Exclusive ลึกหมดใจ…เจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล ผู้หญิงทั้ง 5 และลูกที่พบหน้ากันครั้งแรก

 

(บทความจากนิตยสาร who? เผยแพร่ช่วงหลังจากที่เจ้าสัวบุญชัยมีข่าวเลิกรากับ “แก้ว”เบญจวรรณ ภรรยาคนที่ 5)
ที่มา http://www.whoweeklymagazine.com


เจ้าสัวใหญ่อดีตผู้บริหารดีแทค เผยครั้งพิเศษระหว่างรอง้อ “รัก”ให้หวนคืนขอทำหน้าที่ “พ่อ”พร้อมเปิดตัวลูกจากทุกภรรยา พินัยกรรมของพี่น้องที่เพิ่งพบหน้ากัน และเส้นทางสายสร้างสรรค์ “การใหญ่”ในวันหน้า

ครั้งที่ลูกสาวคนสวย น้องเพชร-บุญญาภาณิ์ เบญจรงคกุล เปิดเผยความสัมพันธ์กับพระเอกหนุ่ม ชาคริต แย้มนาม ด้วยภาพที่มีคุณพ่อ เจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล ร่วมซีน หลากหลายเสียงแสดงความยินดีที่รักของ “หนุ่มคริต”ผ่านไฟเขียวจากว่าที่พ่อตา ขณะที่บางเสียงอาจจะกังขาว่า ครอบครัวนักธุรกิจใหญ่อย่างเจ้าสัวบุญชัยจะเข้าใจรักของพระเอกหนุ่มและสาวสวยไฮโซไหม
ความมากระจ่างเมื่อ“โสมชบา”คอลัมนิสต์ข่าวสังคมชื่อดังไทยรัฐ เผยความรักของผู้พ่อ ก็ไม่หนีสาวสวยจากวงการบันเทิง ด้วยเรื่องราวระหว่างเจ้าสัวบุญชัย และสาวสวยนาม “แก้ว”เบญจวรรณ ภูษณะพงษ์ หรือชื่อปัจจุบัน เบญจา บารมีย์ อดีตนางเอกสาวเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่ข่าวว่ารักระหว่างเธอและเจ้าสัว ก่อตัวตั้งแต่คุณแม่ของลูก วรรณา เบญจรงคกุล(ขณะนั้น) ยังมีชื่อร่วมในทะเบียนสมรส 
ต่อเมื่อเจ้าสัวบุญชัยกลับมาดำรงสถานภาพโสดอีกครั้ง เส้นทางรักซึ่งน่าจะราบรื่นดูเหมือนจะสายเกินการ ด้วยหัวใจของสาวที่หมายมั่นปั้นมือ ทำท่าจะหลุดลอยเสียแล้ว เธอ...คนล่าสุด “แก้ว”ขอไปมีชีวิตของตัวเอง ทิ้งเรื่องราวในอดีตไว้เบื้องหลัง ทั้งทรัพย์สินเงินทอง คฤหาสน์หรูในพื้นที่หลายไร่ ซูเปอร์คาร์คันงาม และ “หัวใจรัก”ของชายผู้นี้ ที่หวังถึงขั้น...“จะแก่ไปด้วยกันในวันข้างหน้า”

ระหว่างเผยความรู้สึก แม้จะนิ่งอั้นและหน่วยตารื้นอยู่หลายคราว แต่ทุกประโยคล้วนบ่งบอกถึงรักที่มั่นคง และหัวใจโรแมนติก ที่ยากจะคาดคิดว่ามาจากนักธุรกิจใหญ่ ชนิดที่ผู้ฟังพลอยสะทกสะเทือนไปด้วย

 

.... วันที่นัดพบ WhO? ณ อาคารเบญจจินดา ซึ่งเป็นที่มั่นใหม่ของตระกูล “เบญจรงคกุล”หลังอำลามือถือค่ายดีแทค และหันมาทุ่มเทกับมูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิด พิพิธภัณฑ์ศิลปะ กระทั่งข่าวว่าสยายปีกเข้าสู่ “สื่อ”เชิงสร้างสรรค์ คุณบุญชัยก็เซอร์ไพรส์อีกคราวใหญ่ เมื่อเผยถึงลูกๆทั้ง 5 จากภรรยา 3 คน ส่วนอีก 2 ดาราสาวสวย แม้ไม่มีพยานรักต่อกัน แต่หัวใจเขายังร้าว...จนวันนี้ ร้าวด้วยข่าวว่า สาวที่ครองคู่มานานร่วม 10 ปี “ย้ายออก”และหันไปคบหากับดาราหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน เต๊ะ-ศตวรรษ เศรษฐกรโดยเปิดเผย ถึงขนาดสามารถเข้านอกออกในบ้านแถมยังให้รถคันหรูที่เจ้าสัวซื้อให้ไปขับอีกต่างหาก ทั้งยังตอกย้ำด้วยภาพปาปาราซซีจากนิตยสารกอสซิปสตาร์ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งปรากฏภาพของคุณแก้วรับประทานอาหารพร้อมหน้าครอบครัวของฝ่ายชายเต๊ะ-ศตวรรษณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งว่ากันว่าภาพดังกล่าวทำให้เจ้าสัวบุญชัยเครียดหนัก!!

