเสียชีวิตแล้วเท่านั้น แต่ในส่วนของนายสามารถ และน.ส.อรษา เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีการพบศพ และไม่ผู้เห็นเหตุการณ์ยืนยันชัดจนว่าทั้งสองคนเสียชีวิต นายสามารถ และน.ส.อรษา จึงเป็นเพียงผู้สูญหาย การที่บิดาของนายสามารถ มาร้องทุกข์กล่าวหาจึงไม่เข้าข้อกฎหมายที่บุพการี จะมาร้องทุกข์แทนได้ จึงไม่สามารถยื่นฟ้องได้
ทั้งนี้หากต่อไปมีการค้นพบศพ และมีการยืนยันได้ว่าเป็นผู้เสียหายจริง ก็สามารถมาร้องทุกข์กล่าวหาอีกครั้งหนึ่งได้ ส่วนข้อหาร่วมกันขืนใจผู้อื่นฯ พิจารณาแล้วพบว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ จึงไม่สามารถทำการฟ้อง พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ และ น.ส.วิลสาได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้กระบวนการพิจารณาทั้งหมดขึ้นอยู่กับศาล ในชั้นของอัยการได้ดำเนินการไปทั้งหมดแล้ว หากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการยื่นสำนวนฟ้องข้อหาอื่นๆมาอีก สำนักงานอัยการก็จะดำเนินการเป็นเรื่องๆไป ยืนยันว่าอัยการได้พิจารณาสำนวนอย่างรอบคอบตรงไปตรงมา และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ที่มา : sanook