โชว์หลักฐาน"หัวกระสุน"

ศาลไต่สวนคดีชันสูตรศพ "อีซา" ด.ช.กำพร้าวัย 14 ปี เหยื่อปืนพ.ค.53 จนท.หน่วยแพทย์ พยานเบิกความยันไม่มีชายชุดดำตรงจุดเกิดเหตุ เห็นแต่เจ้าหน้าที่ถือปืนอยู่ 2 ข้างทาง เห็นเด็กน้อยถูกยิงไส้ทะลัก จึงนำส่งร.พ.แต่เสียชีวิตระหว่างทาง ส่วนแพทย์ผู้ชันสูตรศพ ระบุถูกยิงด้วยกระสุนความเร็วสูง จากปืนสงคราม ขณะที่ทนายเตรียมนำสำนวนคดี "พัน คำกอง" มาประกอบ ชี้เป็นพยานชุดเดียวกัน ให้คดีรวดเร็วขึ้น ด้านนักข่าวเนเธอร์แลนด์ให้การดีเอสไออีกรอบ นำหัวกระสุนเอ็ม 16 ที่ผ่าออกจากร่าง และคลิปนาทีหมอผ่าตัด มามอบให้เป็นหลักฐานด้วย



เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ศาลอาญา ศาลนัดไต่สวนคำร้องชันสูตรศพ คดีหมายเลขดำ อช.3/2555 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตของ ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรืออีซา ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าโรงภาพยนตร์โอเอ ซอยรางน้ำ ย่านราชปรารภ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2553 ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) 



โดยอัยการผู้ร้องนำตัวนายสมศักดิ์ วันแอเลาะห์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง องค์กรสงเคราะห์มุสลิมนานาชาติ ขึ้นเบิกความโดยสรุปว่า ด.ช.คุณากร เป็นเด็กกำพร้าในความสงเคราะห์ขององค์กร ศึกษาอยู่ชั้นป.4 โรงเรียนวิจิตรวิทยา เป็นคนสมาธิสั้น ชอบเล่น และจะชอบหลบหนีออกจากสถานสงเคราะห์ไปเที่ยวเล่นบ่อยครั้ง โดยวันเกิดเหตุมีคนมาแจ้งให้ทราบว่า พบ ด.ช.คุณากรไปเที่ยวเล่นแถวพื้นที่การชุมนุม ทั้งที่ไม่ได้รู้เรื่องการเมืองเลย คิดว่าคงอยากรู้อยากเห็นตามปกติของเด็ก และหลังจากเกิดเหตุประมาณ 1 เดือน คือเดือนมิ.ย. มีคนโทรศัพท์มาแจ้งว่า ด.ช.คุณากร ถูกยิงเสียชีวิต ศพถูกส่งไปยังสุสานศพไร้ญาติ จ.ชลบุรี จึงเดินทางไปรับศพมาประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม 



ต่อมา นายสมเจตร์ ศาลาวงศ์ อาสาสมัครหน่วยแพทย์วชิรพยาบาล เบิกความว่า ช่วงเจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มนปช. ตนและเพื่อนอาสาสมัครตระเวนช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่แถวบ่อนไก่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และราชปรารภ โดยวันที่ 15 พ.ค.2553 จอดรถกู้ชีพอยู่บริเวณลานจอดรถของอาบอบนวดเจ-วัน ถนนศรีอยุธยา ติดกับ ร.พ.พญาไท 1 ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืน และระเบิดดังมาจากประตูน้ำเป็นระยะๆ กระทั่งได้รับแจ้งจากวิทยุสื่อสารว่ามีคนเจ็บบริเวณสถานีรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ ขณะนั้นอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเพียง 200-300 เมตร เมื่อได้รับแจ้งก็เตรียมพร้อม แต่ยังไม่สามารถเข้าไปได้ทันที เพราะมีรั้วลวดหนามของทหารกั้นอยู่บริเวณแยกจตุรทิศ 