เจ้าสัวมากเสน่ห์และรักทั้ง5ผ่านความรักฉันสามี-ภรรยามาถึง 5 ครั้งย่อมเป็นเครื่องพิสูจน์เสน่ห์ของผู้ชายคนนี้ได้เป็นอย่างดีแต่ณวันนี้เขาอยากประกาศให้โลกรู้ว่าลูกทั้ง5 คนต่างหากที่จะอยู่เคียงข้างเขา ส่วนภรรยาที่ผ่านมาทั้ง 5 คนน่ะหรือบัดนี้ได้ผ่านไปกลายเป็นอดีตเสียสิ้นโดยเฉพาะรายล่าสุดเบญจาบารมีย์หรือคุณแก้วที่เพิ่งสวมคอนเวิร์สกันไปไม่นานได้ชื่อว่าสร้างความร้าวรานแก่เจ้าสัวบุญชัยมากที่สุดหลังจากตามงอนง้อขอคืนดีอย่างไรฝ่ายหญิงก็ไม่ยอมใจอ่อนจนที่สุดเวลา10 ปีที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขแทบไร้ความหมาย “ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เท่าไหร่เข้าใจทุกคนที่ไปจากผมต่างคนต่างก็มีเหตุผลของเขาถามว่าเสียใจไหมแต่ละครั้งเสียใจแต่ก็เข้าใจ”ประโยคสั้นๆที่เจ้าสัวกล่าวถึงความปวดร้าวจากชีวิตคู่

 

เบญจา บารมีย์ภรรยา...คนล่าสุด เพื่อนของภรรยาเก่า และเพราะปรากฏชื่อของฝ่ายหญิงบนพื้นที่ข่าวอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาหลายคนจึงอยากรู้ว่าสุภาพสตรีที่ทำให้คุณบุญชัยปวดร้าวจนน้ำตาซึมยามเอ่ยถึง...เธอคือใคร คุณแก้วมีชื่อเดิมว่าเบญจวรรณ ภูษณะพงษ์ เคยเป็นดาราภาพยนตร์ในช่วงปี 2525-2527 ฝากผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่่อง “เปรียว” คู่กับวิชชุ วัชรพันธ์ (วสุ แสงสิงแก้ว) ปี 2527 และเรื่อง“หัวใจทะลุดิน” แสดงร่วมกับทูน หิรัญทรัพย์,ทวนธน คำมีศรี,พอเจตน์ แก่นเพชร กำกับการแสดงโดยเชาว์ มีคุณสุต เรื่อง“แพแตก” ของเชาว์ มีคุณสุต แสดงร่วมกับสายัณห์ สัญญา, พิศมัย วิไลศักดิ์ และเรื่อง“คุณรักผมไหม” เหล่านี้คือข้อมูลเท่าที่พอจะหาได้จากอินเทอร์เน็ต หากเมื่อถามจากเจ้าสัว แม้จะอึกอักอยู่บ้างกับคำถามดังกล่าว แต่ก็พอจะเรียบเรียงความสัมพันธ์ในอดีตให้ฟังได้ว่า คุณเบญจาเป็น “ภรรยา” อีกคนหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตหากแต่ไม่มีบุตรด้วยกัน “พูดอย่างระมัดระวังคือต้องพยายามพูดไม่ให้ใครบาดเจ็บเสียหายนะครับเพราะว่าผมรู้จักคุณแก้วเพราะเป็นเพื่อนรุ่นน้องของคุณวรรณา(คุณแม่น้องเพชร) ผมเจอคุณแก้วที่บ้านเมื่อ 20 ปีก่อนเขามาหาคุณณา หลังจากนั้นก็คบกันมา 11 ปี เป็นคนน่ารัก ผมไม่เคยคิดว่าเขาเป็นภรรยาน้อย แต่เป็นภรรยาของผมอีกคนหนึ่ง ก็เข้าใจเขานะที่วันนี้เขาเลือกทางเดินของเขาคืออาจจะอยากมีชีวิตของเขาเอง”นิ่งไปเป็นครู่ก่อนจะสามารถบอกเล่าต่อถึงสตรีในดวงใจได้

“ตอนนี้ผมมาอยู่บ้านที่เคยอยู่กับคุณแก้วย่านพระราม 9 ส่วนคุณแก้วออกไปอยู่ของเขาเองแล้ว เขาอยากได้ชีวิตใหม่ ที่เราจากกันผมคิดว่าส่วนหนึ่งเพราะผมมุ่งกับงานมาก ก็มีเวลานะแต่ว่าผมเครียดกับงาน แล้วก็ไม่ใช่คนที่สนุกสนานเหมือนเดิมในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา”

รักซ้อน ขณะที่ชีวิตครอบครัวยังคงอยู่ สถานะแต่ละคนเป็นเช่นไร “ตลอดเวลาผมไม่เคยคิดว่าเขาเป็นภรรยาน้อยเพื่อนๆ เราก็ไม่เคยคิดว่าเขาเป็นภรรยาน้อยแต่เป็นภรรยาคนหนึ่งของคุณบุญชัย...ใช่ไหม (ท้ายประโยคราวกับจะตั้งคำถามกับตนเองและผู้ฟัง) “จะว่าไปส่วนหนึ่งเขาก็เป็นคู่คิดให้ผมด้วยเป็นคู่คิดเป็นคู่ทุกข์คู่ยากเหมือนกับคุณณา(คุณวรรณา-ภรรยาที่เพิ่งหย่าร้าง)นั่นแหละแต่มีช่วงหนึ่งของชีวิตที่ผมไปอยู่กับดาราคนหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่ผมไม่ได้เจอคุณแก้วเลย แล้ววันหนึ่งผมวกกลับมาที่บ้านหลังเลิกกับดาราคนนั้นไป ก็เป็นช่วงที่กลับมาเจอคุณแก้วอีก เหมือนว่ากลับมาเจอทั้งคุณณาและคุณแก้ว ตอนนั้นผมยังไม่ได้ตัดสินใจว่าผมจะเอาอย่างไร ก็เลยคบทั้ง 2 คนเจอกันครั้งแรกยังไม่มีอะไรเพียงแต่คุยกันเฉยๆ รู้แต่ว่าเราประทับใจเขาเป็นคนผมสวยหน้าตาก็สวยผมชอบศิลปะก็จะเป็นอย่างนี้ชอบอะไรสวยๆงามๆ (หัวเราะ)”

 

จะด้วยรอนานหรือคร้านจะรอ วันหนึ่งจึงปรากฏภาพความสนิทสนมระหว่างเธอและดาราหนุ่ม เต๊ะ-ศตวรรษ เศรษฐกร ซึ่งเมื่อWhO?สอบถามคุณแม่ของฝ่ายชาย พรภัคกุล (พรศรี) เศรษฐกร เธอก็ยอมรับว่ารู้จักสาวสวยผู้นี้จากการแนะนำของลูกชายและเคยพาไปบริจาครถตู้ให้แก่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ที่จ.กาญจนบุรีซึ่งเป็นบ้านเกิดของฝ่ายชาย โดยเต๊ะแนะนำว่าเป็นเพื่อนหลังจากนั้นเคยไปรับประทานอาหารด้วยกันจริง แต่มีเธอร่วมวงอยู่ด้วยส่วนความสัมพันธ์นอกเหนือกว่านั้นเธอไม่รู้รายละเอียด ทั้งไม่รู้ด้วยว่าคุณแก้วสาวสวยรายนี้เป็นใครมาจากไหน แต่ในฐานะแม่หากลูกชายมีส่วนทำให้ครอบครัวอื่นแตกแยกหรือเป็นมือที่ 3 ตามที่เป็นข่าวก็คงไม่สบายใจนัก ...

 

ส่วนคนเฝ้ารอ นักธุรกิจมากเสน่ห์-เจ้าสัวบุญชัย พินิจเรื่องราวดังกล่าวอย่างเข้าใจชีวิต “ผมก็เสียใจนะเพราะว่าเราพยายามขอคืนดีแต่ก็เข้าใจว่าเขาเองก็อยากไปมีชีวิตใหม่อยากจะมีเพื่อนคู่ใจในขณะที่เขายังไม่แก่เกินไปก็ดีนะ(ถอนใจเฮือกใหญ่ ก่อนนิ่งไปเป็นครู่) “ไม่ได้คุยกันนานแล้วตั้งแต่วันที่เปิดตัวหนังสือมายาชาแนลเมื่อปลายปีที่ผ่านมาพยายามขอคืนดีกับเขาแต่ผมก็เข้าใจนะว่าพอหมดรักแล้วง้อยังไงก็ง้อไม่ขึ้น(เสียงอ่อย) คงไม่พยายามอีกแล้วล่ะเพราะว่าเขาคงได้พบกับคนที่เขาชอบเราต้องแมนๆโดยปริยายใช่ไหมเราจะไปตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกคงไม่พยายามอีกแล้ว... “อย่างคุณแก้วน่ะผมรักเขาแบบฝากผีฝากไข้เลยนะถึงทำบ้านหลังที่อยู่ปัจจุบันต้นไม้ทุกต้นเราก็ปลูกด้วยกันในบ้านหลังนี้เราทำอะไรๆด้วยกันหมดต้นไม้เยอะจนเขาเรียกบ้านต้นไม้เนื้อที่3 ไร่ก็ค่อนข้างใหญ่แต่...เขาไม่อยู่แล้ว(เสียงแผ่วลง)ออกจากบ้านไปเมื่อ 2 เดือนก่อนทิ้งยายไว้ให้ผมช่วยดูแลผมก็ยังดูให้อยู่”
หรือหวังว่าวันหนึ่งเธอจะหวนคืน??

ยิ่งรักมากยามร้างราก็เจ็บมากเป็นธรรมดาแววตาราวกับเหงาลงเมื่อเอ่ยถึงความรู้สึกณวันนี้“ยอมรับว่า...รักเขามากการที่ต้องเสียเขาไปก็ต้องใช้เวลาในการทำใจเพราะว่าผมรักเขามากทุกวันนี้ยังบอกว่ารักมากแต่เมื่อเขาอยากให้ผมปล่อยเขาเราก็ต้องปล่อย(นิ่งอั้น)คนเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาน่ะช่วงที่ผมเคยผ่านวิกฤตเศรษฐกิจเขาเป็นหลักคนหนึ่งที่คอยคิดโน่นคิดนี่ให้ “เวลาเราไม่ชอบใครโมโหใครเขาก็จะเป็นเดือดเป็นร้อนแทนทั้งๆที่ยังไม่เคยรู้จักเลยเขาบอก...เกลียดมัน(หัวเราะ) เพราะพี่เกลียดหนูก็เกลียดเขาจะเป็นคนอย่างนี้ (น้ำเสียงชื่นชม) เขาไม่มีตรงกลางนั่นล่ะคือปัญหาถ้าเขาตัดสินใจแล้วจะ...ไปเลยประมาณนั้น”

หากจะถามหาสาเหตุที่เธอต้องจากไปคุณบุญชัยยอมรับว่าเป็นเพราะเรื่องราวรอบๆตัวความสัมพันธ์ที่เคยแนบแน่น จึงมีช่องว่างเกิดขึ้น
“ผมว่าผมดูแลนะเพียงแต่ว่าหลังๆผมอาจจะเครียดกับเหตุการณ์บ้านเมืองเครียดกับวิธีคิดอะไรมากไปนิดก็อาจจะห่างเหินกันทางความคิดคือพอห่างเหินกันแล้วอะไรๆมันก็เปลี่ยนไปอยู่ด้วยกันก็จริงแต่เราจะซ้ำๆซากๆอยู่อย่างนั้นผมนั่งดูทีวีเขาไปรดน้ำต้นไม้แทนที่จะไปยืนรดน้ำต้นไม้ด้วยกันคุยกันบ้างสิ่งเหล่านี้มันขาดหายไปในช่วง2 ปีหลัง
“ผมไม่ได้นอกใจ ไปมีใครหรือไปมีอีหนูผมใช้เวลากับเขามากกว่าใช้เวลากับคนอื่นในชีวิตผมใช้เวลาที่ทำงานน้อยกว่าที่อยู่กับเขาอีก”ราวจะตัดพ้อ ราวจะต่อว่า ถึงคนที่ถอยห่างออกไป

“10 ปีเต็มกับการใช้ชีวิตร่วมกัน 1 ปีเต็มที่ผมพยายามกลับไปอยู่กับเขาขณะที่เขาก็คบคนอื่นด้วยขณะที่เราไปขอคืนดีแต่เขาเพิ่งย้ายออกไปเมื่อ 2 เดือน” เรียบเรียงความสัมพันธ์อย่างร้าวรานใจ

“ผมอาจจะหย่าช้าไปทั้งที่ไม่อยากคิดแบบนั้นแต่ผมตั้งใจว่าจะแต่งงานกับเขาแหวนแต่งงานก็ยังอยู่เขาเอามาคืนให้บ้านรถยนต์ที่ผมซื้อให้เขาเอามาคืนหมดเลยอะไรที่เป็นของใหญ่ๆอย่างบ้านเนื้อที่3 ไร่รถปอร์เช่แหวนแต่งงานเขาเอามาคืนให้ผมหมดไม่อยากคิดว่ามีมือที่ 3 แต่ที่เห็นจากรูปที่ข่าวลงตีพิมพ์แล้วยอมรับว่าเสียใจและเจ็บ”ความรู้สึกที่ราวจะเค้นมาจากก้นบึ้งหัวใจ ขณะที่ดวงตาคลอคลองด้วยความเศร้า “ผมพยายามคิดว่ามันเป็นสิทธิของเขาแต่ก็ขออย่างหนึ่งคืออะไรที่ผมทำให้คุณแก้วก็เป็นของคุณแก้วเท่านั้นผู้ชายคนอื่นจะมายุ่งไม่ได้ซึ่งเขาก็แฟร์นะเขาบอกผมว่าถ้าอย่างนั้นพี่เอาบ้านไปหนูก็ไปก็เป็นสิทธิของเขา”นอกจากความรักที่ยังติดตามเธอไป มีอะไรติดไม้ติดมือ “อดีต”ของเขาไปบ้าง 

“รถ บ้าน ของใหญ่ๆเขาก็เอามาคืนแล้ว” ส่วนเงินทองคุณบุญชัยย้ำว่าเป็นเรื่องของฝ่ายหญิงที่เขาไม่เกี่ยวข้อง “เดี๋ยวผมหาใหม่ได้เยอะแยะไปเอ้อ...ไม่เยอะหรอกครับตามอัตภาพของผม” เปลี่ยนคำพูดอย่างถ่อมตัว 

“ใครเป็นเมียผมก็ควรจะได้ตามสิทธิแต่แกได้น้อยสุดไม่อยากบอกจำนวนอย่าพูดดีกว่าเดี๋ยวจะเป็นภัยกับตัวเองเดี๋ยวแกจะกลายเป็นม่ายตีราคาเท่านั้นเท่านี้เราไม่รู้ว่าใครเข้ามาเพื่อเงินหรือเพื่ออะไรบ้างสู้ให้แกมีเส้นทางที่ค่อนข้างดีปลอดภัยดีกว่าอยากให้คนรักแกเพราะว่าแกเป็นคนที่ดีน่ารักแกสวยอยู่แล้วไม่ต้องห่วงใช่ไหมผมไม่อยากให้คนเข้ามายุ่งกับชีวิตแกเพราะว่า‘เงิน’ ผมว่าไม่แฟร์ที่จะไปพูดอย่างนี้”

