1. ซุปรังนก - ประเทศจีน
สำหรับคนเอเชียอย่างเรา การทานรังนกคงเป็นเรื่องธรรมดา แต่พวกฝรั่งตาน้ำข้าว หรือคนต่างชาติ เค้าดันรู้สึกว่ามันแปลก และถือว่ารังนักเป็นอาหารที่แปลกประหลาดสุดๆ กับการกินน้ำลายของนกเข้าไปได้ยังไง
ซึ่งรังนกแท้ๆที่ได้มาจากน้ำลายของนกนางแอ่น ที่สำรอกออกมาแล้วจับตัวแข็งเป็นรูปร่างคล้ายรังนกนั่นเอง และรังนกยังเป็นอาหารชั้นเลิศของหลายประเทศในแถบเอเชีย แถมมีราคาแพงอีกมากๆ อาหารเมนูพิสดารนี้เลยอดทำให้พวกฝรั่งเค้าแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมคนเอเชียถึง ชอบกินนำลายของนกจัง
2. ตัวบึ้งทอด - ประเทศกัมพูชา
นั่นโดนจนได้ "ตัวบึ้ง" หรือแมงมุมยักษ์ (Fried tarantulas) ที่เคยเป็นข่าวในบ้านเราว่าต่อยคนตาย แต่ที่เขมร "ตัวบึ้ง" ถูกจับตายให้กลายเป็นอาหาร [แบบว่า..อวัยวะทุกส่วนอยู่ครบ ไม่เว้นเขี้ยว ขา และขน] ที่มีให้เลือกทั้งแบบย่าง อบ ทอด เมนูยอดนิยมของคนเขมร (กัมพูชา) เค้า เต็มทั่วท้องถนนในเมืองสะกุน จ.จำปงจาม ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิมกัน
3. ปลาปักเป้า - ประเทศญี่ปุ่น
"ฟุกุ" หรือเป็นที่รู้กันว่า "ปลาปักเป้า" (Puffer fish) เป็นปลาอีกชนิดหนึ่งที่มีพิษร้ายแรง สารพิษที่ว่านี้คือ เตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) ซึ่งมีอันตรายร้ายแรงกว่าไซยาไนด์ถึง 1,250 เท่าอยู่ในตัว โดยเฉพาะบริเวณหนัง ไข่ เนื้อ ตับ และลำไส้ หากได้รับพิษจากการทานปลาชนิดนี้เพียงเล็กน้อยก็ถึงแก่ความตายได้
แต่เมนูจากปลาชนิดนี้เป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ ประเทศญี่ปุ่นจึงออกกฏหมายให้ เฉพาะพ่อครัวที่มีใบอนุญาตเท่านั้น ที่สามารถชำแหละเนื้อปลาปักเป้าเพื่อนำมาทำเป็นอาหารได้
4. ไข่บาลุต - ประเทศฟิลิปปินส์
ไข่บาลุต (Balut) คือ ไข่ต้มที่มีตัวอ่อนของเป็ด หรือไก่ ตายอยู่ภายใน สามารถหาทานได้ทั่วไปตามข้างทาง เมนูแบบนี้บ้านเราเองก็มีขายนะ แต่เป็นแบบปิ้ง เห็นเค้าเรียกกันว่า "ไข่ข้าว" เคยเห็นเค้านำไข่เสียบไม้ปิ้ง แล้วเดินหาบขายกันตามท้องถนน
5. คาสุ มาร์ซู - เกาะซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี
คาสุ มาร์ซู (Casu Marzu) หมายถึง "ชีสเน่า" หรือที่ชาวซาร์ดิเนียนเรียกว่า "ชีสหนอน" นั่นเอง คือ ชีสนมแกะที่ภายในมีรูพรุน อันอุดมไปด้วย "หนอนแมลงวัน" ปัจจุบันชีสชนิดนี้ ทางอียูจะกำหนดให้เป็นอาหารที่ผิดกฏหมาย และผิดหลักโภชนาการอย่างแรง แต่ก็ยังคงมีขาย และหาซื้อรับประทานได้จากตลาดมืด
"คาสุ มาร์ซู" ภายในชีสจะมีหนอนตัวขาวใส ความยาวประมาณ 8 ม.ม. ดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก แถมยังกระโดดได้อีกด้วย หากใครเอามือไปโดน หรือเอาอะไรเขี่ยหนอนที่อยู่ในชีส พวกมันจะกระโดดใส่ทันที (ดีดตัวได้สูงถึง 15 ซ.ม. เชียว) ซึ่งหนอนเหล่านี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเร่งกระบวนการหมักให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และทำให้ไขมันแตกตัว
