หลงความเป็นไทย ลืมความเป็นลาว

 

คอลัมน์ สยามประเทศไทย โดย สุจิตต์ วงศ์เทศ
 

 





ประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทย และผู้พิทักษ์ความเป็นไทย จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่ลดท่าทียกตนข่มประเทศเพื่อนบ้าน


คนไทยส่วนมากจึงยังถูกครอบงำด้วยท่าทีอย่างนั้น แม้คนบางกลุ่มบางรุ่นพยายามทำความเข้าใจ แล้วทำใจยอมรับความจริง แต่ยังหลงเหลือซากเก่าตกค้าง เมื่อไม่ทันระวังย่อมพลั้งปากไปบ้าง 

ดังกรณีนักร้องสาวไทยถูกเข้าใจว่าเหยียดลาว แม้พยายามขอโทษขอโพยกันแล้วก็ตาม ซึ่งควรเห็นใจที่พลั้งเผลอไปโดยไม่เจตนา แต่สะท้อนสำนึกทางสังคมวัฒนธรรมที่มีในไทยได้อย่างชัดเจน

ลาวเป็นกระแสหลักของความเป็นไทย (บริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่ผู้มีอำนาจไทยใช้แทนคนไทยทั่วประเทศ) เพราะมีหลักฐานประวัติศาสตร์โบราณคดีว่าบรรพชนลาว

(ที่จะเป็นบรรพชนไทย)เคลื่อนย้ายจากลุ่มน้ำโขง ลงตามเส้นทางการค้าภายใน มาอยู่ปะปนกับกลุ่มชนมอญ-เขมรบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง แล้วรับวัฒนธรรมมอญ-เขมร เลยเกิดสำนึกใหม่เรียกตัวเองด้วยชื่อใหม่ว่าไทย แล้วทิ้งความเป็นลาว

ลาว แปลว่า คน แต่ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป หากหมายถึง คนผู้เป็นนาย, ผู้มีอำนาจ, ผู้เป็นใหญ่ แล้วในที่สุดก็เป็นคำนำหน้านามกษัตริย์และผู้ที่เคารพ 

ต่อมา มีคำอื่นมาใช้เรียกนำหน้านามกษัตริย์แทนคำว่าลาวเช่น ขุน, ท้าว, พญา, ฯลฯ นับแต่นั้นคำว่าลาวจึงค่อยๆ เสียความหมายอันสูงสุดไป แล้วเลื่อนต่ำลงเป็นคำสรรพนามที่หมายถึง ท่าน

 

 

ลาว มีตำนานกำเนิดจากน้ำเต้าปุง ร่วมกับคนอื่นๆ รวม 5 พวก แล้วแยกย้ายกระจัดกระจายไปอยู่ตามที่ต่างๆ โดยยังเป็นเครือญาติกันทั้งมวล

คำว่าลาว เคยใช้เป็นคำนำหน้านามกษัตริย์ เริ่มจากลาวจก มีในลำดับกษัตริย์วงศ์หิรัญนครเงินยาง สืบถึงพญามังราย เชียงใหม่ เช่น (ปู่เจ้า) ลาวจก, ลาวเก๊าแก้ว, ฯลฯ จนถึงลาวมิง, ลาวเมือง, ลาวเมง

ลูกลาวเมง คือพญามังราย ที่สร้างเมืองเชียงใหม่ 

คนยุคอยุธยารู้จักพวกลาวในอีก 2 ชื่อว่า ไทยใหญ่ กับไทยน้อย แล้วบอกยืนยันว่า ตัวเองเป็นไทยน้อย ก็คือลาว

ไทยน้อย เป็นชื่อที่คนในอยุธยา ราวเรือน พ.ศ.2000 ผูกขึ้นเรียกพวก ลาวพุงขาว หรือชาติพันธุ์ในวัฒนธรรมลาวบริเวณ

สองฝั่งโขง ทั้งฝั่งขวา (คือบริเวณอีสานในประเทศไทยทุกวันนี้) และฝั่งซ้าย (คือดินแดนลาวปัจจุบัน) ต่อเนื่องไปทางทิศตะวันออกถึงกลุ่มชาติพันธุ์พูดตระกูลไทย-ลาว ลุ่มน้ำดำ-แดง (ในเวียดนาม), กวางสี-กวางตุ้ง (ในจีน)

ลาวสองฝั่งโขง ถูกเรียกสมัยหลังว่า ลาวพุงขาว เพราะไม่สักลายตามตัวเหมือนพวกไทยใหญ่ คนพวกนี้ออกเสียงตรงตามรูปอักษร  คือ ท เป็น ท และ พ เป็น พ

ไทยใหญ่ เป็นชื่อที่คนในอยุธยา ราวเรือน พ.ศ.2000 ผูกขึ้นเรียกพวก ลาวพุงดำ บริเวณลุ่มน้ำสาละวินตอนเหนือ (ในพม่า) ต่อเนื่องถึงลุ่มน้ำพรหมบุตร (ในอัสสัมของอินเดีย)

ลาวลุ่มน้ำสาละวิน ถูกเรียกสมัยหลังว่า ลาวพุงดำ เพราะสักลายด้วยหมึกสีคล้ำตามตัวตั้งแต่บั้นเอวลงไปถึงแข้ง (ขา) คนพวกนี้ออกเสียง ท เป็น ต และ พ เป็น ป

ไทยใหญ่ยังถูกเรียกจากชาติพันธุ์อื่นๆอย่างดูถูกเหยียดหยามเป็นสัตว์เลื้อยคลานว่า เงี้ยว แปลว่า งู (เหมือนคำว่า เงือก, งึม)

ไทย, คนไทย, ความเป็นไทย, และ ลักษณะไทย แรกมีขึ้นราวหลัง พ.ศ.1700 พร้อมกับวิวัฒนาการ อักษรไทย บริเวณที่ราบ

ลุ่มน้ำเจ้าพระยาภาคกลางแถบอโยธยา-ละโว้-สุพรรณภูมิ โดยพวกลาวที่เคลื่อนย้ายลงมาอยู่กับมอญและเขมร รับวัฒนธรรมมอญ-เขมร แล้วเรียกตัวเองด้วยคำใหม่ว่าไทย 

แต่ที่เรียกตนเองว่าไทย เพิ่งพบหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรเก่าสุด อยู่ในวรรณคดียุคต้นอยุธยาเรื่องสมุทรโฆษคำฉันท์ หลัง พ.ศ.2000 

นับแต่นั้นก็หลงความเป็นไทย ลืมความเป็นลาว สืบจนบัดนี้

นักร้องสาวคนนั้น เป็นผลผลิตของประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทย ทำให้เธอพลั้งปากตามความเคยชินที่ถูกครอบงำมานานแล้ว

แนวทางแก้ไขไม่ใช่กล่าวโทษใครเป็นคนๆ (เช่น โทษนักร้องสาวคนนั้น) แต่ต้องชำระประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทยทั้งระบบ ที่ไม่รู้จักและไม่เข้าใจบรรพชนคนไทยของตัวเองจริงๆ ว่า

สายแหรกสำคัญสายหนึ่งคือลาว

หน้า 20,มติชนรายวัน ฉบับวันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2555 

 

 

13 พ.ย. 55 เวลา 12:47 6,961 14 140
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...