เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 14 พ.ย. นายยงยุทธ พึ่งชื่น นายกเทศมนตรีพระสมุทรเจดีย์ รับแจ้งจากนางสาหร่าย คงดี อายุ 65 ปี เจ้าหน้าที่ดูแลวิหารองค์พระสมุทรเจดีย์ ว่า มีพระประธานในวิหารใบหน้าหลุดร่วงทั้งหน้า จึงไปตรวจสอบ ภายในวิหารด้านหน้าองค์พระสมุทรเจดีย์ สถานที่สำคัญและเป็นที่สักการะยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน พบนางสาหร่าย พานายกเทศมนตรีไปดูพระประธาน หลวงพ่อไชยวัฒน์ หน้าตักกว้าง 1.50 เมตร สูงจากเศียรถึงฐานล่าง 2.50 เมตรตั้งอยู่บนแท่นบริเวณใบหน้าลอกออกทั้งหมดเหลือเพียงบริเวณเศียรและใบหูที่ยังคงอยู่สภาพเดิม บริเวณลำคอ และหน้าอกขวายังมีรอยแตกร้าวและแผ่นเนื้อทองหลุดร่วง ส่วนองค์อื่นๆ ก็มีการหลุดร่วงบางจุด เจ้าหน้าที่ได้เก็บเศษใบหน้าและเนื้อทองที่หล่นเกลื่อนใส่พานเก็บไว้

นางสาหร่าย กล่าวว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลวิหารหลังนี้ตั้งแต่ปี 2518 รวมแล้ว 37 ปี หลวงพ่อไชยวัฒน์องค์นี้สร้างขึ้นเมื่อสมัยรัชกาลที่ 4 มีพระราชดำรัสให้นำมาประดิษฐานไว้ที่องค์พระสมุทรเจดีย์ในยุคนั้นที่เป็นเกาะกลางน้ำรวมๆ แล้วน่าจะประมาณ 186 ปี จนกระทั่งเมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการจัดงานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์คืนที่ 9 มีประชาชนเดินทางเข้ากราบไหว้สักการบูชาอย่างเนืองแน่ จู่ๆ ใบหน้าของหลวงพ่อไชยวัฒน์ได้หลุดร่วงลงมาแตกเกลื่อนพื้น ทำให้ประชาชนที่พบเห็นต่างตกใจตื่นตระหนกถึงเหตุการณ์ จึงแจ้งไปทางนายกเทศมนตรี

เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวมีอายุราว 186 ปี ยิ่งนานวันเข้าก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลาอีกทั้งวิหารหลังดังกล่าว ปลูกติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้ปากอ่าวไทย ทำให้ไอน้ำเค็มลอยมาติดเกาะเนื้อพระพุทธรูปจนสึกกร่อนประกอบกับบริเวณรอบวิหารอยู่ระหว่างปรับปรุงภูมิทัศน์และบูรณะซ่อมแซมทำให้ไอน้ำที่นำมาใช้ซ่อมแซมไปถูกพระพุทธรูปจนกัดกร่อนเสียหายจะได้ประสานกรมศิลปกรให้มาตรวจสอบประเมินเรื่องการบูรณะซ่อมแซมต่อไป