การแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 7 “ฟีฟ่า ฟุตซอล เวิลด์คัพ ไทยแลนด์ 2012” เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่สนามอินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก คู่ชิงชนะเลิศ บราซิล แชมป์เก่า และแชมป์โลก 4 สมัย พบสเปน อันดับ 1 ของโลก แชมป์โลก 2 สมัย โดยมีเซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) สำหรับสนามผู้เล่น 5 คนแรกบราซิล ประกอบด้วย ติอาโก ผู้รักษาประตู, กาเบรียล, ซีมี่, เฟอร์นันดินโญ่, เนโต้ ส่วนผู้เล่นสเปนประกอบด้วย ฮวนโฮ ผู้รักษาประตู, อัลคาร์โด้, เฟอร์นานเดา, กิเก้ กัปตันทีม, อเลเมา
ช่วงครึ่งแรกสกอร์ยังคงเดิม 0-0 ล่วงครึ่งหลังบราซิลเปลี่ยนฟัลเกา ซูเปอร์สตาร์ประจำทีมลงมาทำเกม ทำให้รูปเกมของบราซิลดูเหนือกว่าสเปนทันที และมาได้ประตูออกนำ 1-0 ในนาที 24 จากลูกเตะมุม เฟอร์นันดินโญ่เขี่ยบอลกลับหลังมาให้เนโต้วิ่งเข้ามาสวนด้วยซ้าย บอลพุ่งเสียบมุมเข้าประตู จากนั้นสเปนโหมบุกหนัก และมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 ในนาที 30 จากลูกฟรีคิกระยะ 10 เมตร กิเก้เขี่ยบอลให้มิเกลินวิ่งเข้ามาซัดเต็มข้อ บอลติดเซฟติอาโก้ มาเข้าทางตอร์ราส กระโดดวอลเลย์ด้วยซ้ายลอดตัวนายด่านบราซิลเข้าไปตุงตาข่าย
ถัดมานาทีเดียวสเปนพลิกขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะเตะมุมไหลมาให้อัลคาร์โด้ วิ่งเข้าซัดด้วยซ้ายเข้าเสาแรกอย่างสวยงาม บราซิลหันมาเล่นเพาเวอร์เพลย์ ซีมี่จ่ายบอลมาให้ฟัลเกาแตะหนึ่งจังหวะ ก่อนซัดไกลระยะ 10 เมตรด้วยซ้าย บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม เป็นประตูให้บราซิลตีเสมอสเปน 2-2 ในนาที 36 ครบ 40 นาทีเสมอ 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 10 นาที ทั้งสองทีมผลัดกันรุกรับอย่างสนุก จนก่อนหมดเวลา 19 วินาที เนโต้ใช้ความสามารถเฉพาะตัวงัดบอลหลบเฟอร์นันเดาเข้าไปยิงผ่านมือนายทวารสเปน ให้บราซิลเฉือนชนะสเปนสุดมัน 3-2 คว้าแชมป์โลกไปครองเป็นสมัยที่ 5
ส่วนคู่ชิงอันดับ 3 ระหว่างอิตาลี อันดับ 3 ของโลก ชนะโคลัมเบีย อันดับ 12 ของโลก 3-0 การยิงของเซอร์จิโอ โรมาโน่ นาที 28 และโรดอลโฟ ฟอร์ติโน่ นาที 33 และนาทีสุดท้าย คว้าอันดับ 3 ไปครอง