เมื่อ 14 พ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ร.ต.อ.ธเนตร วงศ์ปลิง พนักงานสอบสวน(สบ.1) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งเหตุว่า มีผู้เสียชีวิตจากการถูกเครื่องยนต์เกษตรดีดร่างอัดติดกับเสาบ้าน อยู่ที่บริเวณใต้ถุนบ้านเลขที่ 9/1 หมู่ที่ 3 ต.ไผ่ขอดอน อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาล ม.นเรศวร และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวยกสูง ผนังและหลังคาทำด้วยสังกะสี ซึ่งมีประชาชนที่อยู่ละแวกใกล้เคียงเดินทางมามุงดูกันเป็นจำนวนมาก
พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายบรรรจง น่วมบาง อายุ 41 ปี พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว สวมเสื้อยืดคอปกสีน้ำเงิน สวมกางเกงฟุตบอลขาสั้น สีน้ำเงินและสวมรองเท้าแตะชนิดสวมสีแดง ลักษณะการเสียชีวิตผู้ตายถูกคานของแฮนด์รถแทรกเตอร์เดินตามยี่ห้อคูโบต้า สีแดงดันร่างของนายบรรจง อัดติดกับเสาบ้านปูนดันขึ้นไปติดกับพื้นบ้าน โดยปลายเท้าทั้งสองข้างลอยอยู่เหนือพื้นดินเสียชีวิตคาที่หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานนำร่างผู้เสียชีวิตลงมา
จากการตรวจสอบชันสูตรของแพทย์พบว่า บริเวณใต้ราวนมด้านซ้ายถูกแรงกระแทกจากของแข็งอย่างรุนแรงจนกระดูกซี่โครงแตกหักหลายซี่ ส่วนผิวหนังบริเวณดังกล่าวเป็นแผลถลอก และที่บริเวณแผ่นหลังด้านซ้ายมีแผลถลอกเป็นทางยาว มีนางไร น่วมบาง อายุ 60 ปี ผู้เป็นมารดานั่งร่ำไห้อยู่ใกล้กับศพตลอดเวลา
สอบสวนนายไร ได้เล่าว่า ลูกชายของตนนั้นอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวคนเดียว ส่วนภรรยาเลิกกันไปนานแล้ว ลูกชายกำลังจะนำรถไถอีโก้งไปดูดน้ำใส่ต้นข้าวในนา โดยทุกเช้า ลูกชายจะไปกินข้าวกับพ่อและแม่ที่บ้านเลขที่ 303 หมู่ที่ 3 ต.ไผ่ขอดอน แต่วันนี้ตนไม่เห็นลูกชายมาหา จึงเดินทางมาดู พบว่าลูกชายนั้นถูกคานบังคับรถไถ่อัดร่างลอยติดกับเสาบ้านเสียชีวิตดังกล่าว
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะกำลังจะนำรถไถคันดังกล่าวออกมาจากใต้ถุนบ้านเพื่อที่จะขับไปสูบน้ำใส่นาเพื่อแช่ข้าว แต่ขณะที่ติดเครื่องยนต์และกำลังจะใส่เกียร์ถอยหลัง เครื่องยนต์อาจจะเกิดเร่งขึ้นอย่างแรง จนผู้ตายไม่สามารถบังคับ และกดคานบังคับอยู่ได้ จึงทำให้คานบังคับรถไถสะบัดและดันร่างผู้ตายลอยอยู่กลางอากาศ และถูกสะบัดเหวี่ยงอัดกับเสาปูนของบ้านอย่างแรงก่อนที่จะเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว