แก๊ง Bandidos รู้จักกันดีในหมู่สิงห์นักบิดมอเตอร์ไซค์ฮารเลย์

ชื่อของ กลุ่มแบนดิโดส หรือ แก๊ง Bandidos ไม่เป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยมากนัก แต่จะรู้จักกันดีในหมู่สิงห์นักบิดมอเตอร์ไซค์ฮารเลย์ ปัจจุบันมีแก๊งมอเตอร์ไซค์ ฮาร์เลย์ทั่วโลกประมาณ 5-6 กลุ่มใหญ่ ได้แก่

1.เฮล แองเจิ้ล (Hells Angels) เป็นกลุ่มที่ใหญ่และแข็งแกร่งที่สุด

2.แบนดิโดส ใหญ่เป็นอันดับสอง

3.เอาต์ลอว์ (Outlaws)

4.แมดด็อก (Mad Dog)

5.กรีเมี่ยม อยู่ที่เยอรมัน (Gremium)

6.เจสเตอร์ (Jesters)

7.แบล็กโรส (Black Rose)

8.เพแกน (Pagan)
สำหรับกลุ่มแบนดิโดสนั้น เป็นแก๊งมอเตอร์ไซค์ ฮาร์เลย์ที่ถือกำเนิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกาแล้วขยายอาณาจักรไปเติบโตอยู่ในแคนาดา และทวีปยุโรป โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มนอร์ดิก เดนมาร์ก เยอรมนี อังกฤษ ลักเซมเบิร์ก สเปน อิตาลี ส่วนภูมิภาคเอเชียนั้นมีเพียง 2 จุดใหญ่คือ ออสเตรเลีย และไทย เป็นที่น่าสังเกตว่า ฐานที่มั่นใหญ่สุดของเอเชียคือ ประเทศไทย โดยมีสาขามากถึง 4 แห่งคือ กรุงเทพฯ พัทยา เกาะสมุย และภูเก็ต

สมาชิกของกลุ่มแบนดิโดส ไม่ใช่แค่กลุ่มคนขับมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์ธรรมดา แต่เป็นองค์กรที่มีสายบังคับบัญชาชัดเจน 5 ระดับชั้น คือเริ่มไต่ระดับชั้นจาก

road caption,


secretary,


sageant at arms,


Vice President

และสูงสุดที่ตำแหน่งประธาน President ซึ่งตำแหน่งเหล่านี้จะมีการปักป้ายชื่อไว้ด้านหลังเสื้อแจ็กเกตพร้อมสัญลักษณ์ผู้ชายมีเคราใส่หมวก ส่วนมือขวาถือปืน และมือซ้ายถือดาบ ปัจจุบันตำแหน่งประธานคือ

นายจิม ลีฟท์ ทินเดน (Jim Leif Tinndahn) อยู่ที่ประเทศเดนมาร์ก
ส่วน

นายคิม ลินการ์ด นีลสัน หนึ่งใน 4 ผู้ต้องหาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จับกุมได้เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านนั้น มีตำแหน่งเป็นถึงรองประธานกลุ่มแบนดิโดส ซึ่งได้หลบหนีคดีอาชญากรรมจากเดนมาร์กไม่น้อยกว่า 20 คดีเข้ามาทำธุรกิจที่พัทยาและเกาะสมุย โดยมีสมาชิกแบนดิโดสที่ถูกออกหมายจับครั้งนี้ด้วยอีก 3 คน คือ

นายปีเตอร์ โรเซนเบิร์ก (หนีออกไปต่างประเทศแล้ว) เป็นสมาชิกระดับ Full member ที่เดนมาร์ก และเป็นคนที่พา

นายคิม ลินการ์ด เข้ามาอยู่ที่เกาะสมุยประมาณปี 2545 แต่ก่อนหน้านี้คิมเคยอยู่ที่พัทยามาก่อน

2.นายปีเตอร์ วัตกินส์ โจนส์ และ

3.นาย คริสปิน เพ-ทอน สมิทธิ์ ซึ่งคริสปินเคยเป็นสมาชิกของแก๊งกรีเมี่ยมของเยอรมนี 
ต่อมาย้ายมาอยู่ในแก๊งเฮล แองเจิ้ล เป็นสมาชิกประเภท prospect คือเป็นสมาชิกที่ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าจะภักดีกับแก๊งแค่ไหน และล่าสุดโยกมาอยู่ในแก๊งแบนดิโดสปัจจุบันนายคริสปินเป็นเจ้าของร้าน ดำน้ำชื่อกัปตันเคปแมน และเป็นเจ้าของหนังสือสมุย-พะงัน เรียลเอสเตต

สำหรับบุคคลที่สนใจจะเข้าไปเป็นสมาชิกแก๊งแบนดิโดสนั้นก็มีการจัดลำดับชั้น และต้องพิสูจน์ผลงานและความภักดีให้ประจักษ์ก่อน โดยเริ่มจากการเป็นสมาชิกขั้นต้นคือ Hang around, Prospect, Probationary และเป็นสมาชิกเต็มขั้นคือ Full member (อ่านรายละเอียดในล้อมกรอบ)

นอกจากนี้แก๊งแบนดิโดสยังมีคำขวัญว่า "อย่าคาดหวังในความเมตตา" (Expect no merchy) และ "ขอให้พระเจ้ายกโทษให้ แต่แบนดิโดสจะไม่ยกโทษให้" (God forgives Bandidos don"t)

ตั้งบริษัทเชิดคนไทย "นอมินี"

สำหรับพฤติกรรมในประเทศไทยนั้น จากผลการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษพบว่า สมาชิกของแบนดิโดสมีพฤติกรรมทำผิดกฎหมายหลายอย่าง เช่น

1.การข่มขู่และกรรโชกทรัพย์ในหมู่ชาวต่างชาติ 
2.การทุจริตเกี่ยวกับที่ดิน คือ การนำเงินที่ได้จากการทำผิดกฎหมายในต่างประเทศเข้ามากว้านซื้อที่ดินบนเกาะสมุยและปั่นราคาให้พุ่งสูงขึ้น และบุกรุกพื้นที่ป่า

3.การค้ายาเสพย์ติด มีการจำหน่ายจ่ายแจกในรูปของแพ็กเกจการท่องเที่ยว ดำน้ำ เป็นต้น

4.การฟอกเงิน โดยนำเงินที่ได้จากการทำผิดกฎหมายในต่างประเทศที่ได้จากการค้ายาเสพย์ติด ค้ามนุษย์ ค้าอาวุธ เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะธุกริจอสังหาริมทรัพย์ที่เกาะสมุย ซึ่งจะใช้วิธีมีภรรยาเป็นคนไทยแล้วเปิดบริษัทร่วมกันทำธุรกิจซื้อขายบ้านและที่ดิน โดยให้คนไทยถือหุ้นร้อยละ 51% ต่างชาติไม่เกิน 49% หลังจากนั้นก็ทำโครงการวิลล่าหรูขายในราคาสูง แต่จะขายให้กับกลุ่มเครือข่าย โดยทำการซื้อขายกันนอกประเทศ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีการซื้อขายจริง แต่จะขายให้กับกลุ่มเครือข่าย โดยทำการซื้อขายกันนอกประเทศ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์

ฉะนั้นรูปแบบการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เฟื่องฟูบนเกาะสมุยในช่วง 1-2 ปีนี้เป็นนักลงทุนที่แท้จริงไม่เกิน 10% แต่ส่วนที่เหลือมีสัดส่วนมากถึง 80% ที่เป็นการตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อเป็น "ฉากหน้า" ของกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ ที่เข้ามาสร้างเครือข่ายในประเทศไทย โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐและท้องถิ่นบางคนคอยสนับสนุนเป็น "แบ็กอัพ" ให้เป็นอย่างดี และยังมีเครือข่ายร่วมขบวนการอีกไม่น้อยกว่า 70 คน

