คำว่า พญามุสิก หรือเจ้าแห่งหนู นั้นเป็นปรากฏการณ์ของหนู? กลุ่ม หนึ่งกระทำการพิสดารเหลือเชื่อ โดยเอาหางมามัดผูกติดกันเป็นกระจุก ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในโลกหลาครั้งแล้วครับ และก็ยังเป็นปริศนาลึกลับที่ยังไม่มีใครแก้ไขไม่ออกจนถึงบัดนี้
หลักฐานเท่าที่เคยพบเจอพญามุสิกที่เคยบันทึกมีดังนี้ครับ
ในวันที่ 13 กรกฎาคม 1748 นาย โจฮันน์ ไฮน์ริช เจเกอร์ เจ้าของโรงโม่แป้งแห่งเมืองกรอสส์ บัลล์ไฮเซอร์ ประเทศฮอล์แลนด์ ได้พบพวงหนูเป็นๆ ที่มีหางติดกันร่วงหล่นลงมาจากระหว่างหินใหญ่สองก้อนในไร่ แล้วซุกซ่อนตัวหลังเกวียน เขานับดูพบว่ามีหนูถึงเก้าตัวรวมเป็นกระจุกจึงได้ทำการเขียนภาพแกะสลักรูป ของมันไว้
อีกรายหนึ่งเกิดขึ้นในฤดูหนาวของปี ค.ศ.1963 ที่ ฮอลแลนด์อีกเช่นกัน โดยชาวไร่ดัทช์ในหมู่บ้านรุกเฟน เมืองนอร์ธบราบันท์ได้ยินเสียงหนูร้องจิ๊ดๆ กังดังระเบิดผิดปกติจากหลังกองถั่วในโรงยุ้ง เขาจึงไปสำรวจหาสาเหตุแล้วก็พบหนูเป็นๆ กลุ่มหนึ่ง นับได้เจ็ดตัว เป็นหนูดำโตเต็มที่แล้ว เป็นตัวผู้สองตัว ตัวเมียห้าตัว อายุรุ่นคราวเดียวทั้งสิ้น เขาจึงสังหารพวกมันทั้งกระจุกและเอาไปให้แพทย์ไปทำการเอ็กซ์เรย์ภาพที่ปรากฏ ก็คือกระดูกท่องหางของมันอย่างหนาแน่น กระดูกบางชิ้นมีรอยหัก แสดงว่าไอ้หนูพวกนี้มีหางติดกันมานานแล้ว และพยายามดึงตัวให้ออกพันธนาการแต่ไม่สำเร็จ
สำหรับรายละเอียดของนักวิชาการของกรณีพญามุสิกนี้อยู่ในหนังสือเรื่อง มุสิก( Rats) เขียนโดยมาร์ตินฮาร์ท ตีพิมพ์ใน ค.ศ. 1982 ณ กรุงลอนดอน เขาบันทึกไว้ว่า
ปรากฏการณ์พญามุสิกนี้ ในช่วง ค.ศ. 1562 ถึง 1963 ได้เกิดขึ้น 57 ครั้ง ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเยอรมัน ซึ่งทุกรายเป็นหนูสีดำ จำนวนหนูในแต่ละกระจุกนั้นมีระหว่าง 5 ถึง 12 ตัว และเป็นหนูวัยเดียวกัน อายุยังไม่โตเต็มที่ มักพบที่ที่มีรูเพดาน ฝาบ้าน ในครัว ในยุ้ง พร้อมกับเสียงร้องจี๊ดจ๊าดกันระงมในรังที่อยู่อาศัยของมัน
ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นจนบัดนี้ไม่มีคำตอบแต่อย่าง ใด