หนูแหวน หรือ แหวนแหวน ปวริศา เพ็ญชาติ

ไฮโซสาวทายาทมหาเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์ เคยดังสุดขีดในปีที่เธอออกเรียลลิตี้ “เจาะใจ” กับการเลี้ยงสุนัขพิการ หลังจากวันนั้นสาวขนตาปลอมตั้งชันสุดมั่นใจคนนี้ โดดเด่นไม่น้อยในแวดวงบันเทิง ทั้งงานพิธีกร และงานอีเว้นต์วิ่งชนชนิดที่เรียกว่าดาราแถวหน้ายังอาย แต่แล้วระยะหลังมานี้เธอหายหน้าหายตาไปทำธุรกิจเอเจนซี่ นำเข้าศิลปินเกาหลีอย่าง “เรน” (ที่เธอเคยรับตำแหน่งเรน แบรนด์แอมบาสเดอร์ มาแล้ว) เด่นที่สุดตอนนี้เห็นจะหนีไม่พ้น “ทัวร์ศัลยกรรม” ที่เนรมิตสาวไทยให้เป็นซองเฮเคียว หรือลีดาเฮได้ไม่ยากเสียแล้ว
       
       M-Lite ได้นัดหมายกับหนูแหวนเจ้าของ “ทัวร์ศัลยกรรม” ผู้อาสานำใบหน้าของหนุ่ม-สาว ชาวไทย ที่หมายปองอยากจะมีใบหน้าละม้ายคล้ายกับดาราเกาหลีที่เราดูผ่านซีรีย์

       16.00 น. เราเดินทางถึงอาคารชำนาญ เพ็ญชาติ (ชื่อปู่ของหนูแหวน) ชั้น 30 ที่ทำงานของไฮโซสาว ลูกคนเดียว ที่ถูกดีไซน์ไว้เป็นโต๊ะทำงานที่มีรูปภาพพ่อแม่ (ร.อ.เศรณี-ปัญญ์ชลี เพ็ญชาติ) และเจ้าตัววางอยู่บนโต๊ะ ชั้นเดียวกันแต่อีกด้านของมุมตึกนั้นผู้เป็นพ่อของหนูแหวนก็ทำงานอยู่อีกด้านหนึ่ง

       ใบหน้าที่ดูเรียวขึ้น จมูกที่ดูได้รูป ขนตาที่เคยใส่หนาเตอะหายไป เจ้าตัวบอกว่าขี้เกียจติดเสียแล้ว ต้องยอมรับว่าใบหน้าที่ดูเข้ารูป สวยขึ้นของเจ้าของทัวร์ศัลยกรรม เสริมความมั่นใจในตัวลูกค้าได้ไม่น้อยทีเดียวสำหรับสาวไทยหัวใจเกาหลีคนนี้
       
       ศัลยกรรม..ธุรกิจวัดใจพ่อ
       
       ก้าวเข้ามาทำธุรกิจศัลยกรรม ทั้งที่พ่อและแม่ตระกูลเพ็ญชาติ เนรมิตมรดกกองโตไว้ให้ แต่หนูแหวนเล่าว่า การเป็นลูกคนเดียวของครอบครัวนี้ ก็โดนเลี้ยงอย่างชายเช่นกัน เพราะผู้เป็นพ่อเคยลั่นวาจาไปแล้วว่า จะไม่ให้มรดกจนกว่าจะมั่นใจว่าลูกสาวคนนี้ทำธุรกิจของตนเองรอด

       "แหวนไม่ได้เกิดมานั่งกินมรดกเลยค่ะ คุณพ่อท่านปรามาสไว้แล้วว่าตระกูลฉันไม่ควรมาล่มจมเพราะเธอ.. ค่าเช่าตึกยังต้องเช่าคุณพ่อเลย(ยิ้ม) ท่านรอเห็นเราเติบโต เราก็เลยขอทำธุรกิจที่เราชอบ” สาว เศรษณฐศาสตร์ จุฬาฯ (และกำลังจะจบปริญญาโทจากรั้วเดิม) ตอบทีมงาน M-Lite อย่างชัดถ้อยชัดคำ

