10 อันดับเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลก ประจำปี 2013 (ตอนที่ 1)
โลนลี่ แพลนเน็ต เผย “10 อันดับเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลก” ประจำปี 2013 หลังรวบรวมความคิดเห็นจากเหล่านักเขียนของโลนลี่ แพลนเน็ต ตลอดจนสมาชิกเว็บไซต์ แล้วจึงนำมากลั่นกรองและคัดเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวและเดินทาง โดยไม่ได้คำนึงถึงเทรนด์การท่องเที่ยว แต่เน้นพิจารณาว่าเมืองใดที่นักท่องเที่ยวควรเดินทางไปเยือนมากที่สุดในปี 2013
10 อันดับเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลก ประจำปี 2013 ได้แก่…
อันดับที่ 10 เมืองปัวร์โต อิกวาซู จังหวัดมีซีโอเนส ประเทศอาร์เจนตินา
ดีที่สุดสำหรับ: ครอบครัว, กิจกรรม, การผจญภัย
เมืองปัวร์โต อิกวาซู (Puerto Iguazú) เป็นที่ตั้งของน้ำตก “อิกวาซู” ซึ่งทอดตัวเป็นแนวยาวระหว่างพรมแดนประเทศบราซิล-อาร์เจนตินา และได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกมาหมาดๆ เมื่อปลายปีที่แล้ว ด้วยความที่เป็นเมืองท่องเที่ยว เมืองนี้จึงเต็มไปด้วยโรงแรมหรู สปา และสุดยอดโฮสเต็ล แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่น่าสนใจหลายแห่งอีกด้วย
**
อันดับที่ 9 เมืองอาดดิส อาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย
ดีที่สุดในด้าน: วัฒนธรรม, อาหาร, ความคุ้มค่า
“อาดดิส อาบาบา (Addis Ababa)” หรือ “แอดดิส อาบาบา” เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศเอธิโอเปีย ทั้งยังเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง เช่น สำนักงานใหญ่องค์การเอกภาพแห่งแอฟริกา และสำนักงานใหญ่คณะกรรมการเศรษฐกิจแห่งแอฟริกา (UNECA) ขององค์การสหประชาชาติ เป็นต้น ที่ผ่านมาเมือง “อาดดิส อาบาบา” ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ยิ่งมีการคาดการณ์ว่าในปีหน้าเศรษฐกิจของเอธิโอเปียจะเติบโตขึ้นเกือบ 5% ก็ยิ่งทำให้เมืองนี้แลดูน่าเชื่อถือและน่าไว้วางใจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่นักท่องเที่ยวที่ยังไม่เคยเดินทางไปเยือนเอธิโอเปียมาก่อน
ไฮเวย์มูลค่า 3 พันล้านบาทในเมือง “อาดดิส อาบาบา” ที่พัฒนาโดยบริษัทรับเหมาจากประเทศจีน
**
อันดับที่ 8 เมืองมอนทรีออล รัฐควิเบก ประเทศแคนาดา
ดีที่สุดในด้าน: วัฒนธรรม,งานรื่นเริง, ความคุ้มค่า
มอนทรีออล (Montréal) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในรัฐควิเบก และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศแคนาดา ทุกครั้งที่มีการจัดอันดับโลก เมืองนี้มักติดโผเข้ามาเป็นอันดับต้นๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเมืองสะอาด เมืองน่าอยู่ หรือเมืองที่อยู่แล้วมีความสุขที่สุดในโลก เป็นต้น นอกจากนี้ มอนทรีออล ยังได้รับยกย่องว่าเป็นเมืองหลวงด้านวัฒนธรรมของประเทศแคนาดา แถมองค์การยูเนสโกยังขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งดีไซน์อีกด้วย ในปีนี้ มอนทรีออลถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “หุ่นยนต์ล้างโลก (Robopocalypse)” ของสตีเว่น สปีลเบิร์ก ขณะที่ในปีหน้าจะมีการเปิดตัวโครงการใหญ่ ”ริโอ ทินโต อัลแคน แพลนเนทาเรี่ยม” ตลอดจนโรงแรมหรูและพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ อีกทั้งยังมีงานฉลองครบรอบ 50 ปีศูนย์ศิลปะ ”เพลส เดส อาร์ต” อีกด้วย
**
อันดับที่ 7 เมืองโฮบาร์ต รัฐแทสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย
ดีที่สุดในด้าน: วัฒนธรรม,งานรื่นเริง, อาหาร
โฮบาร์ต (Hobart) เป็นเมืองหลวงของรัฐแทสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1804 (พ.ศ. 2347) ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวง (ของรัฐ) ที่เก่าแก่เป็นอันดับสองของออสเตรเลีย (รองจากซิดนีย์) ปัจจุบัน เป็นเมืองท่าและเมืองท่องเที่ยวสุดฮิป ที่เต็มไปด้วยสีสันและมีกิจกรรมต่างๆ ให้เลือกทำเลือกชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา ศิลปวัฒนธรรม อาหาร เทศกาลและงานรื่นเริงต่างๆ เป็นต้น
**
อันดับที่ 6 เมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์
ดีที่สุดด้าน: วัฒนธรรม, งานรื่นเริง, ครอบครัว
แหล่งช้อปปิ้งแห่งใหม่ที่มีการนำตู้คอนเทนเนอร์มาดัดแปลงเป็นร้านค้า
หลังประสบเหตุแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงในปีที่ผ่านมา “ไครสต์เชิร์ช (Christchurch)” ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในเกาะใต้ ก็เริ่มเดินหน้าพัฒนาและฟื้นฟูเมืองภายใต้ความมุ่งมั่น ร่วมแรงร่วมใจ และใช้ไหวพริบในการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ส่งผลให้ไครสต์เชิร์ชในปัจจุบัน กลายเป็นเมืองใหม่ที่มีแหล่งอาหารนานาชาติให้เลือกรับประทานหลากหลาย นับตั้งแต่อาหารพม่าไปจนถึงอาหารตุรกี ทั้งยังมีสถานที่ฟังเพลง (แสดงดนตรีสด) ให้เลือกฟังเลือกชมหลายแห่ง แม้แต่ย่าน “ซิตี้มอลล์” ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวจนต้องรื้อถอนอาคารร้านค้าหลายหลัง ก็ถูกแทนที่ด้วย “คอนเทนเนอร์มอลล์” สุดชิค ที่สร้างขึ้นชั่วคราวเพื่อคืนชีพให้กับย่านการค้า
** โปรดติดตามตอนต่อไป **