ยันต์โสฬสมหามงคลสุดยอดยันต์วิเศษ

 "ยันต์" (cabalistic writing) เป็นคำโบราณ เข้าใจว่ามีพัฒนาการมาจากคำว่า "ยนต์" สมัยก่อนมีการผูกหุ่นพยนต์ คือเสกหุ่นฟางให้กลายเป็นคน หรือเสกเรือสำเภายนต์ ซึ่งทำจากหญ้าฟางให้แล่นไปมาได้ทั้งในน้ำและบนบก ทางเหนือมีการลงอักขระในช่องสี่เหลี่ยมไว้หน้าเรือนนอนลูกสาวก้นไอ้หนุ่มที่มีคาถาอาคมแอบเข้าไปทำมิดีมิร้ายถ้ารอดเข้าไปอาคมทางไม่ดีจะเสื่อมรู้จักเรียกกันว่า "หำยนต์" ส่วนใหญ่จะหมายถึงการทำให้สิ่งไม่มีชีวิตเกิดการเคลื่อนไหวตามใจปรารถนาเป็นรากเหง้าแห่งคำว่า "ภาพยนตร์" ซึ่งเมื่อก่อนเรียก "หนัง" (มาจากหนังใหญ่ หนังตะลุง) เครื่องยนต์ กระทั่ง รถยนต์ ในปัจจุบัน
     
                ยันต์ เป็นการจาร จารึก หรือเขียนอักขระโบราณลงบนวัสดุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นเงินแผ่นทองแผ่นโลหะอันเป็นมงคล และใช้จารหรือสักลงบนร่างกายของมนุษย์เพื่อแสดงกลุ่มชาติพันธุ์หรือความเป็นหนุ่มพร้อมจะรับผิดชอบมีครอบครัว เช่น การสักยันต์ของกลุ่มชาวลาวพุงดำ คือสักตั้งแต่พุงลงไป เกจิคณาจารย์จะได้รับการถ่ายทอดวิชาการลงอักขระเลขยันต์สืบต่อกันมา โดยเชื่อว่ายันต์แต่ละอย่างมีพุทธคุณช่วยให้เกิดความเป็นสิริมงคลในลักษณะต่างๆ ซึ่งการลงอักขระเลขยันต์นั้น เป็นตำราเฉพาะของแต่ละอาจารย์บางครั้งเป็นการสักด้วยหมึกดำ บ้างเป็นการสักน้ำมัน ซึ่งจะไม่เห็นรอยสัก

                สำหรับยันต์ในประเทศไทยนั้น ได้รับอิทธิพลจากการเขียน "ติลก" (Tilok) ซึ่งเป็นเครื่องหมายบูชาเทพเจ้า โดยเฉพาะพระศิวะ และพระนารายณ์ จากอินเดียโดยเขียนไว้บนหน้าผาก ภายหลังเขมรรับเอาทั้งพราหมณ์และพุทธมหายานเข้าไปการเขียนยันต์เลยแพร่หลายเข้าสู่สยามในเวลาต่อมา
     
                ในจำนวนยันต์ทั้งหมด ยันต์โสฬสมงคลและยันต์มหาโสฬสมงคลจัดเป็นยันต์ชั้นสูง ทำเป็นตัวเลข ๓ ชั้น ชั้นนอกลงด้วยเลข ๑๖ ตัว (โสฬส แปลว่า ๑๖ ชั้นฟ้า มีความหมายถึงภูมิชั้นอรูปภูมิอันเป็นถิ่นที่อยู่ของพระพรหมทั้ง ๑๖ ชั้น และหมายถึงพระพุทธคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑๖ ประการ) พระมหายันต์นี้ปรากกฏหลักฐานในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงตั้งศาลหลักเมืองโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญยันต์มหาโสฬสมงคลประดิษฐานไว้ที่ส่วนยอดเพื่อนำความเจริญรุ่งเรืองและมหามงคล ณ เสาหลักเมือง
    
                พระยันต์นี้แม้แต่สมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศนฯ กรุงเทพฯ ผู้เจนจบในพระยันต์ร้อยแปด ทรงพิจารณาแล้วเห็นว่ายันต์โสฬสมงคลเป็นยันต์อันวิเศษสุดกว่ายันต์ทั้งปวง พระองค์ได้นำไปประทับในพระอุโบสถของวัดสุทัศนฯ และเขียนสอดใส่ไว้ใต้หมอนหนุนศีรษะตลอดเวลา จนกระทั่งท่านมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๗ ลูกศิษย์ลูกหาจึงได้พบแผ่นยันต์วางใว้ใต้หมอนของท่าน และหลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม แห่งวัดสะพานสูง ได้อัญเชิญไปดัดแปลงจัดสร้างเป็นตะกรุดโสฬสอันลือลั่น
    