 

  หากฝากบางประโยคไปถึงหญิงในดวงใจได้ เขาอยากบอกอะไรถึงเธอ เจ้าสัวใหญ่นิ่งอึ้งไปชั่วขณะก่อนยิ้มโรย “แหม…มันจะลิเกไปหน่อยรึเปล่าความรู้สึกดีๆ วันนี้เหรอ มันเยอะเสียจนพูดไม่ถูก คือผมยังไม่เคยลืมสัญญาที่เราสัญญากันไว้ว่าเราจะแก่…แก่จริงๆเราจะปล่อยให้ผมหงอก (ชี้ไปที่ผมตัวเอง)แล้วไม่ไปทำศัลยกรรมไม่ทำอะไรเราจะแก่ไปด้วยกัน จะใช้ชีวิตที่ยาวนานด้วยกัน

“ผมอาจจะตัดสินใจหย่าช้าเกินไป(เสียงเบาลงเหมือนรำพึง)แต่ว่าตอนนั้นก็ไม่อยากทำร้ายจิตใจคุณณาเขาเป็นแม่ของลูกเรา2 คนแล้วยังดูแลน้องหนึ่ง(ศุภรัตน์-ลูกสาวคนโตจากภรรยาอื่น) ให้อีกตั้งแต่อายุขวบเดียว แม่น้องหนึ่งไปมีคนใหม่ และแม่น้องแก้ว(อดีตภรรยาอีกคนซึ่งขอแยกไปมีครอบครัวใหม่ที่ออสเตรเลีย) ก็ไปมีคนใหม่ “ผมคิดว่ามันเป็นวิบากกรรมเก่าผมคงไปสร้างกรรมพวกนี้ไว้ก็ยอมรับนะไม่งั้นอาจจะติงต๊องไปแล้ว (ยิ้มแต่ถอนหายใจยาว) ถามว่าจะมีโอกาสรีเทิร์นกันอีกไหมผมตอบไม่ได้ได้แต่แอบหวังไว้ผม...(น้ำตาเอ่อคลอเบ้าอีกครั้ง) ไม่พยายามคิดล่ะครับผมรู้ดีว่าคุณแก้วเขาเป็นคนอย่างไรลองตัดสินใจแล้ว เขาจะไม่กลับเด็ดขาดผมไม่มีอะไรต้องให้อภัยเขาเขาเองก็ไม่มีอะไรต้องให้อภัยผมวิถีชีวิตทุกคนเลือกได้ใช่ไหมครับอย่างวันหนึ่งแม่ของน้องแก้วเขาอยากจะมีชีวิตใหม่เขาขอว่าจะไปมีแฟนฝรั่งออสเตรเลียเฮ้อ(เสียงสูง) ก็โมโหอยู่สักชั่วโมงหนึ่งแต่นึกถึงชีวิตเขาแล้ว why not?”

“ตอนนี้ผมพูดจริงๆว่าเสียเซลฟ์เพราะถ้าคนที่มาแทนที่เรามีแต่หนุ่มๆหล่อๆทั้งนั้นเราต้องตั้งคำถามแล้วล่ะ(หัวเราะ) ความร่วงโรยไปกับเวลาของเรามันอาจจะทำให้เราเจ็บซ้ำสามซ้ำสี่ซ้ำห้ามันไม่ไหวนะ “ผมยังไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นยังไงคิดแต่ว่าเรายังมีอะไรเบื้องหน้าทำก่อนดีไหมกองถ่าย(งานที่หันมาลงทุนระยะหลัง)ก็จะมีความสนุกสนานให้เราได้ทำมีดาราเยอะแยะเราก็จะได้สนุกกับโลกมายาจะมีเพื่อนกลุ่มใหม่ที่เราจะทำงานด้วย “คือน้อมรับไว้แล้วว่าชีวิตมันต้องเป็นอย่างนี้เพียงแต่ตื่นเช้ามายังเห็นเสื้อผ้าเขาเต็มบ้านเข้าห้องน้ำแปรงฟันแปรงสีฟันก็ยังอยู่เลยอะไรแบบนี้โอเคเรายังนึกว่าเขายังอยู่บางคืนมีหมอนอยู่ข้างๆเราแตะๆก็เหมือนสะโพกเขา(หัวเราะ)แล้วเราก็หลับไปแหม...นะแล้วแต่มุมมองคนบางคนอาจจะบอกว่า...ผมแรดก็ได้

“ระหว่างใช้ชีวิตด้วยกันเรารักกันมากคือคุณแก้วอาจจะผ่านช่วงชีวิตที่คุณณาหรือแม่ของน้องแก้วหรือแม่น้องหนึ่งเขามีปัญหากันไปแล้ว
“ผมว่าเรื่องความรักคนไม่โดนกับตัวเองไม่รู้หรอกเพราะฉะนั้นคนจะถามว่าชอบเขาตั้งแต่เมื่อไรทำไมจึงชอบผมก็บอกว่าผมชอบเขามาตั้ง20 ปีแล้วได้อยู่กับเขา 10 ปีคิดว่าพอแล้วนะพอที่จะทำให้เราไม่อกหัก”

“ครั้งนั้นเราไปฮ่องกงด้วยกันแล้วเครื่องบินไฟไหม้ กัปตันบอกว่าต้องลงด่วนทุกคนบนเครื่องเงียบหมดอารมณ์เหมือนเราจะตายถึงจุดนั้นผมกุมมือเขาแล้วเขาก็กุมมือผมเราต่างมองหน้ากันไม่ได้พูดอะไรได้แต่มองกันแล้วเราก็ยิ้มเออ...ก็ดีนะมีความประทับใจร่วมกันถ้ามีอะไรขึ้นเราก็ไปด้วยกัน

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราประทับใจผมว่าคนเราผ่านจุดที่เกือบตายมาแล้วไม่ได้แบบ...”ยังไม่ทันจบประโยคคุณบุญชัยก็เงียบลงดื้อๆ ไม่ยอมต่อให้จบ ราวกับความรู้สึกท่วมท้นจนเกินจะเอ่ยต่อได้ปล่อยให้ผู้ฟังเดาประโยคต่อไปต่างๆนานาแต่เพียงเท่านี้ก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของคุณบุญชัยแล้วว่าผู้หญิงที่ชื่อเบญจาบารมีย์มีอิทธิพลต่อชีวิตคุณบุญชัยแค่ไหนเขายอมรับอย่างไม่ปิดบังว่า“เสียใจและเจ็บปวดที่สุด"

 

เปิดตัวลูกๆที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน
หลังจากวางรากฐานทางธุรกิจไว้อย่างมั่นคงถึงเวลาที่คุณบุญชัยจะจัดการชีวิตส่วนตัวให้เข้าที่และเขาก็ทำเซอร์ไพรส์อีกครั้งด้วยการเปิดตัวทายาทที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวทั้ง 5 งานนี้ทำเอาคนฟังถึงแก่อึ้งไปชั่วขณะยิ่งเมื่อรู้ว่าลูกบางคนเพิ่งมีโอกาสพบหน้ากันเป็นครั้งแรกก็วันที่ WhO? สัมภาษณ์นี่แหละยิ่งชวนแปลกใจเป็นทวีคูณ

“จริงๆไม่มีอะไรหรอกครับแต่ถึงช่วงเวลาที่ผมสะดวกจะรับรองบุตรและทำพินัยกรรมให้ลูกๆทั้งหมดเมื่อก่อนเขายังเด็กๆกันอยู่ถึงตอนนี้ทุกคนโตแล้วคิดว่าไม่มีอะไรต้องปิดบังใครอีกผมมีลูก5 คนลูกสาว 3 คนลูกชาย 2 คน ...

 

คนโตคือ น้องหนึ่ง-ศุภรัตน์ เป็นลูกของผมกับคุณวาสนาซึ่งตอนนี้คุณแม่เขาก็ไปมีครอบครัวใหม่นานแล้วถัดมา น้องเพชร-บุญญาภาณิ์และน้องคิด-คณชัย เป็นลูกผมกับคุณวรรณาส่วนน้องแก้ว-กัลยาและน้องเบ็น-เบญจามินเป็นลูกของคุณเบญจมาศซึ่งตอนนี้เขาก็อยู่ออสเตรเลียส่วนอีก2 คน(สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์และเบญจา บารมีย์)ไม่มีลูกด้วยกัน “พอดีน้องแก้วกลับมาจากออสเตรเลียเพื่อเยี่ยมคุณพ่อเขาอยู่เมืองนอกตั้งแต่อายุ 11 ขวบก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรที่เมืองไทยไม่รู้ว่าวันนี้เขาสัมภาษณ์อะไรกัน (หัวเราะ) น้องหนึ่งลูกสาวคนโตเพิ่งแต่งงานออกไปอยู่กับสามีที่ฮ่องกงผมเลยอยากจะให้เขาได้เจอกันส่วนน้องเพชรตอนนี้เรียนปริญญาโทอยู่ที่จุฬาฯนี่มาแป๊บนึงใช่ไหมลูกมาปรากฏกายเดี๋ยวจะนินจาไปแล้วใช่ไหม(หันไปกระเซ้าน้องเพชรซึ่งกำลังให้เมกอัพอาร์ติสต์แต่งหน้าอยู่ไม่ไกล)”
“ใช่ค่ะ”ลูกสาวคนสวยพลอยเออออกับคุณพ่อ

พินัยกรรมสำหรับลูกทั้ง5?? “เดิมทีผมจะไม่เอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคือผมคิดว่าคนรู้ไปแล้วทำไม...ใช่ไหม” บรรยากาศเริ่มชวนหายใจติดขัดเมื่อคุณบุญชัยเอ่ยถึงบางมุมของชีวิตที่มิได้เปิดเผยมาก่อน 

“แต่พอดีช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมสะดวกที่จะรับรองบุตรสะดวกทำพินัยกรรมคือผมแบ่งทรัพย์สินให้แต่ละคนไปแล้วไม่ต้องการให้เขามาทะเลาะกันทีหลังหากผมเสียชีวิตให้ทุกคนรู้ว่าตัวเองมีแล้วนะไม่ต้องแย่งกันส่วนที่เหลือขณะที่พ่อทำอยู่และยังไม่ได้ไปไหนยูก็ได้เท่ากันวันนี้พวกหนูไม่ต้องห่วงหรอกเพราะพ่อไม่ต้องแบ่งให้แม่หนูแต่ละคนวันนี้พ่อมีแต่พวกหนู5 คนนี่แหละพ่อแบ่งแค่นี้” เจ้าสัวเอ่ยให้ลูกๆได้ยินทั่วกัน

“น้องของพ่อเขาก็รวยทุกคน ไม่ต้องไปแบ่งเขาหรอก (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นของหนูได้เท่านี้หนูไม่ต้องเกลียดหรือโกรธอะไรกันทั้งนั้นทุกคนก็มีชีวิตของตัวเองพี่หนึ่งแต่งงานแล้วก็ไปอยู่กับสามีอีกหน่อยน้องเพชรมีครอบครัวก็ไปอยู่กับครอบครัวน้องแก้วมีครอบครัวก็ไปอยู่กับครอบครัวน้องคิดน้องเบ็นมีครอบครัวก็ต้องว่ากันไป”เขาว่าเพราะต่างก็เป็น“เบญจรงคกุล”เหมือนๆกัน จึงได้รับพินัยกรรมและรักจากพ่อโดยทั่วกัน

หลังจากเป็นข่าวในฐานะคุณ พ่อน้องเพชร-แฟนสาวพระเอกชาคริตมาพักใหญ่ วันนี้คุณบุญชัยยอมเปิดตัวอีกครั้ง ในฐานะคุณพ่อของลูกๆทั้ง 5 คนบ้างบางคนเพิ่งพบหน้ากันครั้งแรก โดยเฉพาะ “น้องเพชร” และ“น้องแก้ว” เนื่องจากน้องแก้วเพิ่งกลับมาเมืองไทย หลังจากใช้ชีวิตในต่างแดนอยู่หลายปี เขาว่าการให้ญาติพี่น้องได้รู้จักกันถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคนในตระกูล ที่ต้องทำ

 

... “คุณแม่น้องแก้วเป็นคนอุบลเว้าอีสานได้เลยล่ะแต่เขาอาจจะติดจริตฝรั่งมานิดหน่อยเพราะไปอยู่ออสเตรเลียตั้งแต่อายุ11 ขวบ (หยอกเย้าลูกสาวคนเล็กอย่างเอ็นดู) ส่วนคนเล็ก-น้องเบ็น(ลูกชาย) ก็แม่เดียวกันสองคนนี่ไม่เคยปรากฏกายมาก่อนแต่ตอนนี้เขาก็เป็นเบญจรงคกุลอย่างเต็มตัวเขาได้พบคุณอาได้พบลูกพี่ลูกน้องหมดแล้วคือเป็นพิธีกรรมในตระกูลเราที่ต้องให้ทุกคนรับรู้ซึ่งกันและกัน“อย่างน้องชายผมคุณสมชายก็เพิ่งทำพิธีกรรมนี้เหมือนกันแกก็มีลูก 5 คน(หัวเราะ) ต้องให้เขารู้จักกันไว้เพราะทั้งหมดลูกพี่ลูกน้องมีทั้งหมด 13 คนคุณวิชัยมีลูก 3 คนแต่แกมีเมียเดียว” หัวเราะอย่างอารมณ์ดี

 

ยินยอมเปิดเผยเรื่องลูกแล้ว ผู้หญิงซึ่งเขารับรองว่าต่างเป็น“ภรรยาคุณบุญชัย”นั่นเล่ามีจำนวนเท่าไร WhO?ถามกันตรงๆแบบนี้ทำเอาเจ้าสัวมากเสน่ห์ยิ้มเล็กน้อยก่อนย้อนกลับว่า “เอางั้นเลยหรือ” หลังใคร่ครวญเป็นครู่ จึงว่ากันตรงๆ “ที่มีบุตรด้วยกัน 3 คนส่วนที่ไม่มีบุตรอีก 2 แต่เขามากันคนละเวลานะ”ในมุมของความเป็นพ่อคุณบุญชัยว่าเขาเป็นคุณพ่อที่มีเหตุผลกับลูกๆแต่ก็เข้มงวดเรื่องระเบียบวินัยและพยายามปลูกฝังเรื่องการทำความดีแก่ลูกๆทุกคน

“ตอนเด็กๆถ้าดื้อก็ต้องตี...ตีก้นลูกแต่ละคนจะมีบุคลิกไม่เหมือนกันบางคนยังไม่ทันตีเลยร้องลั่นบ้านแล้ว(หัวเราะ) ก็ต้องมีเหตุผลกับเขาคนที่ซนที่สุดน่าจะเป็นน้องเพชร (ลูกสาวส่งเสียงหวานมาแต่ไกล‘คุณพ่ออย่าเผานะคะ’ขณะที่คุณพ่อก็รีบแย้งทันที‘ไม่เผา...แต่ลูกซนที่สุดไง’) เขาจะไม่ยอมคนมีนิสัยนักสู้เหมือนพ่อถูกตีไม่ร้องไห้นะแต่จะกลับมาขู่พ่อแล้วก็วิ่งหนีไป”เล่าแกมหัวเราะเมื่อพูดถึงลูกๆด้วยสีหน้าอ่อนโยน

“พอโตขึ้นมาอีกหน่อยผม พยายามให้พวกเขาได้เรียนรู้จากพ่อเพราะพ่อก็รู้ว่าตัวเองเป็นนักสู้ชีวิตพ่อ ได้เรียนรู้จากปู่กับย่ามาเยอะคุณแม่ผมจะเป็นต้นแบบของพวกเราเลยฉะนั้นผมก็ พยายามเลี้ยงลูกเหมือนกับที่คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงเรามาเพราะเห็นว่าวิธีที่พ่อ กับแม่เลี้ยงเรายามท่านจากไปเราก็เอาตัวรอดได้สู้ชีวิตได้บางทีทำมาหากิน อย่างเดียวไม่สู้คนก็แย่เหมือนกัน”

ปล่อยลูกเลือกทางเดินเองปั้นธุรกิจสื่อสารค่ายดีแทคจนกลายเป็นธุรกิจขนาดยักษ์ แต่วันหนึ่งเมื่อเขาเลือกวางมือ และหันมาทำธุรกิจที่อยากทำโดยมีบริษัทเบญจจินดาเป็นหลัก เมื่อถึงรุ่นลูกๆคุณบุญชัยจึงเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ทำอย่างที่อยากทำอย่าง เท่าเทียมกันนอกเหนือจากทรัพย์สมบัติที่ทุกคนได้ส่วนแบ่งไปแล้ว 

“ต่อไปเขาต้องเลือกเองเช่นถ้าเลือก Content ก็อยู่บริษัทหลักเบญจจินดาเลือกพิพิธภัณฑ์ก็อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วม สมัยถ้าเลือกการแสดงซึ่งตอนนี้กำลังเชียร์น้องเพชรให้มาดูอันนี้เพราะ ว่าSweetheart (หมายถึงพระเอกหนุ่ม-ชาคริตแย้มนาม) เขาก็อยู่ในวงการผมเลยบอกให้มาดูตรงนี้สิเพราะบีบีพิคเจอร์สร้างหนังหรือจะ มาทั้ง 3 คนก็ได้เพราะว่าของพ่อน่ะ...ฟอร์มใหญ่

 

  “หลังจากผมรับรองบุตร 2 คนเล็กเรียบร้อยแล้ว ก็ให้เขาพบกับคุณอาเขาทั้งหมดนี่ก็เริ่มพบญาติลูกพี่น้องลูกน้องวันหนึ่งเขาต้องอยู่ด้วยกันในอาณาจักรของเรา(ทอดสายตาไปที่ตึกซึ่งกำลังก่อสร้าง) 2-3 ตึกนี่เป็นที่ของเราเองเขาต้องแบ่งกัน 13 คน(ลูกหลาน)ก็ต้องช่วยกันคนละไม้ละมือต่อไป” 

ในฐานะพี่ใหญ่ คุณบุญชัยวางรากฐานไว้ให้ลูกหลานอย่างงดงาม มีการวางอนาคตไว้อย่างเป็นขั้นตอนแบ่งสรรปันส่วนแก่ทุกคนในครอบครัวเบญจรงคกุลโดยเสมอหน้ากัน ทั้งยังได้ทำงานที่ตัวเองรักและทำบุญสร้างประโยชน์แก่สังคมมาระยะหนึ่งแล้วคุณบุญชัยว่านับจากนี้จึงไม่มีสิ่งใดที่เป็นห่วงอีกต่อไปหากได้เวลา...จากไปก็ไม่เสียดาย“ทุกคนได้สิทธิเท่ากันเรียนเมืองนอกเหมือนกันเรียนเมืองไทยก็เรียนโรงเรียนดีเกิดก็เกิดโรงพยาบาลดีเราดูแลเขาอย่างดีที่สุดอาจจะไม่ยุ่งซึ่งกันและกันในช่วงเด็กๆเพราะเด็กๆยังไงเขาก็คุยไม่รู้เรื่องหรอกรอให้มาเจอกันตอนบรรลุนิติภาวะแล้วดีกว่าซึ่งทุกคนก็มีทรัพย์ของตัวเองแล้วอยู่ที่ว่าเขาอยากทำงานกับคุณพ่อไหมตอนนี้เริ่มเข้าวัยที่ทุกคนจะเริ่มทำงานเลยอยากให้รู้จักกัน

“ผมคิดว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เหมาะที่สุดที่ผมจะทำอะไรให้ชัดเจนแล้วถ้าผมจะสามารถเสนอตัวรับใช้แผ่นดินได้สักวันหนึ่งก็ไม่รู้ทำอะไรล่ะแต่สมมติรับใช้แล้วผมได้จากไปก็ไม่เสียดายเพราะผมไม่ต้องกังวลไงผมรู้ว่าวันนี้ยังไงผมก็ได้ไปสวรรค์แน่ๆเพราะผมไม่ได้ทำบาปไม่ได้ทำชั่ว”เจ้าสัวใหญ่มีสีหน้าผ่อนคลายอย่างหมดห่วง
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...