ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาโรคจิต ฆ่าข่มขืน นักศึกษา ป.โท หมกคาบ้านพัก ทำแผน ประชาชนฮือรุมประชาทัณฑ์ สารภาพแบบไม่สะทกสะท้าน เอามือถือผู้ตายถ่ายคลิปตัวเองในช่วงข่มขืนศพ หลังก่อเหตุอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุถึง 8 ชั่วโมง ก่อนหลบหนีออกจากบ้านผู้ตาย

จากกรณี เกิดเหตุฆ่าข่มขืน น.ส.ปรัชญาภรณ์ นักศึกษา ป.โท วัย 28 ปี ที่บ้านพักใน ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่จับตัวผู้ต้องหาไว้ได้คือ นายณฐกร ธิปัญญา อายุ 34 ปี อาชีพรับจ้างขับรถส่งของ สารภาพว่า เป็นผู้ลงมือฆ่าข่มขืนผู้ตาย เนื่องจากแอบชอบผู้ตายมานานแล้ว ก่อนหน้านี้เคยขโมยชุดชั้นในของผู้ตายไปจำนวนมาก ช่วงเกิดเหตุเห็นผู้ตายอยู่เพียงลำพัง จึงแอบงัดกระจกบานเกล็ดช่องลมห้องน้ำบ้านผู้ตายเข้าไปลงมือข่มขืน แต่ผู้ตายกรีดร้องเสียงดังจึงจับศีรษะกดลงกับที่นอนจนแน่นิ่งไป ก่อนลักทรัพย์สินภายในบ้านไปขาย ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 พ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่ สภ.แม่ปิง มีการแถลงข่าวจับกุมตัว นายณฐกร ธิปัญญา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้ต้องหาทำการขอขมารูปผู้ตาย จากนั้นก็ได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดที่เกิดเหตุ

โดยในที่เกิดเหตุนั้น มีประชาชนและญาติพี่น้องได้มารอดูการทำแผนกันจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ มาคุ้มกันดูแลความสงบเรียบร้อยในจุดที่จะทำแผน ทั้งนี้ ผู้ต้องหาได้รับสารภาพเพิ่มเติมว่า วันเกิดเหตุเห็นผู้ตายกลับมาบ้านคนเดียว กระทั่งประมาณตี 4 ของวัน 4 พ.ย. จึงได้แอบเข้าไปในบ้านของผู้ตายและได้แอบดูเห็นผู้ตายเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปอาบน้ำ ตนรอจนกระทั่งผู้ตายเข้านอน จึงได้งัดเหล็กดัดและปีนขึ้นทางหน้าต่าง จากนั้นก็ได้ปีนขึ้นไปบนฝาเพดานทางห้องน้ำและเข้าไปในห้องของผู้ตายเพื่อหวังข่มขืน

แต่ผู้ตายตกใจตื่นและเกิดการต่อสู้กัน ตนได้จับผู้ตายกดลงที่นอนจนแน่นิ่ง ตอนแรกคิดว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว จึงได้ปล่อย ซึ่งผู้ตายตอนแรกทำทีเป็นเสียชีวิต เมื่อตนปล่อยมือ ผู้ตายก็ตระโกนร้องให้คนช่วย ตนจึงได้ตัดสินใจเข้าไปกดศีรษะต่อจนเสียชีวิต จึงได้ใช้สายหนังกระเป๋ามัดมือและอุ้มศพผู้ตายมาที่ห้องโถง ทำการข่มขืนศพจนสำเร็จความใคร่ และใช้มือถือของผู้ตายถ่ายภาพช่วงกำลังข่มขืนศพไว้ด้วย

หลังจากเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้วก็ได้อยู่ภายในบ้านผู้ตายจนกระทังเที่ยงวัน จึงได้ออกมา สาเหตุที่อยู่ในบ้านที่เกิดเหตุนานเพราะกลัวคนเห็น หลังจากนั้นก็ได้นำโทรศัพท์และโน้ตบุ๊คของผู้ตายไปขายที่ย่าน ถ.ทุ่งโฮเต็ล อ.เมืองเชียงใหม่ และกลับมายังที่พัก ที่หมู่บ้านรวมโชค หลังบ้านของผู้ตาย กระทั่งต่อมามีตำรวจมายังบ้านขณะที่ตนกำลังล้างรถจักรยานยนต์อยู่ และถูกจับกุมในที่สุด ต

ด้าน พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภาค 5 ได้เปิดเผยว่า คดีนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ และฝากเตือนไปยังประชาชนให้ทราบว่า หากท่านเกิดมีคนร้ายมาขโมยเสื้อชั้นในกางเกงในไป ขออย่าได้อาย ให้มาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เพราะจากเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องการก่อคดีใหญ่ตามมา เราต้องป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ

สำหรับผู้ต้องหารายนี้ เคยมีประวัติเรื่องของยาเสพติดมาก่อน กระทั่งมาก่อคดีสะเทือนขวัญดังกล่าว และยังมีการนำมือถือของผู้ตายมาถ่ายคลิปตอนช่วงข่มขืนศพ ด้วย ถือว่าเป็นคนร้ายโรคจิตที่อันตรายอย่างยิ่ง ตอนที่ตำรวจไปจับกุมตัว ผู้ต้องหามีรอยข่วนเต็มหน้าและเต็มตัว ผู้ต้องหาอ้างว่า รถจักรยานยนต์แฉลบ และนิ่งมาก ไม่สะทกสะท้านกับคดีที่ตนก่อขึ้นเลย