ว่ากันว่าชีสชนิดนี้มีความอ่อนนุ่มมาก เนื่องจากมีของเหลวแทรกซึมอยู่ในเนื้อชีส แต่จะต้องรีบทานในขณะที่หนอนยังมีชีวิตอยู่ [ยี้...!] เพราะถ้ารอให้หนอนตายก่อน ชีสก้อนนั้นจะถือว่าเป็นอาหารมีพิษทันที
6. เซอร์สตอร์มมิง - สวีเดน
อีกหนึ่งใน 10 ของอาหารแปลก ต้องยกให้จานนี้ แถมยังมีวางขายทั่วไปในซูเปอร์มาร์เก็ตของสวีเดน นั่นคือเจ้า “เซอร์สตอร์มมิง” หรือ “ปลาเฮอร์ริงเน่า” [อี๋เหม็น] ขนาดปลาร้าบ้านเราที่ว่าแน่ๆ กลิ่นแรงๆ เจอเจ้านี่ทีชิดช้ายไปเลย ก็แน่ละดันเป็น "ปลาเน่า" มักนานเกือบปี
7. ปลาหมึกเป็นๆ - เกาหลีใต้
เมนูนี้มีชื่อว่า "Sannakji" กับการเสิร์ฟปลาหมึกสดเป็นๆที่หั่นเป็นชิ้นๆ ที่ราดด้วยน้ำมันงา ดูแล้วก็น่าลิ้มลองดี แถมยังต้องใช้ความพยายามในการกินอีกด้วย กับการต่อสู่กับหนวดปลาหมึกที่ยังคงดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่
ฉะนั้นหากใครอยากลองเมนูนี้จึงต้องใช้ความไวของฟัน และอดทนสูง ในการต่อสู่ฟาดฟันกับปลาหมึก ซึ่งอาจจะดูดติดฟัน เพดานปาก และลิ้นของเรา แถมยังดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาเวลาเวลาเคี้ยว จึงต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนลงคอ เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย
8. กาแฟ Kopi Luwak - อินโดนีเซีย
หากไปได้ใครประเทศอินโดนีเซีย คงต้องไปลิ้มลองขอชิมกาแฟชนิดนี้ เพราะกาแฟ "Kopi Luwak" นั้นเรียกได้ว่าเป็นกาแฟที่หายากและมีราคา "แพงที่สุดในโลก" มาแล้วครั้งหนึ่ง
สำหรับเมล็ดกาแฟที่ว่านี้ ได้มาจากมูล (อึ) ของตัวชะมด ซึ่งชาวอินโดฯ เรียกว่า Luwak สัตว์ชนิดนี้จะกินผลกาแฟสดเข้าไป แล้วขับถ่ายเมล็ดกาแฟออกมา กล่าวกันว่าเมล็ดกาแฟที่ผ่านกระบวนการนี้จะมีกลิ่นหอม และรสชาติดีเป็นพิเศษ
9. หัวใจสดๆ ของนกพัฟฟิน - ไอซ์แลนด์
เมนูนี้ช่างโหดร้ายมาก กับการเปิบพิสดารนกพัฟฟิน (Puffin) ที่ถือได้ว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ แต่สำหรับคนไอซ์แลนด์การจับนกพัฟฟินหักคอ ถลกหนัง ควักหัวใจสดๆมาจกทานกัน ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนเนื้อจะถูกนำไปรมควัน ย่าง ทอด หรือกลายเป็นเมนูอันโอชะตามภัตตาคารหรูต่างๆ
ปัจจุบันนี้ประชากรนกพัฟฟินกำลังลดลงอย่างมาก ด้วยการไล่ล่าของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับด้วยวิธี "สกาย ฟิชชิ่ง" หรือใช้ตาข่ายขนาดใหญ่ดักจับนก ยิ่งทำให้ลดลงอย่างรวดเร็ว
10. เหล้าดองงู - เวียดนาม
เหล้าดองงู ยาโด้ป! ชั้นเลิศของคนเวียดนาม กับการจับงูดองแช่ลงในขวดเหล่า แม้ว่างูนั่นจะมีพิษก็ตาม แต่คนท้องถื่นเค้าว่า... หากงูถูกแช่เหล่าเป็นเวลานานๆ เหล่าจะทำให้พิษค่อยๆเจือจาง และถูกทำลายไปในที่สุด จึงสามารถดื่มได้โดยไม่เป็นอันตราย