การแข่งขันฟุตซอลโลก 2012 เมื่อ 9 พ.ย. คู่แรกที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก เป็นเกมนัดสุดท้ายรอบแรกในกลุ่ม เอฟ ระหว่าง หมู่เกาะ โซโลมอน ที่แพ้รวดมาสองนัดโดยแมตช์ล่าสุดพลาดท่าแพ้ โคลอมเบีย เละเทะ 3-11 ลงสนามพบกับ กัวเตมาลา ที่ชนะ 1 แพ้ 1 นัดล่าสุดแพ้ รัสเซีย มา 0-9
สำหรับผู้เล่น 5 คนแรกของ โซโลมอน ประกอบด้วย แอนโทนี่ ตาโล่, เอลเลียต ราโกโม่, เจมส์ เอเกต้า, มิกาห์ เลอาลาฟ่า และ ซามูเอล โอซิเฟโล่ ส่วน กัวเตมาลา ที่ยังมีลุ้นเข้ารอบส่ง วิลเลี่ยม รามิเรซ, อาร์มันโด เอสโคบาร์, เอริค อเซเวโด้, เอสตูอาร์โด้ เดอ เลออน และ เอ็ดการ์ มากัล เข้ารับมือ
เริ่มเกมครึ่งแรกกัวเตมาลา ที่ต้องการอย่างน้อย 1 คะแนนจะได้ลุ้นเข้ารอบสองเป็นฝ่ายเปิดฉากบุกเข้าใส่ทันทีและแค่ 4 นาทีแรกสร้างโอกาสทำประตูได้ถึง 5 ครั้งแต่ว่ายังไม่ผ่านมือผู้รักษาประตูหมู่เกาะ โซโลมอน ขณะที่โซโลมอน แม้ว่าจะครองบอลน้อยกว่าแต่จังหวะโต้กลับทำได้หวาดเสียวเช่นเดียวกัน
เกมผ่าน 5 นาทีแรกโซโลมอน เริ่มสร้างโอกาสได้มากขึ้นตามลำดับ แต่ว่านาทีที่ 9 จากความเด็ดขาด เอสตูอาร์โด้ เดอ เลออน ที่ยิงจ่อๆ ให้ กัวเตมาลา ขึ้นนำก่อน 1-0 หลังจากเสียประตูโซโลมอน เริ่มทำเกมบุกได้ไหลลื่นมากขึ้นตามลำดับและมาได้ประตูตีเสมอจากการสังหารของ จอร์จ สตีเวนสัน ให้ทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1 เดือดร้อน ดิ๊กสัน คาดัว กุนซือกัวเตมาลา ต้องรีบของเวลานอก
เมื่อกลับมาเล่นกันใหม่ กัวเตมาลา ได้ฟรีคิกหน้าปากประตูแต่ว่า โซโลมอน ยังช่วยกันพุ่งบล็อกลูกยิงเอาไว้ได้ และเมื่อได้โต้กลับจากความยอดเยี่ยมของ เจฟเฟรี่ บูเล่ ที่โชว์ทักษะกระชากเข้าไปยิงลอดหว่างขาผู้รักษาประตูกัวเตมาลาให้โซโลมอน พลิกขึ้นนำเป็นครั้งแรก 2-1 ซึ่งสถานการณ์เข้าทางทีมชาติไทย หากโซโลมอนชนะและเซอร์เบีย ชนะเช็ก ไทยจะผ่านเข้ารอบสองทันที
นาที 18 โซโลมอน ได้จุดโทษจากการทำฟาวล์ในเขตโทษของ โฮเซ่ กอนซาเลซ ผู้ตัดควักใบแดงไล่กอนซาเลซ ออก แต่ว่าในการดวลจุดโทษ เอลเลียต ราโกโม่ กลับยิงไปติดเซฟผู้รักษาประตูทำให้สกอร์ยังเท่าเดิม ช่วงเวลาที่เหลือ โซโลมอน ที่ได้เปรียบตัวผู้เล่นพับเกมบุกเข้าใส่ตลอดแต่ว่ายังไม่สามารถจบสกอร์เพิ่มได้ทำให้หมดเวลาครึ่งแรก โซโลมอน นำกัวเตมาลา 2-1
กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลัง โซโลมอน ยังเป็นฝ่ายที่มีโอกาสลุ้นประตูมากกว่า แต่ส่วนใหญ่มักติดเซฟผู้รักษาประตูหรือไม่ก็ยิงออกเอง ขณะที่ กัวเตมาลา ที่ได้ผู้เล่นกลับมาครบ 5 คนเริ่มครองได้มากขึ้นกระทั่งนาที 22 อลัน อกีล่าร์ กลายเป็นฮีโร่ให้กัวเตมาลา เมื่อได้โอกาสยิงไกลผ่านแนวรับเสียบตาข่ายทั้งสองทีมกลับมาเสมอกันอีกครั้ง 2-2
กระนั้นก็ดีเกมของ โซโลมอน ยังไม่เป็นรองเริ่มครองบอลบุกได้มากขึ้นตามลำดับจนเกมเข้าสู่นาที 29 โซโลมอน ได้โอกาสบุก เจมส์ เอเกต้า จ่ายให้ มิกาห์ เลอาลาฟ่า ตวัดยิงเร็วจากนอกกรอบบอลลอดหว่างขาผู้รักษาประตูกัวเตมาลาเข้าประตูให้โซโลมอน ขึ้นนำอีกครั้ง 3-2
โซโลมอน ยิ่งเล่นดี โดยเฉพาะความคล่องตัวที่สามารถพาบอลเข้ากดดันคู่แข่งได้ตลอด ส่วนกัวเตมาลา ที่จะแพ้ไม่ได้ในเกมนี้ยังหาโอกาสบุกอย่างต่อเนื่องเพียงแต่ยังไม่สามารถผ่านมือผู้รักษาประตูของโซโลมอนได้นาที 33 อลัน อกีล่า ได้หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษแต่ว่า แอนโทนี่ ตาโล่ นายด่านโซโลมอน ยังเหนียวหนึบออกมาป้องกันได้ทัน บีบให้ ดิ๊กสัน กาดัว กุนซือโซโลมอน ต้องรีบขอเวลานอกเพื่อเบรกเกมคู่แข่งและปรับแผนการเล่นใหม่
นาที 35 เจมส์ เอเกต้า ของโซโลมอน ต้องโดนใบเหลืองแรกของเกมจากการทำฟาวล์หน้าเขตโทษขณะที่ กัวเตมาลา ได้โอกาสยิงแต่ว่าบอลผ่านหน้าปากประตูออกหลังไปน่าเสียดาย และถัดมาไม่กี่วินาที เจฟเฟรี่ บูเล่ ของโซโลมอน ได้ยิงเต็มข้อนอกกรอบบอลพุ่งชนคานออกหลังเช่นกัน
เกมเข้าสู่ 5 นาทีสุดท้ายกัวเตมาลา บุกหนักทั้งห้าคนแต่จังหวะยิงโดน แอนโทนี่ ตาโล่ ผู้รักษาประตูโซโลมอน คว้าไว้ได้พร้อมกับตัดสินใจยิงเร็วจากแดนตัวเองเข้าประตูให้ โซโลมอน หนีห่าง 4-2 ซึ่งหากสถานการณ์จบแบบนี้ไทยจะได้เข้ารอบสองทันทีโดยจะพบกับทีมชาติสเปน
ช่วงเวลาที่เหลือ กัวเตมาลา ที่ไม่ต้องการลุ้นเข้ารอบเป็นทีมสุดท้ายในฐานะทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดแทนที่ทีมชาติไทยเปิดฉากบุกแหลกทันทีโดยหันมาใช้โกล์ไลน์หรือการใช้ผู้เล่น 5 คนบุกทั้งหมดโดยไม่มีผู้รักษาประตู หลังจากบุกอยู่นานความพยายามของ กัวเตมาลา มาประสบผลสำเร็จเมื่อ วอลเตอร์ เอ็นริเกซ ได้จังหวะยิงเต็มข้อในนาทีสุดท้ายให้ กัวเตมาลา ไล่มาอย่างมีความหวัง 3-4 แต่ไม่ทันจบเกม หมู่เกาะโซโลมอน เอาชนะ กัวเตมาลา 4-3 แต่ไม่ทันพวกเขาตกรอบแรกจากการมีผลต่างประตูได้เสียที่เป็นรองทีมอื่นๆ และส่งผลให้ไทยผ่านเข้ารอบสองทันที ขณะที่ กัวเตมาลา ต้องลุ้นผลคู่ระหว่าง เซอร์เบีย กับสารธารณรัฐเช็ก เพื่อลุ้นเป็นทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบสองต่อไป