นายสมเจตร์เบิกความต่อว่า ผ่านไป 30 นาที ทหารที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเห็นว่ามีรถพยาบาล จึงวิทยุไปบอกทหารที่อยู่ในพื้นที่ที่มีคนเจ็บ ว่าจะนำรถพยาบาลของตนเข้าไป จึงขับรถเข้าไปโดยมีทหารขับขี่รถจักรยานยนต์นำทาง ระหว่างทางจะเห็นทหารถืออาวุธอยู่ 2 ข้างทาง แต่ไม่พบว่ามีชายชุดดำในจุดดังกล่าว เมื่อไปถึงข้างบันไดเลื่อนแอร์พอร์ตลิงก์ พยาบาลทหาร 5-6 นาย ไม่ได้ถืออาวุธ และพบ ด.ช.คุณากรอยู่ในเปลพยาบาลทหารข้างรถทหาร ได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ยังไม่เสียชีวิต แต่สภาพที่เห็นคือมีไส้ทะลักออกมาเพราะถูกยิง แต่ไม่ทราบว่าใครยิง จึงรีบนำตัวส่ง ร.พ.พญาไท แต่เสียชีวิตระหว่างนำส่ง 



จากนั้นอัยการผู้ร้องนำตัวพล.อ.ต.นพ.วิชาญ เปรี้ยวนิ่ม ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ร.พ.รามาธิบดี ขึ้นเบิกความว่า เป็นแพทย์ผู้ชันสูตรศพด.ช.คุณากร โดยเวลา 03.30 น. วันที่ 15 พ.ค.2553 พนักงานสอบสวน สน.พญาไท นำศพมาส่งชันสูตร สภาพศพภายนอกมีบาดแผลถูกยิงเข้าบริเวณด้านหลังข้างขวาช่วงล่าง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5 ซ.ม. ในระดับต่ำกว่ายอดศีรษะ 60 ซ.ม. กระสุนเข้าด้านหลังขวาทะลุผ่านเข้าช่องท้องมาด้านหน้า มีลำไส้จำนวนมากทะลักที่ปากแผล 



พล.อ.ต.นพ.วิชาญ เบิกความต่อว่า นอกจากนี้ ยังพบเศษโลหะเล็กๆ กระจายตามแนวกระสุนผ่าน เลือดออกภายในช่องท้อง 800 ม.ล. ลำไส้เล็กฉีกขาดหลายแห่ง เศษโลหะที่กระจายตามแนวบาดแผลนั้น สันนิษฐานได้ว่าเป็นเศษโลหะจากกระสุนปืนที่มีความเร็วสูง อาจเป็นปืนที่ใช้ในสงคราม เช่น อาก้า เอ็ม 16 เพราะดูจากเศษโลหะ และแนวเข้าออกของกระสุน สรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้ว่า เกิดจากการถูกยิงด้วยกระสุนความเร็วสูงเข้าที่ท้อง ทำให้ลำไส้ทะลุ



ภายหลังการไต่สวน นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความกล่าวว่า จากการเบิกความของพยานพบว่าผู้ตายแค่ไปเที่ยวเล่น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุม แต่ก็ถูกยิงเสียชีวิต เด็กเป็นผู้ไม่รู้เรื่อง จึงแสดงให้เห็นว่าการปฏิบัติไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง รวมถึงการบังคับใช้กฎหมาย และใช้อาวุธไม่ถูกต้อง ทำให้เสียหาย ดังนั้น ฝ่ายรัฐต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก เพราะการสั่งใช้อาวุธสงคราม ต้องระวังให้อยู่ในการควบคุมได้ด้วย สำหรับการไต่สวนครั้งต่อไป จะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ย. และวันที่ 26 พ.ย. และอาจนำสำนวนของนายพัน คำกอง คนขับรถแท็กซี่ที่ถูกยิงเสียชีวิต ในเหตุการณ์วันที่ 15 พ.ค.2553 มาประกอบด้วย เพื่อให้รวดเร็วขึ้น เนื่องจากเป็นพยานชุดเดียวกัน



ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายมิเชล มาสส์ ผู้สื่อข่าวชาวเนเธอร์เเลนด์ สังกัดวิทยุเนเธอร์แลนด์ เรดิโอ เวิลด์ไวด์ และหนังสือพิมพ์โฟล์กส์แรนต์ เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ในคดีนายฟาบิโอ โปเลงกี นักข่าวชาวอิตาลี ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณถนนราชดำริ ในเหตุสลายการชุมนุมของม็อบเสื้อเเดง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 นอกจากนี้ นายมิเชล ยังนำหลักฐานหัวกระสุนปืนเอ็ม 16 หัวทองแดง ในสภาพสมบูรณ์ ที่ผ่าออกมาจากหัวไหล่ของตนเอง แล้วนำไปทำเป็นพวงกุญแจเป็นที่ระลึก มามอบให้พนักงานสอบสวนด้วย 



ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวชาวเนเธอร์แลนด์ ยังมอบคลิปวิดีโอขณะที่แพทย์ ร.พ.สมิติเวช ผ่าหัวกระสุนออก และคลิปวิดีโอเหตุการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดง เมื่อเดือนพ.ค.2553 ที่ตนเองถ่ายบันทึกไว้ให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอด้วย โดยพ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผบ.สำนักคดีการเงินการธนาคาร ดีเอสไอ เป็นผู้รับมอบหลักฐาน ระบุว่าจะส่งหัวกระสุนให้ผู้เชี่ยวชาญด้านกระสุนปืนตรวจสอบ ว่าสามารถใช้กับอาวุธปืนชนิดใดได้บ้าง



ส่วนกรณีนางดารุณี กฤตบุญญาลัย อายุ 63 ปี ไฮโซนักธุรกิจชื่อดัง และแนวร่วมนปช. เข้าแจ้งความกองปราบปราม ว่าถูก น.ส.มนัสนันท์ หนูคำ อายุ 31 ปี อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ยืนด่ากลางห้างสยามพารากอน ในทำนองว่าไม่จงรักภักดี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ก.ย. พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกตัว น.ส. มนัสนันท์ให้มารับทราบข้อกล่าวหาที่กองปราบฯ แต่เจ้าตัวไม่มา ก่อนสถานการณ์บานปลายจนเกิดการกระทบกระทั่งระหว่างม็อบเสื้อเหลือง เสื้อหลากสี ที่มาให้กำลังใจน.ส.มนัสนันท์ กับม็อบเสื้อแดง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย 



ล่าสุด พ.ต.ท.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ พงส. (สบ 3) กก.1ป.กล่าวว่า กำหนดเดิมทางพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้ น.ส.มนัสนันท์มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 29 ต.ค.นี้ แต่เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา บช.ก.ทำเรื่องขออนุมัติเข้าไปสอบสวน และความเห็นว่าสมควรจะโอนคดีไปให้ บช.น. เพราะเป็นเจ้าของพื้นที่ กองปราบฯ จึงโอนคดีไปให้แล้ว 



ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับเหตุผลที่ บช.ก. ไม่อนุมัติให้พนักงานสอบสวนกองปราบฯ เข้าไปทำคดีนั้น เนื่องจากเห็นว่าถึงแม้จะเป็นคดีที่เกี่ยวกับชื่อเสียง มีโทษทางอาญา และอยู่ในอำนาจการสอบสวนของกองปราบฯ ก็ตาม แต่ก็เห็นว่าเป็นคดีที่ไม่มีความยุ่งยากสลับซับซ้อน ถึงจะเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนก็ตาม อีกทั้งทราบตัวผู้ต้องหาแล้ว จึงมีความเห็นว่าสมควรจะโอนคดีไปให้ บช.น.เจ้าของท้องที่เกิดเหตุไปดำเนินการเอง ก็คือ สน.ปทุมวัน

30 ต.ค. 55 เวลา 10:26 5,580 4 50
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...