                ยันต์โสฬสมงคลเป็นมหายันต์ที่เกิดจากการนำเอายันต์ ๓ ชนิดมารวมกันไว้ โดยใช้ตัวเลขแทนด้วยความหมายมงคลต่างๆ จากภาพ ตรงกลางช่องเล็ก ๙ ช่อง คือ ยันต์ จตุโร ถัดมาวงกลาง เป็นยันต์สูตรตรีนิสิงเห และด้านนอกสุดเป็น ยันต์ อริยสัจโสฬส จากนั้นอักขระด้านนอกที่ล้อมยันต์อยู่ คือ พระคาถาบารมี ๓๐ ทัศ
    
                พระยันต์นี้มิได้มีบังคับการลงยันต์ด้านหลังไว้ ฉะนั้นการลงยันต์ด้านหลังตะกรุดก็แล้วแต่พระเถราจารย์ท่านจะลง ในสายวัดสะพานสูง จะลงไตรสรณคมแบบย่อ อ่านว่าว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ฯ หากลงเต็ม จะนำเอาบทอิติปิโส ๓ ห้อง มาผูกลงในตารางกระดูกยันต์ ซึ่งถือเป็นพิธีลงยันต์ใหญ่ที่ยิ่งใหญ่และลงยากมาก
    
                ส่วนยันต์โสฬสมหามงคล รอบนอกใช้พระคาถาจตุราวุธ ประกอบด้วย ด้านซ้าย อาวุธอาฬะวะกะยักษ์ มีบ่วงเป็นอาวุธ ด้านขวา อาวุธยะมะราชา มีนัยน์ตาเป็นอาวุธ ด้านบน อาวุธพระอินทร์ มีสายฟ้าเป็นอาวุธ ด้านล่าง อาวุธท้าวเวสสุวัณ มีคทาเป็นอาวุธ

หลวงพ่อทวดรุ่นมงคลมหาโสฬส


                เนื่องในปีมหามงคล องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ ๘๕ พรรษา พสกนิกรทุกหมู่เหล่าพากันประกอบกุศล มหากุศล น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย คณะกรรมการจัดสร้างโดย ดร.อำนวย ยศสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธาน ได้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลหลวงปู่ทวด รุ่นมงคลมหาโสฬส ขึ้น เพื่อบันทึกไว้เป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์
    
                โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ มอบให้โรงพยาบาลมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และจะนำวัตถุมงคลอันศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษกในครั้งนี้ แจกจ่ายให้ทหารและตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งจัดทำถุงยังชีพมอบให้ประชาชนใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ประสบปัญหายากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ประสบสาธารณภัยตามโครงการ "หนึ่งใจ....เดียวกัน"
    
                ในพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณหลวงพ่อทวดและพิธีเททองนำฤกษ์ตามตำรับโบราณ ณ สถูปเจดีย์หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ ปัตตานี ในวันจันทร์ที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๐.๐๙ น. โดยมี ดร.มนัส โนนุช กรรมการและผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ และผู้แทนพระองค์ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ประธานในพิธี มีผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายประมุข ลมุล เป็นผู้กล่าวสำนึกในพระกรุณาธิคุณ นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ตัวแทนคณะกรรมการจัดสร้างกล่าวรายงาน มีพ่อค้า ประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก พระครูสิทธิไชยบดี กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง บวงสรวงดวงวิญญาณหลวงพ่อทวด
    
                หลวงพ่อทวดรุ่นนี้มีเกจิอาจารย์ที่ทรงวิทยาคุณเข้มขลังได้ร่วมกันจารยันต์โสฬสมหามงคลตามตำราโบราณที่ได้สืบทอดมาลงบนแผ่นจาร ได้แก่ หลวงพ่อรวย วัดตะโก หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน หลวงพ่อชำนาญวัดบางกุฏีทอง เพื่ออัญเชิญไปประกอบพิธีเททองนำฤกษ์ ได้ปรากฏเหตุอัศจรรย์ต่างๆ
    
                ในการเททองได้แก่แผ่นอักขระของคณาจารย์ที่เทลงในเบ้าหมุนวนด้วยตัวเองไม่หยุดถึง ๑๖ รอบ ตามชื่อโสฬส ซึ่งแปลว่า คุณของพระพุทธองค์ ๑๖ ประการ และหมายถึงสวรรค์ชั้นพรหม ๑๖ ชั้น สร้างความตื่นตะลึงให้แก่ผู้เข้าร่วมพิธีอย่างทั่วถึงส่งผลให้ผู้คนแห่กันไปจองบูชาหลวงพ่อทวด รุ่นมงคลมหาโสฬสนี้อย่างแน่นขนัด เนื้อทองคำทุกแบบพิมพ์ใกล้เต็มทุกรายการแล้ว คณะกรรมการจัดสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อทวดจึงพิจารณาเห็นสมควรให้นำชุดกรรมการซึ่งเป็นชุดที่จะได้นำขึ้นถวายทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ออกให้สาธุชนเช่าบูชาตามคำเรียกร้อง ซึ่งจะมีชุดกรรมการใหญ่เพียง ๑๙ ชุด และชุดกรรมการทั่วไปอีกเพียง ๕๕ ชุดเท่านั้น สอบถามรายละเอียดได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ

12 พ.ย. 55 เวลา 11:15 5,123 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...