สนุก : Buffalo Girls เป็นตัวอย่างหนังสารคดีของผู้กำกับอเมริกัน ท็อด เคลล์สตีน พาเราไปรู้จักเส้นทางการต่อสู้บนสังเวียนของเด็กหญิง 8 ขวบสองคน นั่นก็คือ น้องแสตมป์ ส.คนเหล็ก และน้องเพชร ส.ชนะชัย เด็กหญิงสองคนที่เสี่ยงเจ็บตัวเพื่อหาเงินช่วยครอบครัวครับ ผมบังเอิญไปเจอตัวอย่างหนังเรื่องนี้เข้าระหว่างค้นข้อมูลหนังเรื่องอื่นอยู่ และพอหลังจากดูตัวอย่างหนังจบก็พบว่าน่าสนใจควรแก่การนำมาเล่าต่อ
เคลล์สตีนเล่าให้คลิประหว่าง นำหนังไปฉายในเทศกาลซันแดนซ์เมื่อต้นปีว่า เขาค้นพบเรื่องราวของน้องแสตมป์ระหว่างมาทำหนังสารคดีเกี่ยวกับคุกในเมือง ไทย เขาไปเที่ยวงานวัดแล้วเจอกันแข่งขันชกมวยไทยที่น้องแสตมป์ขึ้นชกอยู่ เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ก็เลยไปถามน้องแสตมป์ว่าทำไมถึงมาชกมวย แล้วน้องก็มองเขาเหมือนเป็นคนโง่ และบอกว่า "ก็เพื่อเงินน่ะสิ" แล้วเขาก็พบว่ามันน่าทึ่ง จึงหันมาทำสารคดีเรื่องราวของเด็กคนนี้แทนครับ พยายามตามหาน้องอยู่หลายเดือนจนพบ และก็ติดตามถ่ายทำเป็นสารคดีออกมาครับ ซึ่งเคลล์สตีนบอกว่าสิ่งที่ทำให้เขาเลือกน้องแสตมป์โดยเฉพาะก็เพราะน้องน่ารักมาก แต่กลับดุดันเวลาอยู่บนสังเวียน
และเพื่อให้หนังสารคดีเรื่องนี้น่าสนใจมากขึ้น เคลล์สตีนจึงถ่ายทำเรื่องราวของน้องเพชร ซึ่งเป็นคู่ชกชิงแชมป์ของน้องแสตมป์ไปด้วยพร้อมๆ กัน แล้วเขาพบว่าเขาเอ็นดูเด็กทั้งคู่เท่าๆกัน ไม่อยากให้ใครต้องแพ้เลย และเวลาตัดต่อก็พยายามอย่างที่สุดที่จะไม่เลือกข้างครับ
อีกสัมภาษณ์ที่เคลล์สตีนให้แก่เว็บไซต์ข่าวคนไทยในอเมริกา siamtownus.com ให้ข้อมูลและแง่มุมของหนังมากขึ้นครับ เคลล์สตีนเล่าว่าหนังไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อจะบอกว่าเป็นการทารุณกรรมเด็ก "ถ้า จะถามว่าหนังสารคดีเรื่องนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทารุณกรรมเด็กหรือไม่นั้น ตอบว่าไม่ใช่เลยโดยสิ้นเชิง หนังเรื่องนี้เป็นการบอกเล่าว่า เด็กไทยสองคนนี้ต้องทำงานหนักขนาดไหนในการช่วยเหลือครอบครัว เพื่อการศึกษาที่ดีขึ้น เพื่อช่วยดูแลน้องๆ หรือพ่อแม่ปู่ย่าตายาย นั่นคือเนื้อหาของหนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการตั้งใจ ทุ่มเท ทำงานหนัก การมีวินัย เพื่อศักดิ์ศรีของครอบครัว ไม่ใช่เรื่องของการทารุณกรรมเด็กแม้แต่น้อย"
แต่เคลล์สตีนก็ยอมรับว่าในทีแรก การที่เขาเป็นคนโลกตะวันตก และไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน การเห็นเด็กชกมวยโดยไม่ใส่เครื่องป้องกันทำให้เขารู้สึกว่าเป็นการทารุณ แต่เมื่อได้คุยกับน้องแสตมป์ ความคิดก็เปลี่ยนไป "น้องแสตมป์บอกว่า เธอแฮปปี้ที่ได้ขึ้นชก เพราะอยากจะหาเงินไปช่วยพ่อแม่สร้างบ้าน ผมคิดว่า พระเจ้าช่วย! ทำไมเด็กตัวแค่นี้ถึงมีความคิดแบบนี้ นั่นทำให้ผมตั้งคำถามตัวเองถึงสิ่งที่ได้เห็น"
และเคลล์สตีนเชื่อว่าหนังของเขาก็ทำให้โลกตะวันตกมองเรื่องราวนี้อย่างเข้าใจด้วย "ใน ความเห็นของผมนะ ถ้าใครออกมาบอกว่าประเทศไทยต้องห้ามไม่ให้มีการชกมวยเด็กอีก ผมก็อยากจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ธุระของเราที่จะบอกคนไทยว่าควรทำอย่างไรกับ กีฬาประจำชาติของเขา กับวิถีชีวิตของเขา มวยไทยเป็นกีฬาไทย สร้างสรรค์ขึ้นมาโดยคนไทย เป็นกีฬารุนแรงก็จริง แต่ก็เกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีของเขา ไม่ใช่กงการของเราที่จะไปบอกว่ามันผิดหรือถูก"
ตัวอย่างหนังให้ภาพที่เหลือเชื่อของเด็กสองคนที่อายุแค่ 8 ขวบ แต่ต้องฝึกฝนร่างกายอย่างหนัก เจอหมัดและเตะหนักๆ บนสังเวียน มันอดทำให้ผมสะเทือนใจไม่ได้ที่เห็นเด็กวัยแค่นี้ต้องเหนื่อยและทนเจ็บขนาด นั้น แต่ขณะเดียวกันก็ทึ่งกับความเข้มแข็งของเด็กสองคนนี้ที่ยังคงยิ้มได้ในยาม ปกติ และความกตัญญูของเด็กสองคนนี้ที่ทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว และเช่นเดียวกับที่เคลล์สตีนบอกว่ามันไม่ใช่กงการของคนตะวันตกที่จะมาตัดสิน เรื่องราวนี้ ผมคิดว่าผมเองก็ไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินครอบครัวของน้องทั้งสองเช่นกัน