นอกจากฟอกเงินด้วยการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้ว สมาชิกแบนดิโดสส่วนหนึ่งที่เกาะสมุยยังลงทุนทำร้านอาหาร ผับ บาร์ ภัตตาคาร บันจี้จั๊ม เฟอร์นิเจอร์ ธุรกิจดำน้ำ นำเที่ยว และเรือบินนำเที่ยว ซึ่งในอนาคตสามารถที่จะคอนโทรลธุรกิจบนเกาะสมุยได้อย่างเบ็ดเสร็จและครบวงจรทั้งหมด

ในส่วนของการทำธุรกรรมการเงินนั้น จะใช้วิธีโอนเงินที่ฟอกแล้วเข้าประเทศเป็นงวดๆ และโอนเงินกลับประเทศหลังจากเปิดบริษัททำธุรกิจแล้วอ้างว่ามีกำไร แต่จากการสืบค้นข้อมูลงบการเงินที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า บริษัทในเครือแทบทุกแห่งแจ้งผลประกอบการขาดทุนมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมามีการโอนเงินเข้าออกประเทศผ่านสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่งวงเงินกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการของสำนักงานกฎหมายดังกล่าวส่วนใหญ่ก็ขาดทุนตลอดเช่นกัน

"เกาะสมุย" ในวันนี้จึงกลายเป็นแหล่งกบดานของอาชญากรข้ามชาติ และเป็นเกาะสวรรค์ของนักฟอกเงินไปแล้ว

กฎเหล็ก แบนดิโดส

ประธานสาขาสมาคมแบนดิโดสทุกแห่งต้องรับผิดชอบกับการกระทำของสมาชิกภายในสาขาของท่านทุกคน ทั้งในเรื่องการดำเนินชีวิตและการประพฤติปฏิบัติทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎของสมาคม โดยมีแนวปฏิบัติ 40 ข้อ แต่กฎเหล็กที่น่าสนใจมีดังนี้

- สมาชิกหรือผู้ที่คาดหวังจะเป็นสมาชิกสมาคมทุกคนจะต้องมีและขับรถมอเตอร์ไซค์ ฮาร์เลย์ เดวิดสัน

- ผู้สมัครเป็นสมาชิกทุกคน เมื่ออายุครบ 21 ปีแล้วจึงจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์

- หากคุณออกจากคลับก่อนครบกำหนดเวลา 5 ปี คุณจะต้องลบรอยสักทิ้งไป

- หากสมาชิกคนใดถูกเขี่ยให้ไปอยู่ในฐานะที่ย่ำแย่ จะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ติดต่อกับสมาชิกรายนั้น

- หากสมาชิกคนใดที่มีผลงานในระดับที่ดี เขาจะสามารถเริ่มต้นงานเพื่อไขว่คว้าโอกาสได้หลังจากผ่านเวลา 1 ปี เมื่อคณะกรรมการสาขาและประธานให้ความเห็นชอบ

- สมาชิกทุกคนจะต้องนำสมุดบัญชีมาแสดงต่อคลับปีละ 1 ครั้ง ในการประชุมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์/มีนาคม

- จะไม่มีใครติดเครื่องหมายขณะที่สวมกางเกงขาสั้น หรือเสื้อผ้าออกกำลังกาย

- ทุกๆ คนที่ต้องติดคุกจะได้รับเงินค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 135 ยูโรต่อเดือน

- ไม่อนุญาตให้เกี่ยวข้องกับเฮโรอีน แอลเอสดี ยาแฟนตาซี ยาอี หรือสูบโคเคน และไม่อนุญาตให้ใช้เข็มฉีดยาในการฉีดยาเสพย์ติดหรือสารอื่นๆ นอกเหนือจากยาตามใบสั่งแพทย์ หรือได้รับคำสั่งจากแพทย์

- เมื่อคุณออกจากคลับแล้ว คุณจะไม่สามารถเข้าร่วมใน MC อื่นๆ ได้อีก

- ทุกๆ อย่างที่ไม่ได้ระบุไว้ ให้เป็นไปตามสามัญสำนึก ฯลฯ