วันนี้ ( 17 พ.ย. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า หญิงชาวรัฐมิสซูรี แจ้งตำรวจจับบุตรชายของตนเอง ซึ่งมีอาการทางประสาท และหยุดรับประทานยามาแล้วระยะหนึ่ง หลังพบว่า บุตรชายของเธอจัดซื้ออาวุธปืนจำนวนมาก เพื่อเตรียมวางแผนสังหารหมู่ในโรงภาพยนตร์ ขณะฉายภาพยนตร์เรื่อง “ทไวไลท์ 4 เบรคกิ้ง ดอว์น ภาค 2”
เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองโบลิวาร์ รัฐมิสซูรี พบนายเบล็ค แลมเมอร์ส วัย 20 ปี ภายในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่ง เมื่อวันพฤหัสบดี หลังได้รับแจ้งจากมารดา ซึ่งแสดงความกังวลอย่างมาก เมื่อพบว่าบุตรชายได้ซื้ออาวุธปืนที่มีลักษณะคล้ายกับที่นายเจมส์ โฮล์มส ใช้ก่อเหตุสังหารหมู่ภายในโรงภาพยนตร์ที่รัฐโคโลราโด ระหว่างการฉายภาพยนตร์เรื่อง “แบทแมน” ตอนล่าสุด เมื่อช่วงปลายเดือนก.ค.
แลมเมอร์สไม่มีอาการขัดขืนแต่อย่างใด เมื่อเจ้าหน้าที่ขอเชิญตัวเขาไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจ เริ่มแรกเด็กหนุ่มยืนกรานว่า เขาซื้ออาวุธปืนทั้งหมดมา เพื่อเตรียมใช้ในการล่าสัตว์ ทว่าเมื่อถูกเจ้าหน้าที่ซักถามกดดันมากขึ้น แลมเมอร์สก็ยอมสารภาพว่า เขามีความคิดที่จะก่ออาชญากรรม หลังทราบข่าวการจับกุมโฮล์มส เนื่องจากรู้สึกว่าเขาและโฮล์มสมีความคล้ายคลึงกันมากในด้านบุคลิกภาพที่เข้ากับผู้อื่นยาก และชอบปลีกตัวออกจากสังคม ส่วนอาวุธปืนที่หาซื้อมาทั้งหมดก็เพื่อเตรียมก่อเหตุกราดยิงผู้ที่มาชมภาพยนตร์เรื่อง ทไวไลท์ ตอนล่าสุด ที่โรงภาพยนตร์ประจำเมือง ในรอบคืนวันเสาร์ที่ 17 พ.ย.
เด็กหนุ่มเปิดเผยต่อว่า นอกจากอาวุธปืนแล้ว เขายังซื้อกระสุนปืนมาด้วยอีก 400 นัด โดยหากกระสุนปืนเหลือจากการสังหารคนในโรงภาพยนตร์ เขา “ตั้งใจ” จะเดินไปยังห้างสรรพสินค้าวอลล์มาร์ท ที่อยู่ใกล้เคียง แล้วกราดยิงผู้ที่อยู่ภายในไปเรื่อยๆ จนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาจับกุมตัวเขา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหา 3 กระทงต่อแลมเมอร์ส แบ่งเป็น พยายามก่อการร้าย 1 กระทง พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 1 กระทง และพยายามก่ออาชญากรรมโดยใช้อาวุธหนักอีก 1 กระทง
ก่อนหน้านี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว แลมเมอร์สเคยถูกจับกุมในข้อหาใช้มีดสังหารพนักงานของวอลล์มาร์ทคนหนึ่ง และวิ่งไล่สังหารพนักงานอีกคนรอบห้างสรรพสินค้า จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาถึงและจับกุมตัวเขาเอาไว้.