วันนี้ ( 17 พ.ย. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากฉนวนกาซา ดินแดนปาเลสไตน์ว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเหนือน่านฟ้าบริเวณฉนวนกาซาเมื่อวันศุกร์ คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์อีก 6 ศพ ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ที่เริ่มขึ้นเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 30 ศพ และบาดเจ็บอีกกว่า 280 ราย ขณะที่อิสราเอลประกาศพร้อมเปิดฉากสู้รบภาคพื้นดินต่อกลุ่มฮามาส
นายมูฟิด อัล-มูคฮาลาลาติ รมว.กระทรวงสาธารณสุขของกลุ่มฮามาส แถลงเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากชาติอาหรับ เนื่องจากปาเลสไตน์กำลังขาดแคลนยารักษาโรค และอุปกรณ์ทางการแพทย์จำนวนมาก พร้อมกับขอบคุณทางการอียิปต์ ในฐานะเป็นชาติแรกที่มอบความช่วยเหลือด้านยารักษาโรคให้ หลังการเดินทางเยือนฉนวนกาซาเป็นระยะเวลาสั้นๆ ของนายกรัฐมนตรีฮิชาม กานดิล แห่งอียิปต์
ขณะที่สถานการณ์บริเวณฉนวนกาซายังเต็มไปด้วยความตึงเครียด โดยมีเสียงการปล่อยจรวด และเสียงระเบิดดังขึ้นทั่วเมืองอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน สร้างความเสียหายให้แก่อาคารบ้านเรือน รวมถึงอาคารที่ทำการรัฐบาลของกลุ่มฮามาส หลังเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอิสราเอลสามารถปล่อยจรวดลงมาปลิดชีวิตพล.อ.อาห์เหม็ด จาอาบารี ผู้บัญชาการฝ่ายวางแผนของกลุ่มนักรบติดอาวุธฮามาส พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำตัวได้อย่างแม่นยำ เมื่อวันพุธที่ 14 พ.ย.
ด้านกลุ่มฮามาสยังคงปักหลักต่อสู้ไม่ถอย และสามารถยิงจรวดรุกเข้าใกล้ถึงเมืองเยรูซาเล็ม และกรุงเทลอาวีฟ ของอิสราเอล กระตุ้นให้รัฐบาลอิสราเอลเรียกกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษเพิ่มเป็น 75,000 นาย เพื่อเตรียมเคลื่อนกำลังภาคพื้นดินเข้าไปยังฉนวนกาซาในเร็ววันนี้
โดยแถลงการณ์ของกองทัพอิสราเอลระบุว่า ได้ส่งกำลังทหารเข้าปิดล้อมถนนสายหลักรอบฉนวนกาซาหมดแล้ว พร้อมกับประกาศให้เป็นเขตทหาร เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดฉากการสู้รบภาคพื้นดินต่อกลุ่มนักรบติดอาวุธในฉนวนกาซาเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี
ในวันเดียวกัน สหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ออกแถลงการณ์ด่วนว่า นายบัน คี-มูน เลขาธิการยูเอ็น จะเดินทางไปยังฉนวนกาซาภายใน 2-3 วันนี้ และจะปักหลักอยู่ที่นั่น เพื่อเรียกร้องให้ทั้งอิสราเอล และปาเลสไตน์ตอบรับข้อตกลงหยุดยิงโดยเร็วที่สุด
ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ยังคงแสดงจุดยืนให้การสนับสนุนอิสราเอล ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญในตะวันออกกลาง หลังเสร็จสิ้นการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล โดยให้เหตุผลว่า อิสราเอลมีสิทธิ์ และอำนาจอันชอบธรรม ที่จะปกป้องอธิปไตยของตนจากการรุกรานของกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ อย่างไรก็ตาม สหรัฐหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สถานการณ์จะคลี่คลายไปในทางที่ดี และกลับสู่ความสงบโดยเร็วที่สุด พร้อมกับขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตทุกราย