พท.จี้ผู้ว่าฯ กทม.ลาออกหลังฟีฟ่าไม่ใช้สนาม-สุขุมพันธุ์แก้เสียหน้า เล็งจัดคอนเสิร์ตพิสูจน์ค

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มีมติไม่ใช้สนามบางกอก ฟุตซอล อารีนา โอยอ้างเรื่องความไม่ปลอดภัยว่า เป็นการตบหน้าและประจานผู้บริหาร กทม. เรื่องนี้จะต้องมีคนรับผิดชอบ เพราะ กทม.ได้งบไปตั้งแต่ปี 53 จนถึงวันนี้ผ่านมาร่วม 2 ปีน่าจะมีการวางแผนเตรียมการก่อสร้างเพื่อให้ทันนัดเปิดสนามและรอบชิงชนะเลิศ แต่ปรากฏว่าการก่อสร้างนั้นมีปัญหามาโดยตลอด

รวมทั้งบริษัทเอกชนที่ว่าจ้างให้ก่อสร้างด้วยวงเงินพันกว่าล้านบาท ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าน่าจะมีปัญหาเรื่องการขาดประสบการณ์ ทั้งนี้ ตนได้รวบรวมหลักฐานนับตั้งแต่วันที่ฟีฟ่ามาตรวจสอบความพร้อมของสนามครั้งแรกแล้ว และยังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า กทม.ให้พนักงานของ กทม.ไปช่วยก่อสร้างอีกด้วย ซึ่งน่าจะผิดกฎหมาย เมื่อ กทม.ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศต้องเสียหาย ดังนั้นในสัปดาห์หน้าตนจะเดินทางไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันละปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดกับผู้บริหาร กทม. รวมทั้งจะยื่นต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อตรวจสอบการใช้งบประมาณและสัญญาว่าจ้างด้วยว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ หรือมีการเอื้อประโยชน์ให้กับใครหรือไม่

“การบริหารงานของ กทม.ในวันนี้น่าจะไร้ประสิทธิภาพและล้มเหลว ดังนั้นผู้ว่าฯ กทม.ควรที่จะพิจารณาตัวเองด้วยการลาออกได้แล้ว ผมไม่อยากให้ผู้บริหารของ กทม.มองว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นการเมือง เพราะเมื่อเกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ก็ต้องดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาคนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น และไม่อยากให้ผู้ว่าฯ กทม.ปัดสวะว่าเป็นเรื่องการเมืองเหมือนกรณีการนำถุงทรายไปยัดท่อระบายน้ำด้วย” นายพร้อมพงศ์ กล่าว

วันเดียวกัน ที่สนามบางกอก ฟุตซอล อารีนา เขตหนองจอก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. แถลงข่าวว่า ขณะนี้ฟีฟ่ายังไม่ได้แจ้งกทม.อย่างเป็นทางการ ซึ่งต้องเดาใจฟีฟ่าว่าเป็นประเด็นอะไร ซึ่งตนเดาในฟีฟ่า 2 เรื่องที่มีการยกเลิกการใช้สนาม 1.เรื่องความล่าช้าการก่อสร้าง ต้องบอกว่าสนามแห่งนี้ไม่ใช่เงื่อนไขการเป็นเจ้าภาพ เพราะช่วงที่ฟีฟ่าเลือกประเทศไทยเป็นเจ้าภาพไม่ได้กำหนดว่าต้องสร้างสนามแห่งนี้ แต่การสร้างสนามเป็นเงื่อนไขตามมาภายหลัง ซึ่งในปี 2553 รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มอบภารกิจนี้ให้กทม.ในฐานะที่กทม.เป็นคู่สัญญาของฟีฟ่า ซึ่งกทม.ก็ตระหนักปัญหาตั้งแต่ต้น เพราะกระทรวงการคลังเพิ่งอนุมัติงบประมาณวันที่ 17 พ.ย.2554 ซึ่งกรุงเทพฯกำลังอยู่ในภาวะน้ำท่วม ทำให้กทม.ไม่สามารถก่อสร้างสนามได้ อีกทั้งกทม.ต้องไปช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมก่อน แต่เมื่อน้ำลดกทม.ก็พยายามหาผู้รับเหมาในการก่อสร้างสนามซึ่งหายากมาก ที่สุดก็ได้บริษัท อีเอ็มซี จำกัด(มหาชน) มาลงนามการก่อสร้าง ก่อนมีการวางศิลาฤกษ์วันที่ 24 ม.ค.2555

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า สนามแห่งนี้ใหญ่มากมีพื้นที่ 10 ไร่ มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 3 หมื่นตารางเมตร ซึ่งปกติกำหนดการก่อสร้างใช้เวลา 560 วัน แต่กทม.ต้องการให้สนามแห่งนี้สร้างเสร็จใช้งานได้ในเวลา 270 วัน โดยตามสัญญาการก่อสร้างจะต้องเสร็จในเดือนเม.ย.2556 แต่เมื่อกทม.ต้องสร้างสนามในเวลา 270 วันต้องก็ต้องทำให้สนามใช้ได้ และมีความปลอดภัย แต่ที่สุดแล้วกทม.ใช้เวลาก่อสร้าง 286 วัน ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเที่ยงคืนของวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งกำหนดเดิมจะส่งมอบสนามให้ฟีฟ่าวันที่ 21 ต.ค. แต่การก่อสร้างก็ล่าช้าไป 16 วัน ซึ่ง 16 วันในการสร้างอาคารหรือบ้านเกือบไม่มีความหมาย แต่ที่นี้เป็นสนามใหญ่มากการก่อสร้างล่าช้า 16 วันตนถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วก็ไม่สวยงามเท่าไหร่ ส่วนเรื่องห้องรับแขกของฟีฟ่าที่ยังไม่เสร็จก็อาจ้ป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฟีฟ่าไม่สบายใจ เพราะฟีฟ่าได้เชิญแขกวีไอพีมาเกือบ 300 คน แต่ตนยืนยันจะทำให้ห้องรับแขกแล้วเสร็จภายในเที่ยงคืนวันที่ 7-8 พ.ย.นี้ ทั้งนี้ ยอมรับว่าการก่อสร้างล่าช้า แต่ไม่ได้ล่าช้าโดยไม่มีเหตุผล หรือล่าช้าจนไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ แต่บางอย่างกทม.ดำเนินการเร็วกว่ากำหนด ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องการสั่งซื้อสนามที่ล่าช้าอยู่ในประเทศจีน แต่หวังว่าความล่าช้าครั้งนี้ฟีฟ่าจะมีจิตใจเอื้ออาทร ก็คงเข้าใจกันได้ แต่ตนก็ไม่ติดใจ เพราะเข้าใจว่าเป็นคนละวัฒนธรรม และสุดท้ายกทม.ก็ได้สนาม

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่างอีกว่า 2.เรื่องความปลอดภัย กทม.ได้ทำหนังสือรับรองความปลอดภัยของสนาม 2 ฉบับจากวิศวรกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ไปยังฟีฟ่าซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ ขณะที่การอพยพ การหนีไฟ กทม.ก็ร่วมมือกับฟีฟ่ามาตลอด ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 พ.ย. หรือ 1 วันก่อนประกาศว่าไม่ใช้สนามแห่งนี้ ฟีฟ่าได้ขอให้กทม.เพิ่มเติมงาน 4 รายการ เพื่อให้ได้มาตราฐานความปลอดภัยของฟีฟ่า แต่กทม.ก็สามารถดำเนินการเสร็จในช่วงเช้าวันที่ 6 พ.ย. ถึงแม้ฟีฟ่าจะหงุดหงิดเรื่องความล่าช้าการก่อสร้าง แต่งานที่เพิ่มเติมกทม.ก็ดำเนินการให้แล้วเสร็จจนได้ ซึ่งเรื่องความปลอดภัยก็เป็นประเด็นหลักของฟีฟ่า อย่างไรก็ตาม ที่ตนถูกเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ก็ไม่เป็นไรเพราะรู้แล้วว่าโดน แต่ส่วนหนึ่งเหมือนโดนหมัดฟีฟ่าเหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังน็อคตนไม่ลง ตนยังอยู่ คนคอใหญ่น็อคยาก และตนไม่ทราบว่าหมัดนี้มาจากไหน หรืออาจมีความกังวลจากฟีฟ่าจริงๆก็ได้ ซึ่งที่ผ่านมากทม.พยายามร่วมมือกับฟีฟ่ามาตลอด เมื่อพื้นสนามแข่งหาย กทม.ก็หาพื้นสนามแข่งจากประเทศอื่นแทน อาทิ จากไต้หวัน อิตาลี อีก 2 สนาม ที่สุดแล้วก็นำไปติดตั้งสนามแห่งอื่นแทน ทั้งนี้ ในวันที่ 10 พ.ย.นี้จะมีการจัดคอนเสิร์ตและการแข่งขันฟุตซอลนัดอุ่นเครื่องเพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของสนามด้วย

"เราจะทำสนามนี้ให้เสร็จ โดยเฉพาะห้องรับแขกของฟีฟ่า อาคารจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนเม.ย.ปีหน้าตามสัญญา ผมต้องขอโทษประชาชนที่ฟีฟ่าไม่เลือกสนามนี้ แต่ผมทำงานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว การก่อสร้างใน 286 วันถือว่ามหัศจรรย์มาก แต่ถ้าประชาชนมองว่าล้มเหลว ผมก็น้อมรับ แต่ขอให้คำตัดสินมาในการเลือกตังผู้ว่าฯกทม.ครั้งต่อไป ผมไม่ลาออกครับ แต่ถ้ามีการวิจารณ์กันขออย่าวิจารณ์องค์กรกทม. เพราะองค์กร และลูกน้องผมไม่มีความผิด ขอให้วิจารณ์ผมเพียงคนเดียว ผมไม่เคยคิดว่าจะสร้างสนามให้ฟีฟ่า แต่สร้างให้คนกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะถูกวิจารณ์อย่างไรความจริงที่ปฎิเสธไม่ได้ว่ากทม.มีสนามที่ยิ่งใหญ่ 1 ใน 5 ในเอเชีย"ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...