กรณีขุดพบหินเหล็กไหลในบริเวณวัดป่าแดนนาบุญ จ.กาฬสินธุ์ ตามที่พระวิพัฒน์ อธิปัญญา รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าแดนนาบุญนิมิต ซึ่งมีลักษณะเป็นหินผิวสีเหลืองเข้ม เนื้อสีเขียวมรกต สร้างความฮือฮาให้ชาวบ้านและประชาชนที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หินก้อนดังกล่าวเป็นหินเหล็กไหล น้ำหนักประมาณ 12 กิโลกรัม ถูกเก็บรักษาที่กุฎิหลวงพ่อถาวร อคฺคธมฺโม พระลูกวัด แต่ละวันจะมีประชาชนจากหลายพื้นที่ ทั้งต่างอำเภอ ต่างจังหวัด เข้ามากราบไหว้ ขอโชคลาภและความเป็นสิริมงคล บางคนตั้งจิตอธิษฐาน ทำการยกเสี่ยงโชคชะตาตามความเชื่อ
หลวงพ่อถาวร กล่าวว่าวันแรกที่ขุดพบก็มอบหมายให้พระรูปหนึ่งนำไปเก็บรักษาในกุฎิของพระรูปนั้น แต่ก็ได้รับการบอกเล่าจากพระรุปดังกล่าว ว่าไม่สามารถจำวัตรได้ เพราะฝันไม่ดี เหมือนถูกหินเหล็กไหลกดทับหน้าอก วันรุ่งขึ้นจึงเอาไปให้พระอีกรูปหนึ่งรักษา แต่ก็เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันอีก พระรูปอื่นจึงไม่กล้ารับไปเก็บ สุดท้ายจึงมอบให้อาตมารักษาที่กุฏิหลังนี้ ซึ่งมีการทำพิธีบอกกล่าวขอขมา เก็บใส่พานทองอย่างดี ก็ไม่มีเหตุผิดปกติอะไร ญาติโยมมาขอดูก็ไม่หวงห้าม โดยบางรายถึงกับบนบานอธิษฐานไปตามความเชื่อ และกลายเป็นหินอธิษฐานหรือหินศักดิ์สิทธิ์สำหรับยกเสี่ยงโชคชะตา ซึ่งทุกคนต่างยืนยันว่า มีความแม่นยำมาก ด้านนายหมื่น ฤทธิ์วงศ์ อายุ 68 ปี บ้านเลขที่ 26 ม.5 บ้านวังยูง กล่าวว่า เกี่ยวกับการทำนายหรือเสี่ยงทายโชคชะตา จากการยกก้อนหินหรือหินอธิษฐานตามสถานที่ต่างๆ ตนเคยได้ยินมาบ้าง แต่ไม่ไปเคยพิสูจน์ ก็เพิ่งจะมาทดสอบและมีประสบการณ์ด้วยตัวเอง จากการยกหินเหล็กไหลที่วัดป่าแดนนาบุญนี้ ซึ่งยอมรับว่าเป็นความมหัศจรรย์ เหลือเชื่อ ตอนที่ยกขึ้นก็เบาหวิว ต่างกับตอนที่อธิษฐานขอยกไม่ขึ้นก็หนักอึ้ง เป็นเรื่องที่ประหลาดมาก
ขณะที่นายหมุน ฤทธิ์เรือง มัคทายกวัดกล่าวว่า ตั้งแต่ขุดพบหินเหล็กไหลและนำมาเก็บรักษาที่กุฎิหลวงพ่อถาวร มีประชาชนจากทั่วสารทิศ ทุกสาขาอาชีพ หลั่งไหลมาดูและยกหินอธิษฐานไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งก็ไม่ได้กีดกันหวงห้าม ถือเป็นความเชื่อของแต่ละคน โดยชายคนหนึ่ง ท่าทางเป็นเศรษฐี มาจากต่างจังหวัด อ้างว่าเป็นนักสะสมของเก่า หรือเซียนวัตถุมงคลประมาณนั้น บอกว่าเหตุที่หินก้อนนี้มีลักษณะดังกล่าว เพราะเป็น “หินกินเหล็ก” ซึ่งเป็นหินที่เกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุของผู้มีวิชาอาคม แต่เดิมอาจจะเป็นก้อนเล็กๆ แต่เมื่อได้กินเหล็กเข้าไป เหล็กก็จะละลายและสมานเป็นเนื้อเดียวกับก้อนหิน จึงทำให้มองเปลือกนอกเป็นก้อนหิน ขณะที่เนื้อในเป็นเหล็กสีเขียวมรกต เป็นของดีที่หายาก ขณะนี้ถึงจุดอิ่มตัวสมบูรณ์แล้ว จึงสำแดงให้พระวิพัฒน์นิมิตเห็น และทำให้มีการขุดพบ ปรากฏเป็นหินศักดิ์สิทธิ์สำหรับอธิษฐานเสี่ยงทาย ซึ่งชายคนนี้ได้ขอซื้อในราคากิโลกรัมละ 1 ล้านบาท หรือทั้งก้อนประมาณ 12 ล้านบาท แต่ทางวัดและคณะกรรมการวัดไม่ขาย เพราะตั้งใจจะเก็บรักษาเป็นของดีคู่วัด และให้ประชาชนได้มาอธิษฐานเสี่ยงทายโชคชะตาต่อไป.