       “แหวนเป็นซีอีโอของบริษัททัวร์ศัลยกรรม จะมีสาขาที่ไทยแล้วก็ที่เกาหลี ไม่มีใครกล้าบ้าบิ่นมาเปิดธุรกิจ นี้กับแหวน เรารายแรก บลูโอเชี่ยนไม่มีคู่แข่งเลย ในอนาคตจะขยายไปจีน แต่ก็ต้องดูวี่แววก่อน แรกเริ่มรู้จักคุณคัง ซึ่งเป็นคนที่ทำเรนคัมมิ่งทัวร์ตอนปี 2006 สนิทกันก็เลยคุยเรื่องเอเจนซี่ พอดีเพื่อนมาปรึกษาเรื่องศัลยกรรมที่เกาหลีเลยลองถามคุณคัง แล้วคนสนใจเยอะ มีแต่คนให้เราพาไป เลยลองทำเป็นธุรกิจดู แหวนไปเกาหลีประมาณเดือนละครั้งค่ะ ก็ไม่ได้ดูแค่เรื่องทัวร์ศัลยกรรมอย่างเดียว มีเรื่องของเอเจนซี่ด้วยตอนนี้ธุรกิจดีมากค่ะ”
       
       ทัวร์หนูแหวน แสนสี่
       
       ค่าใช้จ่ายในการทำทัวร์ศัลยกรรมของหนูแหวน ขั้นต่ำเจ้าตัวเผยว่าอยู่ที่ 140,000 บาท ยอมรับคนไทยสนใจศัลยกรรมแนวโน้มสูงขึ้นจนต้องหาพนักงานเพิ่ม

       “เดือนนี้ประมาณ 30 กว่ารายแล้วค่ะ ช่วงปิดเทอมก็มีพ่อแม่มาพาลูกไป เราต้องรับพนักงานเพิ่ม ถ้าเป็นเด็กต้องมีเซ็นใบยินยอมค่ะ ไม่ต่ำกว่า 18 ส่วนค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้น้อยค่ะ ต้องมีอย่างน้อย140,000 ที่เฉลี่ยมาแล้ว แต่ถ้า แก้จมูก แก้ตา ก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าการแก้ไขมันจะยุ่งยากกว่า ถ้าเป็นมนุษย์เงิน เดือน แล้วเดินมาขอไปศัลยกรรม แล้วมาบอกว่าเก็บตังค์มาหลายปี เนี่ยเราจะบอกเขาว่าไม่ต้องไปเลยค่ะ เก็บตังไว้ลงทุนดีกว่าเรื่องอื่นดีกว่า ศัลยกรรมความงาม มันเหมือนสินค้าแบรนด์เนม จำเป็นมั้ยก็ไม่ได้จำเป็นนะ ใช้กระเป๋าธรรมดาก็ได้”

       “ความปลอดภัยเนี่ยเกาหลีตรวจเยอะ เพราะกฎหมายเขาแรงมาก ต่อให้มีประวัติการแพทย์จากเมืองไทย เขาก็จะตรวจเองตามมาตรฐานของเขา เพราะถ้าเกิดอะไรกับคนไข้หมอต้องเข้าคุกและต้องโดนยึดใบวิชาชีพ”
       
       “กุ๊บกิ๊บ” พรีเซ็นเตอร์ศัลยกรรม (โดยบังเอิญ)
       
       ศัลยกรรมของหนูแหวนโด่งดังเปรี้ยงปร้าง และเป็นที่รู้จักมากขึ้น จากกระแสข่าวรุกหนักของนักข่าวสายบันเทิงกับข่าวการทำศัลยกรรมหน้าของ “กุ๊บกิ๊บ” ประเด็นหลักข่าวที่สำคัญคือการไปทำหน้าครั้งนี้ ใช้เงิน “มาริโอ้ เมาเร่อ” หวานใจเธอหรือไม่ แต่กลับมีชื่อของหนูแหวนปรากฏขึ้นเมื่อเธอยอมรับว่าเคยไปทำสวยกับทัวร์หนูแหวน... “จริงๆ เราเก็บเงียบมาตลอด แต่มันเหมือนเป็นปากต่อปากมากกว่า ตั้งแต่รอบที่กุ๊บกิ๊บไปทำแล้วออกมาพูดกับสื่อ ตั้งแต่นั้นก็เอามาเพียบเลย ยังพูดกันอยู่ว่ากุ๊บกิ๊บนี่ตัวนำลาภเลย ยิ่งพอเทปรายการราตรีสโมสรออกไปยอดทะลักเลย"
       
       พอเอ่ยถามถึงดาราในเมืองไทย นิยมมากน้อยแค่ไหน เจ้าตัว แนะให้สังเกตใบหน้าเอาเอง…“ พูดไม่ได้ค่ะ ลองดูหน้าเอาเองว่าใครหน้าเปลี่ยนไป..(ยิ้ม) ข้อมูลนี้เราเองต้องปิดสุดขีดให้ลูกค้า เพราะเราต้องรู้สึกว่าเขามาทำกับเรา เชื่อใจเรา ถ้าราเอาข้อมูลเขาไปเปิดเผยมันก็ไม่ดี เรื่องศัลยกรรมมันต้องเชื่อใจกันน่ะ เรื่องหน้ามันเซ้นซิทีฟ อย่างกุ๊บกิ๊บถือว่าเขาพูดเอง เป็นตัวพีอาร์เลย..(ยิ้ม)”
       
       หมอแดนกิมจิเทคนิคแพรวพราว
       
       เจ้าตัวเล่าว่าศิลปินเกาหลีศัลยกรรมจนเป็นเรื่องธรรมดา แต่หาใช่ว่าหมอที่เกาหลีเก่งกาจกว่าหมอไทย แต่ยอมรับเทคนิคของหมอแดนโสมลูกเล่นมากกว่าในการผ่าตัด เนื่องจากได้ทุนศึกษาเรื่องศัลยกรรมอย่างจริงจัง…"ส่วนใหญ่คนที่ทำจะมีความอยากได้ของเขามาแล้วว่า เขาอยากทำอะไรบ้าง ให้คำแนะนำไปคร่าวๆ ก็สุดท้ายแล้วก็อยู่ที่วิจารณญาณของคุณหมอ ซึ่งเราถ่านทำโปรไฟล์เสร็จปุ๊บเราจะต้องส่งไปที่ทางเกาหลี หมอจะดูโครงหน้า จะถามเลยว่าคนนี้เนี่ยเป็นดาราหรือเปล่า หรือเป็นอะไร บางคนเป็นแม่บ้านอยากศัลยกรรมหมอจะถามเลยจะทำทำไม เขาไม่ได้สนับสนุนทุกเคส หมอเขามองว่าสาวไทยสวยอยู่แล้ว”

       “คนที่นั่นเขาทำเยอะมาก เหมือนการดัดฟันนะค่ะ ผู้หญิงผู้ชายทำหมด เขาไม่แคร์ ในแวดวงบ้านเขาเลยยอมรับ มีเงินหมุนไปวิจัย ปีหนึ่งเยอะมากในเรื่องของตาหูคอจมูก แต่ว่าต่ำกว่าคอลงมาเขายอมให้หมอที่เมืองไทยนะ” เจ้าของบิวตี้ทัวร์สรุปความก้าวหน้าของวิวัฒนาการทางการแพทย์ด้านการศัลยกรรมของเกาหลีและไทย
       
       ดูแลหลังการ (ขาย)สวย
       
       “หนึ่งเดือนหลังทำก็มีดูแลตลอดนะ นัดเข้ามาเช็คอัพ ทุก 3 เดือนจะมีหมอมาดูเองที่เมืองไทย แล้วก็มีโรงพยาบาลที่เมืองไทยดูแลให้ด้วย ดูแลให้ ตัดไหมให้ แล้วก็รายงานกับหมอทางเกาหลี เราเองไม่ได้ทิ้งคนไข้หลังจากทำ เราจะมีหมอดูแลตลอด” หนูแหวนเผยหลังขั้นตอนการศัลยกรรมกลับจากเกาหลียังมีหมอที่เมืองไทยรับช่วงต่อตลอด

       “พอทำมาแล้วส่วนใหญ่ที่มาทำหน้าตาดาราเกาหลี ชั้นเล็กๆ หรือจมูกโด่ง มันก็คือยี่ห้อแล้ว โครงหน้าเนี่ยมันควรจะเป็นอะไรแค่ไหน ไม่ใช่ว่าหน้าคุณได้แค่นี้ คุณจะอยากเป็นอั้มหรือซองเฮเคียวทำได้มั้ย ป้าบางคน 50 แล้วจะเอาหน้าแบบเด็กๆ มันก็เยอะไป แล้ว 6 เดือนแรก จะแก้ไขอะไรบอกเราได้เลยจะได้แก้ไขง่ายค่ะ”
       
       ไม่เห็นต้องอาย
       
       ดารา ศิลปิน หลายคนโดยเฉพาะเมืองไทย ปกปิดและไม่ค่อยยอมรับในการศัลยกรรมความงาม แต่สำหรับแหวนแล้ว เจ้าตัวบอกถือเป็นเรื่องธรรมดา แถมบอกกับเราด้วยว่า อีก 1 ปีข้างหน้าเธอจะเสริมจมูกเพิ่มให้รูปทรงเดียวกับซองเฮเคียว ดาราสาวเกาหลีทีเดียว…“แหวนทำจมูก และจะเอาโด่งกว่านี้อีก รอบล่าสุดที่ไปทำมาไปแงะออกแล้วหมอใส่กลอเท็กซ์ให้นิดหนึ่งแต่เรากระแดะอยากให้ปลายมันเชิด เพราะมันหักๆ เหมือนแม่มด เขาให้เรารออีกปี เดี๋ยวจะให้ออกมาแบบซองเฮเคียวเลย (หัวเราะ) ส่วนที่ตาเพิ่งไปเย็บเจาะรูให้เท่ากัน เพราะแหวนเป็นคนเปลือกตาไม่เท่ากัน มีคนมาเม้าท์ว่าเราเหลากราม จริงๆยังไม่ได้ทำนะ เพราะถ้าทำมาจริงหน้าไม่บานขนาดนี้ จริงๆอยากเหลากรามมาก แต่แม่ยังบอกใจเย็นๆ ค่อยเป็นค่อยไป (หัวเราะ)"

       "เรื่องศัลยกรรมแหวนเฉยๆ คือจะบอกว่าถ้าไม่ได้ศัลยกรรมจริงก็ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ เพราะว่าหน้าตาเปลี่ยนคนดูก็รู้ มันไม่ใช่เรื่องน่าอายนะ แต่ไม่อยากพูดเพราะมันเหมือนพาดพิง ไปทำมาแล้วก็บอกว่าไปถอนฟันมาแล้วหน้ายุบ คนดูโทรทัศน์สมัยนี้ เขามีวิจารณญาณว่าใครทำ ใครไม่ทำ อย่างแหวนไม่ต้องมารักษาภาพนางเอกอยู่แล้ว”
       
       ฝันธุรกิจดี-มีลูก
       
       เจ้าของทัวร์ศัลยกรรมบอกกับเราว่า แท้จริงแล้วชีวิตแต่งงานไม่ใช่เรื่องสาระเท่าใดนัก แต่สิ่งสำคัญในชีวิตที่ต้องมีให้ได้คือ “ลูก”…“พ่อแม่อยากมีเขาก็มีเราคนเดียว อยากมีหลานเยอะๆ แหวนก็อยากมีลูก แต่ด้วยความที่เราอยู่กับคนยาก โลกส่วนตัวสูง ไม่เคยแชร์ห้องกับใคร นึกภาพวันหนึ่งมีสามีอยู่ข้างๆตัวก็ทำงานเหนื่อยๆก็มาเจอทั้งวันอยู่ตลอดเวลา อยู่ไกลๆกันก็ดีค่ะ เป็นแบบห่างๆก็ได้ค่ะ แหวนชอบผู้ชายตัวใหญ่ๆ หน้าไม่เป็นไร หน้าเอาไปโมได้ ดูความสูงก่อน เอาเป็นว่าไม่ใช่คนไทยแล้วกัน..(ยิ้ม) ” เจ้าตัวกล่าวถึงว่าทีสามีในอนาคต โดยยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าหน้าตาสามารถศัลยกรรมใหม่ได้ ขอรูปร่างสูงใหญ่ไว้ก่อนเป็นดี...
       
       หนูแหวนทิ้งท้ายสั้นๆถึงวงการบันเทิงที่ทำให้หลายคนรู้จักเธอว่า มีค่ายละครติดต่อมามากพอสมควร แต่เธอขอทำธุรกิจในส่วนที่เธอรัก ทั้งเอเจนซี่ศิลปิน ทัวร์ศัลยกรรม และอีกสองอย่างในอนาคตอย่างแบรนด์เครื่องสำอาง และเสื้อผ้าเกาหลีเสียก่อน สวย (ขึ้น) รวย เฮง คงต้องยกตำแหน่งนี้ให้เธอไปเสียแล้ว...

 

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์